ข้อความโดย: admin
« เมื่อ: 13/05/25 »วิธีการ vs มายด์เซ็ทในการเทรด
– มีแค่เทคนิคดีเพียงพอไหม? หรือจิตใจต้องพร้อมด้วย?
“ทำไมเราเทรดระบบเดียวกันเป๊ะๆ แต่บางคนล้างพอ์รต บางคนกลับทำกำไsได้?"
ถ้าเราเคยถามคำถามนี้กับตัวเอง ไออยากบอกว่า พี่ไม่ได้ล้มเหลวซะทีเดียว แต่ยังขาดคุณสมบัติบางอย่างที่เทรดเดอร์มืออาชีพ....ต้องมีให้ครบ
คำถามที่ตามมาด้วยคำตอบในบทความนี้ จะเปลี่ยนทัศนคติต่อโลกการเทรดและมุมมองของเราไปเลย..
คำตอบคือ → เทรดให้สำเร็จไม่ได้อยู่แค่ “How to ” หรือวิธีการเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องมาพร้อมกับ “Mindset” หรือทัศนคติที่ถูกต้องด้วย
เพราะการเทรดคือ “เกมของนักคิด” ไม่ใช่ “เกมของนักเดา”
พี่ๆ ลองนึกภาพดู…
How to (วิธีการ) = กระบี่ที่โคตรคม
Mindset (วิธีคิด) = นักดาบที่ตวัดกระบี่นั้น
ถ้าพี่ถือดาบดีสุดในโลก แต่ไม่มีวินัย ไม่มีกึ๋น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรฟัน เมื่อไหร่ควรรอ หรือเองแม้กระทั่งเมื่อไหร่ควรหยุด สุดท้ายก็แพ้ให้กับคนที่มีดาบธรรมดาแต่ฝึกฝนมาอย่างหนักอยู่ดี..
"กระบี่อยู่ที่ใจ แม้นไม้ไผ่ก็ไร้เทียมทาน"
การเป็นเทรดเดอร์ก็เหมือนกัน
- มีระบบดีแต่ขาด Mindset → พอร์ตพังเพราะใจไม่นิ่ง
- มี Mindset ดีแต่ขาดระบบ → พอร์ตไม่โต เพราะไม่มีหลักการ ขาดความสามารถในการทำซ้ำ
- มีทั้งสองอย่าง → นี่คือเทรดเดอร์ที่อยู่รอดและกำไร
ทำไมคนบางคนเทรดกำไsได้ต่อเนื่อง แต่บางคนล้างพอร์ตตลอด?
เคยสงสัยไหมว่า…
- ทำไมบางคนแม้เทรดแย่ แต่พอร์ตไม่ล้าง?
- ทำไมบางคนเก่งเรื่องกราฟ แต่สุดท้ายก็หมดตัว?
...คำตอบคือ พวกเขามีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน
คนที่กำไรได้… ไม่ใช่เพราะพวกเขา “รู้มากกว่า” แต่เพราะพวกเขา “คิดต่างกว่า”
ไออยากให้พี่ๆ ลองเปลี่ยนมุมมอง
เลิกคิดว่า → “ต้องเทรดชนะทุกไม้”
เปลี่ยนเป็น → “ต้องอยู่รอดให้ได้ในเกมระยะยาว”
คนที่รอดในตลาด ไม่ใช่คนที่เทรดเก่งที่สุด… แต่คือคนที่ “ปรับตัวเก่งที่สุด” ในวันที่ตลาดไม่เป็นใจ เขาแพ้ศึก แต่ชนะสงครามในระยะยาว เพราะเมื่อชนะ จะได้มากกว่าตอนแพ้เสมอ (RRR)
HOW – เทรดยังไงให้ได้กำls?
พี่ๆ เคยเห็นไหม? บางคนมีสูตรเทพ มีระบบที่ดี แต่ยังขาดทุน… เพราะอะไร?
เพราะพวกเขา “ขาดความเข้าใจในการใช้เครื่องมือ”
1. วิเคราะห์ตลาดให้เป็น (Market Analysis)
พี่ๆ เคยเดาตลาด แล้วผิดทางกันไหมครับ?
เทรดเดอร์ที่ดี ไม่ใช่คนที่ทำนายอนาคตเก่ง แต่คือคนที่อ่านปัจจุบันได้แม่น
วิธีการที่ไอมักใช้ในการดู Market Structure
Smart Money Concept (SMC) และ Volume Profile
ตัวอย่างจริง
กลยุทธ์ที่ไอใช้บ่อยๆ หลักๆจะต้องหาโซน Demand,Supply ของ HTF ก่อนเสมอ เช่นเรารู้ว่าโครงสร้างราคาปัจจุบันเป็น SW ไอมาร์คจุดไว้ เพื่อรอการ CHoCH ใน LTF
ตอนนั้นราคาได้ขึ้นมาทดสอบโซน Supply HTF มีการ CHoCH ใน LTF และกลับมาทดสอบ Order block อีกครั้ง จึงตัดสินใจเข้าออเดอร์ตามแผน … โป๊ะ! ราคากลับตัวลงตรงจุดนั้นพอดี
เพราะการวิเคราะห์ตลาดที่ถูกต้องทำให้ไอเทรดแบบ “เห็นภาพ” ไม่ใช่เดา
2. ควบคุมความเสี่ยง (Risk Management)
“ไม่มีใครรวยจากไม้เดียว แต่มีหลายคนหมดตัวจากการขาดทุนเพียงครั้งเดียว
สิ่งที่ไอทำ:
✔ Risk-to-Reward Ratio (RRR) ไม่น้อยกว่า 1:2 หรือ 1:3
✔ ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อออเดอร์
✔ ตั้ง Stop Loss (SL) ชัดเจน ไม่ดื้อเด็ดขาด
บทเรียนจากประสบการณ์
ไอเคยคิดว่า “ไม้สุดท้ายนี้แหละ ชัวร์ ถูกทางแน่นอน!” แต่ตลาดไปคนละทางเลย แล้วเลื่อน SL หนี … ผลคือ ล้างพอร์ต = เพราะตลาดไม่เคยสนใจว่าเราคิดอะไร
3. เทรดตามแผน ไม่เทรดตามอารมณ์ (Trading Plan)
“พอร์ตส่วนใหญ่ไม่ได้ล้างเพราะระบบไม่ดี แต่มันล้างเพราะเจ้าของพอร์ตใจไม่นิ่ง”
ไอเคยเริ่มวันด้วย -100$ แล้วหัวร้อน เทรดต่อไปเรื่อยๆ … สุดท้าย -1,000$
สาเหตุมาจากขาดการคุมอารมณ์ คุมอารมณ์ไม่ได้ = อารมณ์เข้ามาเทรดแทน
MINDSET – จิตวิทยาการเทรดจึงสำคัญกว่าที่คิด
พี่ๆ เคยรู้สึกมั้ย?
- มีระบบเทรดดีๆ แต่พอร์ตไม่โต?
- บางวันกำไs บางวันพอร์ตพัง เพราะ “อารมณ์ล้วนๆ”
- เวลาเสีย มักจะรีบเข้าไม้ใหม่เพราะอยากถอนทุนคืน
- เวลาได้กำไร ก็กลัวเสียคืน เลยปิดเร็วเกินไป
ถ้าเคยเจอแบบนี้ ไอว่า “ปัญหาอาจไม่ใช่ที่ระบบ แต่เป็นที่ MINDSET”
ถ้าคุณกำลังเป็นแบบนี้อยู่ มาเรียนรู้เคล็ดลับจิตวิทยาการเทรด ที่ช่วยให้พอร์ตเติบโตได้จริงๆ ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู
ทำไมเทรดเดอร์ถึงพังเพราะจิตวิทยา?
ไอยกตัวอย่างง่ายๆ…
พี่ A มีระบบที่แม่น 80%
แต่พอเจอ 3 ไม้ติดลบ เริ่มลังเล เปลี่ยนระบบใหม่ พอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายพอร์ตไม่ไปไหน
พี่ B ได้กำไsอยู่ดีๆ
แต่พอเห็นกราฟยังวิ่งต่อ ก็เข้าเพิ่มเพราะ “เสียดายโอกาส” สุดท้ายโดนลากกลับมาขาดทุน
พี่ C ตั้ง Stop Loss ไว้แล้ว
แต่พอราคาวิ่งใกล้ๆ กลับขยับ SL หนี เพราะ “คิดว่าเดี๋ยวมันเด้ง” สุดท้าย สลิปเพจ ปลิว ไปเลย
ไอถามพี่ๆ… ปัญหาคือระบบ หรือจิตใจ?
ใช่แล้วครับ มันคือจิตใจ ไม่ใช่ระบบ!
แล้วเทรดเดอร์ที่รอด เขาคิดยังไง?
- พวกเขาเข้าใจว่า การแพ้เป็นส่วนหนึ่งของเกม
- พวกเขาโฟกัสที่กระบวนการ ไม่ใช่แค่กำไรขาดทุน
- พวกเขามีวินัย ทำตามแผนเสมอ
ไอรู้จักพี่เทรดเดอร์คนหนึ่งที่ทำกำไรได้ทุกปี เพราะเขา “ไม่สนว่าออเดอร์นี้จะชนะหรือแพ้” แต่เขา “สนใจว่า 100 ออเดอร์ผลรวมแล้ว เขายังทำกำไs ได้หรือเปล่า?”
แนวคิดนี้จึงเป็นนี่ความแตกต่างระหว่างผีพนัu vs. เทรดเดอร์ตัวจริง
แล้วพี่ๆ จะสร้าง MINDSET เทรดเดอร์ยังไงดี?
1. ฝึกมองเทรดเป็น % ของพอร์ต ไม่ใช่เงินสด
ถ้าพอร์ต 1 ล้าน แล้วเสีย 1% = ขาดทุนแค่ 10,000 บาทแต่ถ้าคิดว่า “เฮ้ย! 10,000 หายไปแล้ว” ความกลัวจะครอบงำ
2. เทรดตามแผน ไม่ใช่ตามอารมณ์
กำไร = เก็บไปตามระบบ
ขาดทุน = ปิดแล้วไปต่อ ไม่ต้องแก้แค้นตลาด
3. หยุดเทรด ถ้าหัวร้อน!
พอร์ตไม่หายไปไหน แต่ถ้าอารมณ์พังก่อน = พอร์ตหายแน่
4. คิดแบบ “เจ้ามือ” ไม่ใช่ผีพนัu
ถ้าพี่เป็นเจ้ามือคๅสิโน (House) พี่จะไม่สนว่าคืนนี้ใครชนะ ใครจะllจ็กwoตแตก แต่จะสนว่า “สุดท้ายระยะยาว ตัวเองกำไsหรือเปล่า?” และแน่นอนครับสุดท้ายเจ้ามือชนะเสมอ เพราะเขามีระบบ และปล่อยให้ระบบทำงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ ไม่ปล่อยให้สภาวะอารมณ์เข้ามาเกี่ยว
สรุป
Mindset ที่ดี = พอร์ตที่โตได้จริงครับ
แต่อย่าลืมว่า “การเทรดคือเกมระยะยาว” คนที่แพ้คือคนที่คุมอารมณ์ไม่ได้ แต่คนที่รอดคือคนที่ “เล่นตามกฎของตัวเองได้ตลอด”
พี่ๆ เคยมีโมเมนต์ที่รู้สึกว่า “ถ้าวันนั้นควบคุมอารมณ์ได้ ป่านนี้พอร์ตคงไม่พัง” มั้ย? หรือเคยเจอจังหวะที่ตลาดทดสอบจิตใจสุดๆ แล้วฝืนไม่ทำตามแผน สุดท้ายพังไปเอง?
ถ้าเคยละก็ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยน เพราะเราไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์แบบใหม่จากการกระทำแบบเดิมๆ ได้..
ขอให้โชคดี มีวินัยครับผม
______________________
สำหรับไอ คำขอบคุณที่มีความสุขที่สุด ไม่ใช่แค่การกดไลค์หรือคอมเมนต์บอกว่า “ขอบคุณนะ” แต่คือการที่พี่ๆ มาแชร์ โมเมนต์การเทรด ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่พลาด หรือช่วงที่เอาชนะความกลัวของตัวเองได้
เพราะทุกเรื่องราวที่พี่ๆ แชร์ ไม่ใช่แค่บทเรียนของตัวเอง แต่ยังช่วยให้คนอื่นได้เรียนรู้ไปด้วยกัน
มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ ไออยากฟังว่าพี่ๆ เคยเจออะไรบ้าง แล้วผ่านมันมาได้ยังไงเม้นเลย
– มีแค่เทคนิคดีเพียงพอไหม? หรือจิตใจต้องพร้อมด้วย?
“ทำไมเราเทรดระบบเดียวกันเป๊ะๆ แต่บางคนล้างพอ์รต บางคนกลับทำกำไsได้?"
ถ้าเราเคยถามคำถามนี้กับตัวเอง ไออยากบอกว่า พี่ไม่ได้ล้มเหลวซะทีเดียว แต่ยังขาดคุณสมบัติบางอย่างที่เทรดเดอร์มืออาชีพ....ต้องมีให้ครบ
คำถามที่ตามมาด้วยคำตอบในบทความนี้ จะเปลี่ยนทัศนคติต่อโลกการเทรดและมุมมองของเราไปเลย..
คำตอบคือ → เทรดให้สำเร็จไม่ได้อยู่แค่ “How to ” หรือวิธีการเพียงอย่างเดียว แต่มันต้องมาพร้อมกับ “Mindset” หรือทัศนคติที่ถูกต้องด้วย
เพราะการเทรดคือ “เกมของนักคิด” ไม่ใช่ “เกมของนักเดา”
พี่ๆ ลองนึกภาพดู…
How to (วิธีการ) = กระบี่ที่โคตรคม
Mindset (วิธีคิด) = นักดาบที่ตวัดกระบี่นั้น
ถ้าพี่ถือดาบดีสุดในโลก แต่ไม่มีวินัย ไม่มีกึ๋น ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรฟัน เมื่อไหร่ควรรอ หรือเองแม้กระทั่งเมื่อไหร่ควรหยุด สุดท้ายก็แพ้ให้กับคนที่มีดาบธรรมดาแต่ฝึกฝนมาอย่างหนักอยู่ดี..
"กระบี่อยู่ที่ใจ แม้นไม้ไผ่ก็ไร้เทียมทาน"
การเป็นเทรดเดอร์ก็เหมือนกัน
- มีระบบดีแต่ขาด Mindset → พอร์ตพังเพราะใจไม่นิ่ง
- มี Mindset ดีแต่ขาดระบบ → พอร์ตไม่โต เพราะไม่มีหลักการ ขาดความสามารถในการทำซ้ำ
- มีทั้งสองอย่าง → นี่คือเทรดเดอร์ที่อยู่รอดและกำไร
ทำไมคนบางคนเทรดกำไsได้ต่อเนื่อง แต่บางคนล้างพอร์ตตลอด?
เคยสงสัยไหมว่า…
- ทำไมบางคนแม้เทรดแย่ แต่พอร์ตไม่ล้าง?
- ทำไมบางคนเก่งเรื่องกราฟ แต่สุดท้ายก็หมดตัว?
...คำตอบคือ พวกเขามีวิธีคิดที่ไม่เหมือนกัน
คนที่กำไรได้… ไม่ใช่เพราะพวกเขา “รู้มากกว่า” แต่เพราะพวกเขา “คิดต่างกว่า”
ไออยากให้พี่ๆ ลองเปลี่ยนมุมมอง
เลิกคิดว่า → “ต้องเทรดชนะทุกไม้”
เปลี่ยนเป็น → “ต้องอยู่รอดให้ได้ในเกมระยะยาว”
คนที่รอดในตลาด ไม่ใช่คนที่เทรดเก่งที่สุด… แต่คือคนที่ “ปรับตัวเก่งที่สุด” ในวันที่ตลาดไม่เป็นใจ เขาแพ้ศึก แต่ชนะสงครามในระยะยาว เพราะเมื่อชนะ จะได้มากกว่าตอนแพ้เสมอ (RRR)
HOW – เทรดยังไงให้ได้กำls?
พี่ๆ เคยเห็นไหม? บางคนมีสูตรเทพ มีระบบที่ดี แต่ยังขาดทุน… เพราะอะไร?
เพราะพวกเขา “ขาดความเข้าใจในการใช้เครื่องมือ”
1. วิเคราะห์ตลาดให้เป็น (Market Analysis)
พี่ๆ เคยเดาตลาด แล้วผิดทางกันไหมครับ?
เทรดเดอร์ที่ดี ไม่ใช่คนที่ทำนายอนาคตเก่ง แต่คือคนที่อ่านปัจจุบันได้แม่น
วิธีการที่ไอมักใช้ในการดู Market Structure
Smart Money Concept (SMC) และ Volume Profile
ตัวอย่างจริง
กลยุทธ์ที่ไอใช้บ่อยๆ หลักๆจะต้องหาโซน Demand,Supply ของ HTF ก่อนเสมอ เช่นเรารู้ว่าโครงสร้างราคาปัจจุบันเป็น SW ไอมาร์คจุดไว้ เพื่อรอการ CHoCH ใน LTF
ตอนนั้นราคาได้ขึ้นมาทดสอบโซน Supply HTF มีการ CHoCH ใน LTF และกลับมาทดสอบ Order block อีกครั้ง จึงตัดสินใจเข้าออเดอร์ตามแผน … โป๊ะ! ราคากลับตัวลงตรงจุดนั้นพอดี
เพราะการวิเคราะห์ตลาดที่ถูกต้องทำให้ไอเทรดแบบ “เห็นภาพ” ไม่ใช่เดา
2. ควบคุมความเสี่ยง (Risk Management)
“ไม่มีใครรวยจากไม้เดียว แต่มีหลายคนหมดตัวจากการขาดทุนเพียงครั้งเดียว
สิ่งที่ไอทำ:
✔ Risk-to-Reward Ratio (RRR) ไม่น้อยกว่า 1:2 หรือ 1:3
✔ ไม่เสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตต่อออเดอร์
✔ ตั้ง Stop Loss (SL) ชัดเจน ไม่ดื้อเด็ดขาด
บทเรียนจากประสบการณ์
ไอเคยคิดว่า “ไม้สุดท้ายนี้แหละ ชัวร์ ถูกทางแน่นอน!” แต่ตลาดไปคนละทางเลย แล้วเลื่อน SL หนี … ผลคือ ล้างพอร์ต = เพราะตลาดไม่เคยสนใจว่าเราคิดอะไร
3. เทรดตามแผน ไม่เทรดตามอารมณ์ (Trading Plan)
“พอร์ตส่วนใหญ่ไม่ได้ล้างเพราะระบบไม่ดี แต่มันล้างเพราะเจ้าของพอร์ตใจไม่นิ่ง”
ไอเคยเริ่มวันด้วย -100$ แล้วหัวร้อน เทรดต่อไปเรื่อยๆ … สุดท้าย -1,000$
สาเหตุมาจากขาดการคุมอารมณ์ คุมอารมณ์ไม่ได้ = อารมณ์เข้ามาเทรดแทน
MINDSET – จิตวิทยาการเทรดจึงสำคัญกว่าที่คิด
พี่ๆ เคยรู้สึกมั้ย?
- มีระบบเทรดดีๆ แต่พอร์ตไม่โต?
- บางวันกำไs บางวันพอร์ตพัง เพราะ “อารมณ์ล้วนๆ”
- เวลาเสีย มักจะรีบเข้าไม้ใหม่เพราะอยากถอนทุนคืน
- เวลาได้กำไร ก็กลัวเสียคืน เลยปิดเร็วเกินไป
ถ้าเคยเจอแบบนี้ ไอว่า “ปัญหาอาจไม่ใช่ที่ระบบ แต่เป็นที่ MINDSET”
ถ้าคุณกำลังเป็นแบบนี้อยู่ มาเรียนรู้เคล็ดลับจิตวิทยาการเทรด ที่ช่วยให้พอร์ตเติบโตได้จริงๆ ไม่ใช่แค่คำพูดสวยหรู
ทำไมเทรดเดอร์ถึงพังเพราะจิตวิทยา?
ไอยกตัวอย่างง่ายๆ…
พี่ A มีระบบที่แม่น 80%
แต่พอเจอ 3 ไม้ติดลบ เริ่มลังเล เปลี่ยนระบบใหม่ พอเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายพอร์ตไม่ไปไหน
พี่ B ได้กำไsอยู่ดีๆ
แต่พอเห็นกราฟยังวิ่งต่อ ก็เข้าเพิ่มเพราะ “เสียดายโอกาส” สุดท้ายโดนลากกลับมาขาดทุน
พี่ C ตั้ง Stop Loss ไว้แล้ว
แต่พอราคาวิ่งใกล้ๆ กลับขยับ SL หนี เพราะ “คิดว่าเดี๋ยวมันเด้ง” สุดท้าย สลิปเพจ ปลิว ไปเลย
ไอถามพี่ๆ… ปัญหาคือระบบ หรือจิตใจ?
ใช่แล้วครับ มันคือจิตใจ ไม่ใช่ระบบ!
แล้วเทรดเดอร์ที่รอด เขาคิดยังไง?
- พวกเขาเข้าใจว่า การแพ้เป็นส่วนหนึ่งของเกม
- พวกเขาโฟกัสที่กระบวนการ ไม่ใช่แค่กำไรขาดทุน
- พวกเขามีวินัย ทำตามแผนเสมอ
ไอรู้จักพี่เทรดเดอร์คนหนึ่งที่ทำกำไรได้ทุกปี เพราะเขา “ไม่สนว่าออเดอร์นี้จะชนะหรือแพ้” แต่เขา “สนใจว่า 100 ออเดอร์ผลรวมแล้ว เขายังทำกำไs ได้หรือเปล่า?”
แนวคิดนี้จึงเป็นนี่ความแตกต่างระหว่างผีพนัu vs. เทรดเดอร์ตัวจริง
แล้วพี่ๆ จะสร้าง MINDSET เทรดเดอร์ยังไงดี?
1. ฝึกมองเทรดเป็น % ของพอร์ต ไม่ใช่เงินสด
ถ้าพอร์ต 1 ล้าน แล้วเสีย 1% = ขาดทุนแค่ 10,000 บาทแต่ถ้าคิดว่า “เฮ้ย! 10,000 หายไปแล้ว” ความกลัวจะครอบงำ
2. เทรดตามแผน ไม่ใช่ตามอารมณ์
กำไร = เก็บไปตามระบบ
ขาดทุน = ปิดแล้วไปต่อ ไม่ต้องแก้แค้นตลาด
3. หยุดเทรด ถ้าหัวร้อน!
พอร์ตไม่หายไปไหน แต่ถ้าอารมณ์พังก่อน = พอร์ตหายแน่
4. คิดแบบ “เจ้ามือ” ไม่ใช่ผีพนัu
ถ้าพี่เป็นเจ้ามือคๅสิโน (House) พี่จะไม่สนว่าคืนนี้ใครชนะ ใครจะllจ็กwoตแตก แต่จะสนว่า “สุดท้ายระยะยาว ตัวเองกำไsหรือเปล่า?” และแน่นอนครับสุดท้ายเจ้ามือชนะเสมอ เพราะเขามีระบบ และปล่อยให้ระบบทำงานด้วยหลักคณิตศาสตร์ ไม่ปล่อยให้สภาวะอารมณ์เข้ามาเกี่ยว
สรุป
Mindset ที่ดี = พอร์ตที่โตได้จริงครับ
แต่อย่าลืมว่า “การเทรดคือเกมระยะยาว” คนที่แพ้คือคนที่คุมอารมณ์ไม่ได้ แต่คนที่รอดคือคนที่ “เล่นตามกฎของตัวเองได้ตลอด”
พี่ๆ เคยมีโมเมนต์ที่รู้สึกว่า “ถ้าวันนั้นควบคุมอารมณ์ได้ ป่านนี้พอร์ตคงไม่พัง” มั้ย? หรือเคยเจอจังหวะที่ตลาดทดสอบจิตใจสุดๆ แล้วฝืนไม่ทำตามแผน สุดท้ายพังไปเอง?
ถ้าเคยละก็ ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยน เพราะเราไม่สามารถคาดหวังผลลัพธ์แบบใหม่จากการกระทำแบบเดิมๆ ได้..
ขอให้โชคดี มีวินัยครับผม
______________________
สำหรับไอ คำขอบคุณที่มีความสุขที่สุด ไม่ใช่แค่การกดไลค์หรือคอมเมนต์บอกว่า “ขอบคุณนะ” แต่คือการที่พี่ๆ มาแชร์ โมเมนต์การเทรด ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นจังหวะที่พลาด หรือช่วงที่เอาชนะความกลัวของตัวเองได้
เพราะทุกเรื่องราวที่พี่ๆ แชร์ ไม่ใช่แค่บทเรียนของตัวเอง แต่ยังช่วยให้คนอื่นได้เรียนรู้ไปด้วยกัน
มาแลกเปลี่ยนกันนะครับ ไออยากฟังว่าพี่ๆ เคยเจออะไรบ้าง แล้วผ่านมันมาได้ยังไงเม้นเลย