ข้อความโดย: banrong
« เมื่อ: 29/09/18 »"เปิดพอร์ต ผู้ถือหุ้นรายใหญ่" ของเหล่าบรรดาเซียนหุ้นระดับประเทศ เจ้าของพอร์ตระดับหลัก "หลายร้อยล้าน" ถึง "หลายพันล้าน"
กระทู้ผมจะมาแสดงพอร์ตของ เหล่าบรรดาเซียนหุ้นชื่อดังนะครับ
ซึ่งทุกคนเนี่ย ผมเชื่อว่าพวกเราหลายคน ก็คงรู้จักเซียนหุ้นเหล่านี้กันดี เพราะเราได้เห็นกันบ่อย ๆ ทั้งทาง ทีวี, วิทยุ, หนังสือพิมพ์
โดยพอร์ตที่นำมาให้ดูนั้น จะเป็นเฉพาะในส่วนของ "ผู้ถือหุ้นใหญ่" นะครับ (ถือหุ้นเกิน 0.5% ขึ้นไป)
ซึ่งรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่นี้ บางคนเราก็อาจจะเห็นชื่อภรรยา ชื่อลูก ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะบางทีก็ซื้อหุ้นไว้โดยใช้ชื่อคนในครอบครัว
ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของหุ้นแต่ละบริษัท สามารถดูได้จากที่นี่ครับ http://siamchart.com/stock-holder/
ซึ่งข้อมูลจากในเว็บ Siamchart จะอัพเดทปัจจุบัน ถูกต้อง ตรงกับข้อมูลของเว็บตลาดหลักทรัพย์ (เพราะ Siamchart เสียเงินซื้อลิขสิทธิ์ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (หุ้นคือชีวิต)
- ผู้เป็นต้นแบบนักลงทุน VI ให้กับเซียนหุ้นหลายๆ คนที่มีพอร์ตระดับ 100 ล้านจนขยายไปสู่ระดับ 1,000 ล้านบาทในทุกวันนี้ และเซียนหุ้นท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า วิธีการเล่นหุ้น ของ ดร. นิเวศน์ จะเร็วกว่าคนอื่นก้าวหนึ่งเสมอ
- เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในวงการว่าเป็น เซียนหุ้นสาย VI หรือ Value Investor และเป็นผู้ที่เผยแพร่ความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนเน้นคุณค่าคนแรกในประเทศไทย เพื่อให้นักลงทุนหันมาลงทุนหุ้นแบบมีหลักการมีเหตุผล เข้าใจในธุรกิจจริงๆ หลีกเลี่ยงการเก็งกำไร หลายคนขนานนาม ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ว่าเป็น “วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมืองไทย” จึงเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่คือเซียนหุ้นเมืองไทยตัวจริง
-----------------------------------------------------------------------------------------
"เสี่ยปุ่" สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล (จากเก็งกำไรสู่หุ้นคุณค่า)
- ตามทฤษฎีการวางแผนการเงิน วัยใกล้เกษียณจะต้องลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงแล้วไปเพิ่มตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำๆ แต่ด้วยวัย 56 ปี เขากลับสนุกและไม่เคยคิดจะหนีไปจากกระดานหุ้นเลย เพราะในชีวิตการลงทุนของเขา นอกจากตลาดหุ้นแล้ว ก็มีเพียงการซื้อที่ดินเก็บและฝากเงินไว้ที่แบงก์พาณิชย์เท่านั้น
- ลักษณะการลงทุนเป็นการลงทุนแนว VI (Value Investor) ระยะยาว โดยการเลือกหุ้นส่วนใหญ่ที่คัดกรองเข้ามาจะมีลักษณะพิจารณาผลกำไรว่าน่าพอใจหรือไม่? งบการเงินมีความแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน? สินค้าของบริษัทโดดเด่นเหนือคู่แข่งหรือเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมหรือไม่? ผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจแค่ไหน? เสี่ยปู่ยังอาศัยการเข้าพบผู้บริหารบริษัทเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วย รวมถึงดูจากงบการเงินที่ผ่านมาและพิจารณาถึงโอกาสการเติบโตในอนาคตว่ามีศักยภาพมากน้อยขนาดไหน
---------------------------------------------------------------------------------------
"เสี่ยป๋อง" วัชระ แก้วสว่าง (กราฟไม่เคยหลอกใคร)
- นักลงทุนที่ใครอยูในวงการหุ้นต้องรู้จัก เส้นทางการลงทุนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ลุ้มๆลุกๆ อยู่นานพอสมควรกว่าจะประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดโดยมูลค่าพอร์ตการลงทุน หลายร้อยล้านบาท ถึงแม้พอร์ตการลงทุนจะหลายร้อยล้านแต่ชีวิตก็ยังต้องมีวินัยคลุกคลีกับตลาดหุ้น ทำการบ้าน ติดตามข่าวสารในวงการอยู่ตลอดเวลา
- เทคนิคการลงทุนของวัชระ จะใช้สัญญาณทางเทคนิคแล้วจับเป็นรอบๆ แล้วดูปริมาณการซื้อขายประกอบ เพราะเชื่อว่า ตลาดหุ้นเหมือนวงจร “มีขึ้น มีลง” และแต่ละรอบๆ จะมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมของแต่ละรอบจะไม่เหมือนกันด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------
นเรศ งามอภิชน (Low Profile High Profit)
- “รวยเงียบ” หรือ Low Profile, High Profit น่าจะเป็นนิยามที่เหมาะสมยิ่งสำหรับ “นเรศ งามอภิชน” เซียนหุ้นหลักพันล้านบาท ผู้ที่โลดแล่นอยู่ในตลาดหุ้นมานานร่วม 30 ปีแต่ไม่มีฉายานามในวงการเหมือนเซียนหุ้นคนอื่น
-----------------------------------------------------------------------------------------
นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี (การลงทุนคือ การสะสมความรู้ และประสบการณ์)
- ผู้ที่ใช้เวลา 11 ปี สร้างพอร์ตลงทุนจากระดับร้อยล้านขึ้นสู่หลักหลายพันล้านบาทได้ด้วยกลยุทธ์เข้าซื้อหุ้นในช่วงที่มี “ราคาถูกเหลือเชื่อ” ซึ่งทำให้เกิด Margin of Safety สูงมาก แนวคิดนี้ได้มาจากการมีวินัยทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องการลงทุนอยู่ตลอดเวลา
------------------------------------------------------------------------------------------
นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ (การลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือคำตอบในชีวิต)
- เล่นหุ้นตั้งแต่สมัยเรียนนักศึกษาแพทย์ เพราะเป็นคนไขว่คว้าหาโอกาสในการสร้างฐานะความมั่งคั่ง จนได้มาพบกับกลุ่มนักลงทุนเน้นคุณค่าหรือนักลงทุนวีไอ (Valued Investor) ได้เรียนรู้แนวคิดและเทคนิคการลงทุนต่างๆ จนสร้างเป็นสไตล์ของตัวเอง และประสบความสำเร็จในการลงทุน
---------------------------------------------------------------------------------------
โสรัตน์ วณิชวรากิจ (ลงทุนหุ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายชีวิต)
- แนวทางลงทุนแบบผสมผสานหลักการลงทุนบนแนวทาง วีไอ แต่เพิ่มเงื่อนไขสำคัญคือ หุ้นที่จะลงทุนต้อง “ต่อยอด” ธุรกิจของครอบครัวได้ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------
อนุรักษ์ บุญแสวง (โจ ลูกอีสาน ศรัทธาแนววีไอ)
- ผลพวงวิกฤติต้มยำกุ้งของไทย ได้กำเนิดเซียนหุ้นหน้าใหม่ขึ้นมาหลายคน “อนุรักษ์ บุญแสวง” หรือ “โจ ลูกอีสาน” เป็นหนึ่งในนั้น การก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้ทุกวันนี้ เพราะเชื่อมั่นและศรัทธาแนวนักลงทุนหุ้นคุณค่า หรือ Value Investor (วีไอ)
- โจ ลูกอีสาน ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ลงทุนในตลาดหุ้นนานกว่า 15 ปี แค่ชื่อตำแหน่งก็รู้แล้วว่านี่คือ เซียนหุ้นสาย Value Investor ตัวจริง พื้นฐานครอบครัวมาจากครอบครัวยากจนและเป็นคนบ้านนอกคนหนึ่งไม่มีพื้นฐานทางด้านการลงทุนมาก่อน ปัจจุบันเป็นนักลงทุนวีไอที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคนในวงการ Value Investor โดยมูลค่าการลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกๆปี ปีละกว่า 60% ปัจจุบันมีพอร์ตการลงทุนหลายร้อยล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------------------
รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (เพื่อนสนิทของ ดร.นิเวศน์)
- เกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน พ่อ แม่ ปลูกฝังนิสัยการออมตั้งแต่ยังเด็ก และยึดหลักในการใช้ชีวิตที่ไม่เคยเป็นหนี้และควบคุมค่าใช้จ่าย รูปแบบพอร์ตการลงทุนในอดีตส่วนใหญ่จะอยู่จะลงทุนในหุ้นถึง 70-80% แต่เมื่ออายุมากขึ้นต้องลดพอร์ตหุ้นเหลือเพียง 60% และหันไปลงทุนในที่ดิน พันธบัตร ทองคำ และกองทุน วันนี้ รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา กลายเป็นเซียนห้น Value Investor ระดับแถวหน้าของประเทศและได้จัดรายการ Money Talk คู่กับ ดร.นิเวศน์ ด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------
"เสี่ยยักษ์" นายวิชัย วชิรพงศ์
- เซียนหุ้นสาย Technical ผสมกับการดูสายปัจจัยพื้นฐานประกอบ เริ่มต้นการลงทุนในตลาดหุ้นด้วยเงิน 2.5 ล้านบาท และแล้วก็ต้องพลาดพลั้งเจ็บตัวในตลาดหุ้นอย่างที่หลายๆคนเป็นกัน เสี่ยยักษ์ดำเนินชีวิตโดยยึดถือคติประจำใจมาโดยตลอด คือ “สู้แม้ขณะฝัน” ขนาดฝันเรายังสู้แบบนี้จะแพ้ได้อย่างไร เสี่ยยักษ์เปรียบตลาดหุ้นดั่งสนามรบก่อนการลงทุนต้องวางแผนให้รอบด้าน โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะต้องเข้ามาต่อสู้กับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในตลาดกว่า 10 ปี ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน ทั้งด้านปัจจัยพื้นฐาน ผลประกอบการของกิจการ กราฟ Technical ซึ่งปัจจุบันมีสื่อต่างๆมากมายให้เราได้เรียนรู้ เมื่อเรามีความรู้แล้ว ค่อยเลือก “จังหวะ” ในการซื้อหุ้นซึ่งตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนและหาหุ้นที่เป็น Big Shot ให้เจอ
-------------------------------------------------------------------------------------------
ทันตแพทย์ยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม
- เริ่มลงทุนด้วยเงินเพียง 500,000 บาท ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนได้ ขยายไปถึงกว่าพันล้านบาท มีมูลค่าการซื้อขายต่อเดือนกว่า 1,000 ล้าน คนส่วนใหญ่มักจะมองคุณหมอว่าเป็น “นักเสี่ยงโชค” บางคนมองว่าเขาเป็น “นักพนัน” แต่ด้วยชีวิตการลงทุนแล้วจะออกแนว “ไม่ชอบเสี่ยง” อะไรที่รู้ว่าเสี่ยง อนาคตไม่ดี จะไม่ทำเด็ดขาด
------------------------------------------------------------------------------------------
ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ
- นักลงทุนแนว Value Investor ที่ถูกพูดถึงมากคนหนึ่งในตลาด รูปแบบการวิเคราะห์จะเป็นการเจาะงบการเงิน แล้วคัดตัวที่โดดเด่นออกมา โดยต้องเข้าใจในอุตสาหกรรม ในแง่สภาพการแข่งขัน ปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม รวมถึงมองอนาคตของบริษัทในอีก 3-5 ปีข้างหน้าว่าสามารถเติบโตได้อีกหรือไม่ เหตุผลที่ชอบการลงทุนในรูปแบบ Value Investor เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องเฝ้าดูจอทั้งวัน เพียงแค่เฝ้าดูกิจการว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่คาดหวังหรือไม่
------------------------------------------------------------------------------------------
(ตัวอักษณเต็ม มีต่อ คห. ด้านล่างครับ)
สถาพร งามเรืองพงศ์ (ฮง)
- เริ่มเล่นหุ้นตอนเรียนปี 1 ด้วยเงิน 100,000 บาท ในช่วงแรกการลงทุนไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนที่หลายๆคนเป็นกัน แต่ด้วยความพยายาม จึงขยันหาความรู้ เข้าคอร์สอบรม สัมมนา หลายที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เวลาผ่านล่วงเลยไปกว่า 10 ปี พอร์ตการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยล้านบาท แนวทางการเล่นหุ้นของคุณฮงยึดถือ คือ การเล่นผสมผสานระหว่างการดูปัจจัยพื้นฐาน (70%) และกราฟเทคนิค (30%) ควบคู่กันไป เพราะการดูกราฟย้อนหลังจะทำให้เห็น Demand และ Supply ของหุ้นในอดีต และรูปแบบการลงทุนจะยอม Cut Loss ไม่เหมือนกับเหล่า Value Investor ที่มักจะดูเฉพาะปัจจัยพื้นฐานเท่านั้นและถือจนกว่าราคาจะสะท้อนมูลค่า
------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากได้เห็น พอร์ตของเซียนหุ้นชั้นนำฝีมือขั้นเทพ (เฉพาะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่)
ซึ่งทุกคนที่ผมกล่าวมานั้น มูลค่าพอร์ตต่ำสุด คือ "หลายร้อยล้านบาท" ไปจนถึงหลัก "หลายพันล้านบาท" และบางคนอาจจะถึง "หมื่นล้านบาท" แล้วก็ได้
สิ่งที่ผมสังเกตได้จากการทำกระทู้นี้ก็คือว่า จะมีหุ้นเพียงแค่บางตัวเท่านั้น ที่เหล่าเซียนหุ้นจะใจตรงกัน ซื้อเหมือนกัน เช่น CPALL (หุ้นมันดีจริง แต่เราซื้อตามตอนนี้ คงไม่ไหวครับ PE สูงมากกก)
แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกเค้าจะมีแนวทางการลงทุนที่เป็นสไตล์ของตัวเอง ฉะนั้น หุ้นในพอร์ตของแต่ละคน จึงแทบไม่ซ้ำกันเลย
นั่นหมายความว่า ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นเหมือนกับเซียน ไม่จำเป็นต้องไปลอกหุ้นตามเค้า
แค่เลือกซื้อหุ้นในแบบที่เราชอบจริง ๆ วิเคราะห์มาดีจริง ๆ เราก็สามารถทำกำไรจนสร้างมูลค่าพอร์ตให้โตหลายร้อยเท่าได้เหมือนกัน
ผมสังเกตว่า เซียนหุ้นเหล่านี้ พวกเค้าไม่ได้ซื้อหุ้นเด่นพิมพ์นิยมแบบที่คนในสินธรนิยมกัน เช่น ADVANC, INTUCH, BTS, BEM, ฺBDMS, CPN, MINT (อะไรประมาณนี้ ที่หลายคนชอบแนะนำกันบ่อย ๆ)
ผมเคยอ่านเจอบทความเค้าวิเคราะห์ให้เราดูว่า จริง ๆ แล้วถ้าเราซื้อหุ้นตามเซียนหุ้นเหล่านี้ เราก็มีโอกาสทำกำไรได้เยอะเหมือนกัน (แต่ต้องซื้อตั้งแต่เห็นเซียนหุ้น มีรายชื่อเป็นผู้ถือใหญ่ครั้งแรกเลยนะ)
บทความนี้ครับ - ซื้อหุ้นตามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทำกำไรได้จริง ๆ หรือ? https://goo.gl/YfGZC0
- "ผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นทั้ง 26 ตัวที่ ดร.นิเวศน์เคยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สูงถึง 159% ถ้าใช้ค่ามัธยฐาน ก็ยังสูงถึง 36% ถ้าคุณซื้อ CPALL หรือ HMPRO ตาม ดร.นิเวศน์…ไม่ใช่ตอนนี้…แต่เป็นตั้งแต่ตอนที่ ดร.มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ครั้งแรก คุณก็ทำกำไร 1000% ได้สบายๆ"
(นี่คือ Quot สำคัญของบทความ อยากรู้รายละเอียดลึก ๆ ลองไปอ่านดูครับ ดีมาก ๆ)
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ทั้งหลาย ที่เพิ่งจะเข้ามาในตลาดหุ้น ถ้าไม่รู้จะซื้อหุ้นอะไรดี ผมว่าเราก็สามารถลอกหุ้นตามเซียนได้ครับ เพียงแต่ว่า คุณต้องหมั่นเช็ค รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ บ่อย ๆ (เช็คจากเว็บ Siamchart ง่ายที่สุดแล้ว แค่พิมพ์นามสกุลลงไป)
แต่ต้องบอกก่อนว่า ต้นทุนของเซียนนั้นต่ำมาก ๆ อย่าง ดร.นิเวศน์ ที่ทุน CPALL ของเค้า อยู่ที่ 5 บาท เท่านั้น (และดูราคา CPALL ตอนนี้สิ นี่แตกพาร์แล้วด้วยนะ)
ฉะนั้น สำหรับหุ้นบางตัว ถ้าเราซื้อตามเซียน เราอาจจะขาดทุน หรือถ้ากำไร ก็คงได้ไม่เยอะ เพราะต้นทุนต่างกันมาก
สำหรับคนที่ซื้อตามเซียนไปแล้ว วิธีขายก็ง่าย ๆ ครับ ถ้าหุ้นตัวไหนไม่มีชื่อเซียนหุ้นที่เราตามอยู่ ไม่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว เราก็ขายหุ้นตัวนั้นทิ้งตามเซียนได้เลยครับ (จะขายหมดพอร์ต หรือขายบางส่วน ก็แล้วแต่เลยครับ)
สรุปสุดท้ายก็คือว่า ที่ผมทำกระทู้นี้มาให้ดู เพื่อให้รู้ว่า ตอนนี้เหล่าบรรดาเซียนหุ้นที่มีมูลค่าพอร์ตระดับ หลายร้อยล้าน ถึง หลายพันล้าน มีใครกันบ้าง
แล้วก็เผื่อว่าบางคนอยากจะลอกหุ้นตามเซียนดูบ้าง ก็ลองดูครับ สำหรับบางคนอาจจะกำไร บางคนก็อาจจะขาดทุน (ต้องลองเองถึงจะรู้)
แต่ดีที่สุดคือ เลือกหุ้น ที่เราคิดว่าดี เป็นตัวของตัวเอง ลงทุนตามสไตล์ และจริตของเราเอง ดีที่สุดครับ
ขอบคุณมากครับ ที่อ่านจนจบ
เครดิต :
- http://www.maruey.com/article/contentinbook0088.html
- http://terrabkk.com/?p=105706
- https://goo.gl/YfGZC0
- http://siamchart.com/stock-holder
กระทู้ผมจะมาแสดงพอร์ตของ เหล่าบรรดาเซียนหุ้นชื่อดังนะครับ
ซึ่งทุกคนเนี่ย ผมเชื่อว่าพวกเราหลายคน ก็คงรู้จักเซียนหุ้นเหล่านี้กันดี เพราะเราได้เห็นกันบ่อย ๆ ทั้งทาง ทีวี, วิทยุ, หนังสือพิมพ์
โดยพอร์ตที่นำมาให้ดูนั้น จะเป็นเฉพาะในส่วนของ "ผู้ถือหุ้นใหญ่" นะครับ (ถือหุ้นเกิน 0.5% ขึ้นไป)
ซึ่งรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่นี้ บางคนเราก็อาจจะเห็นชื่อภรรยา ชื่อลูก ก็ไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะบางทีก็ซื้อหุ้นไว้โดยใช้ชื่อคนในครอบครัว
ผู้ถือหุ้นใหญ่ ของหุ้นแต่ละบริษัท สามารถดูได้จากที่นี่ครับ http://siamchart.com/stock-holder/
ซึ่งข้อมูลจากในเว็บ Siamchart จะอัพเดทปัจจุบัน ถูกต้อง ตรงกับข้อมูลของเว็บตลาดหลักทรัพย์ (เพราะ Siamchart เสียเงินซื้อลิขสิทธิ์ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์)
ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (หุ้นคือชีวิต)
- ผู้เป็นต้นแบบนักลงทุน VI ให้กับเซียนหุ้นหลายๆ คนที่มีพอร์ตระดับ 100 ล้านจนขยายไปสู่ระดับ 1,000 ล้านบาทในทุกวันนี้ และเซียนหุ้นท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า วิธีการเล่นหุ้น ของ ดร. นิเวศน์ จะเร็วกว่าคนอื่นก้าวหนึ่งเสมอ
- เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับในวงการว่าเป็น เซียนหุ้นสาย VI หรือ Value Investor และเป็นผู้ที่เผยแพร่ความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับการลงทุนเน้นคุณค่าคนแรกในประเทศไทย เพื่อให้นักลงทุนหันมาลงทุนหุ้นแบบมีหลักการมีเหตุผล เข้าใจในธุรกิจจริงๆ หลีกเลี่ยงการเก็งกำไร หลายคนขนานนาม ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ว่าเป็น “วอร์เรน บัฟเฟตต์ เมืองไทย” จึงเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่คือเซียนหุ้นเมืองไทยตัวจริง
-----------------------------------------------------------------------------------------
"เสี่ยปุ่" สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล (จากเก็งกำไรสู่หุ้นคุณค่า)
- ตามทฤษฎีการวางแผนการเงิน วัยใกล้เกษียณจะต้องลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นลงแล้วไปเพิ่มตราสารทางการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำๆ แต่ด้วยวัย 56 ปี เขากลับสนุกและไม่เคยคิดจะหนีไปจากกระดานหุ้นเลย เพราะในชีวิตการลงทุนของเขา นอกจากตลาดหุ้นแล้ว ก็มีเพียงการซื้อที่ดินเก็บและฝากเงินไว้ที่แบงก์พาณิชย์เท่านั้น
- ลักษณะการลงทุนเป็นการลงทุนแนว VI (Value Investor) ระยะยาว โดยการเลือกหุ้นส่วนใหญ่ที่คัดกรองเข้ามาจะมีลักษณะพิจารณาผลกำไรว่าน่าพอใจหรือไม่? งบการเงินมีความแข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน? สินค้าของบริษัทโดดเด่นเหนือคู่แข่งหรือเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมหรือไม่? ผู้บริหารมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจแค่ไหน? เสี่ยปู่ยังอาศัยการเข้าพบผู้บริหารบริษัทเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วย รวมถึงดูจากงบการเงินที่ผ่านมาและพิจารณาถึงโอกาสการเติบโตในอนาคตว่ามีศักยภาพมากน้อยขนาดไหน
---------------------------------------------------------------------------------------
"เสี่ยป๋อง" วัชระ แก้วสว่าง (กราฟไม่เคยหลอกใคร)
- นักลงทุนที่ใครอยูในวงการหุ้นต้องรู้จัก เส้นทางการลงทุนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ลุ้มๆลุกๆ อยู่นานพอสมควรกว่าจะประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันได้กลายเป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดโดยมูลค่าพอร์ตการลงทุน หลายร้อยล้านบาท ถึงแม้พอร์ตการลงทุนจะหลายร้อยล้านแต่ชีวิตก็ยังต้องมีวินัยคลุกคลีกับตลาดหุ้น ทำการบ้าน ติดตามข่าวสารในวงการอยู่ตลอดเวลา
- เทคนิคการลงทุนของวัชระ จะใช้สัญญาณทางเทคนิคแล้วจับเป็นรอบๆ แล้วดูปริมาณการซื้อขายประกอบ เพราะเชื่อว่า ตลาดหุ้นเหมือนวงจร “มีขึ้น มีลง” และแต่ละรอบๆ จะมีความแตกต่างกันโดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมของแต่ละรอบจะไม่เหมือนกันด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------
นเรศ งามอภิชน (Low Profile High Profit)
- “รวยเงียบ” หรือ Low Profile, High Profit น่าจะเป็นนิยามที่เหมาะสมยิ่งสำหรับ “นเรศ งามอภิชน” เซียนหุ้นหลักพันล้านบาท ผู้ที่โลดแล่นอยู่ในตลาดหุ้นมานานร่วม 30 ปีแต่ไม่มีฉายานามในวงการเหมือนเซียนหุ้นคนอื่น
-----------------------------------------------------------------------------------------
นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี (การลงทุนคือ การสะสมความรู้ และประสบการณ์)
- ผู้ที่ใช้เวลา 11 ปี สร้างพอร์ตลงทุนจากระดับร้อยล้านขึ้นสู่หลักหลายพันล้านบาทได้ด้วยกลยุทธ์เข้าซื้อหุ้นในช่วงที่มี “ราคาถูกเหลือเชื่อ” ซึ่งทำให้เกิด Margin of Safety สูงมาก แนวคิดนี้ได้มาจากการมีวินัยทำการศึกษาค้นคว้าเรื่องการลงทุนอยู่ตลอดเวลา
------------------------------------------------------------------------------------------
นพ.ประมุข วงศ์ธนะเกียรติ (การลงทุนแบบเน้นคุณค่าคือคำตอบในชีวิต)
- เล่นหุ้นตั้งแต่สมัยเรียนนักศึกษาแพทย์ เพราะเป็นคนไขว่คว้าหาโอกาสในการสร้างฐานะความมั่งคั่ง จนได้มาพบกับกลุ่มนักลงทุนเน้นคุณค่าหรือนักลงทุนวีไอ (Valued Investor) ได้เรียนรู้แนวคิดและเทคนิคการลงทุนต่างๆ จนสร้างเป็นสไตล์ของตัวเอง และประสบความสำเร็จในการลงทุน
---------------------------------------------------------------------------------------
โสรัตน์ วณิชวรากิจ (ลงทุนหุ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายชีวิต)
- แนวทางลงทุนแบบผสมผสานหลักการลงทุนบนแนวทาง วีไอ แต่เพิ่มเงื่อนไขสำคัญคือ หุ้นที่จะลงทุนต้อง “ต่อยอด” ธุรกิจของครอบครัวได้ด้วย
-----------------------------------------------------------------------------------
อนุรักษ์ บุญแสวง (โจ ลูกอีสาน ศรัทธาแนววีไอ)
- ผลพวงวิกฤติต้มยำกุ้งของไทย ได้กำเนิดเซียนหุ้นหน้าใหม่ขึ้นมาหลายคน “อนุรักษ์ บุญแสวง” หรือ “โจ ลูกอีสาน” เป็นหนึ่งในนั้น การก้าวขึ้นมาอยู่แถวหน้าได้ทุกวันนี้ เพราะเชื่อมั่นและศรัทธาแนวนักลงทุนหุ้นคุณค่า หรือ Value Investor (วีไอ)
- โจ ลูกอีสาน ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ลงทุนในตลาดหุ้นนานกว่า 15 ปี แค่ชื่อตำแหน่งก็รู้แล้วว่านี่คือ เซียนหุ้นสาย Value Investor ตัวจริง พื้นฐานครอบครัวมาจากครอบครัวยากจนและเป็นคนบ้านนอกคนหนึ่งไม่มีพื้นฐานทางด้านการลงทุนมาก่อน ปัจจุบันเป็นนักลงทุนวีไอที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคนในวงการ Value Investor โดยมูลค่าการลงทุนขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกๆปี ปีละกว่า 60% ปัจจุบันมีพอร์ตการลงทุนหลายร้อยล้านบาท
--------------------------------------------------------------------------------------------
รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (เพื่อนสนิทของ ดร.นิเวศน์)
- เกิดในครอบครัวที่มีฐานะยากจน พ่อ แม่ ปลูกฝังนิสัยการออมตั้งแต่ยังเด็ก และยึดหลักในการใช้ชีวิตที่ไม่เคยเป็นหนี้และควบคุมค่าใช้จ่าย รูปแบบพอร์ตการลงทุนในอดีตส่วนใหญ่จะอยู่จะลงทุนในหุ้นถึง 70-80% แต่เมื่ออายุมากขึ้นต้องลดพอร์ตหุ้นเหลือเพียง 60% และหันไปลงทุนในที่ดิน พันธบัตร ทองคำ และกองทุน วันนี้ รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา กลายเป็นเซียนห้น Value Investor ระดับแถวหน้าของประเทศและได้จัดรายการ Money Talk คู่กับ ดร.นิเวศน์ ด้วย
----------------------------------------------------------------------------------------
"เสี่ยยักษ์" นายวิชัย วชิรพงศ์
- เซียนหุ้นสาย Technical ผสมกับการดูสายปัจจัยพื้นฐานประกอบ เริ่มต้นการลงทุนในตลาดหุ้นด้วยเงิน 2.5 ล้านบาท และแล้วก็ต้องพลาดพลั้งเจ็บตัวในตลาดหุ้นอย่างที่หลายๆคนเป็นกัน เสี่ยยักษ์ดำเนินชีวิตโดยยึดถือคติประจำใจมาโดยตลอด คือ “สู้แม้ขณะฝัน” ขนาดฝันเรายังสู้แบบนี้จะแพ้ได้อย่างไร เสี่ยยักษ์เปรียบตลาดหุ้นดั่งสนามรบก่อนการลงทุนต้องวางแผนให้รอบด้าน โดยเฉพาะนักลงทุนหน้าใหม่ที่จะต้องเข้ามาต่อสู้กับนักลงทุนที่มีประสบการณ์ในตลาดกว่า 10 ปี ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เรื่องการลงทุน ทั้งด้านปัจจัยพื้นฐาน ผลประกอบการของกิจการ กราฟ Technical ซึ่งปัจจุบันมีสื่อต่างๆมากมายให้เราได้เรียนรู้ เมื่อเรามีความรู้แล้ว ค่อยเลือก “จังหวะ” ในการซื้อหุ้นซึ่งตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนและหาหุ้นที่เป็น Big Shot ให้เจอ
-------------------------------------------------------------------------------------------
ทันตแพทย์ยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม
- เริ่มลงทุนด้วยเงินเพียง 500,000 บาท ปัจจุบันพอร์ตการลงทุนได้ ขยายไปถึงกว่าพันล้านบาท มีมูลค่าการซื้อขายต่อเดือนกว่า 1,000 ล้าน คนส่วนใหญ่มักจะมองคุณหมอว่าเป็น “นักเสี่ยงโชค” บางคนมองว่าเขาเป็น “นักพนัน” แต่ด้วยชีวิตการลงทุนแล้วจะออกแนว “ไม่ชอบเสี่ยง” อะไรที่รู้ว่าเสี่ยง อนาคตไม่ดี จะไม่ทำเด็ดขาด
------------------------------------------------------------------------------------------
ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ
- นักลงทุนแนว Value Investor ที่ถูกพูดถึงมากคนหนึ่งในตลาด รูปแบบการวิเคราะห์จะเป็นการเจาะงบการเงิน แล้วคัดตัวที่โดดเด่นออกมา โดยต้องเข้าใจในอุตสาหกรรม ในแง่สภาพการแข่งขัน ปัจจัยสำคัญในการแข่งขัน สภาพแวดล้อมของอุตสาหกรรม รวมถึงมองอนาคตของบริษัทในอีก 3-5 ปีข้างหน้าว่าสามารถเติบโตได้อีกหรือไม่ เหตุผลที่ชอบการลงทุนในรูปแบบ Value Investor เพราะเป็นการลงทุนที่ไม่ต้องเฝ้าดูจอทั้งวัน เพียงแค่เฝ้าดูกิจการว่าสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในระดับที่คาดหวังหรือไม่
------------------------------------------------------------------------------------------
(ตัวอักษณเต็ม มีต่อ คห. ด้านล่างครับ)
สถาพร งามเรืองพงศ์ (ฮง)
- เริ่มเล่นหุ้นตอนเรียนปี 1 ด้วยเงิน 100,000 บาท ในช่วงแรกการลงทุนไม่ได้ประสบความสำเร็จเหมือนที่หลายๆคนเป็นกัน แต่ด้วยความพยายาม จึงขยันหาความรู้ เข้าคอร์สอบรม สัมมนา หลายที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เวลาผ่านล่วงเลยไปกว่า 10 ปี พอร์ตการลงทุนเพิ่มขึ้นเป็นหลายร้อยล้านบาท แนวทางการเล่นหุ้นของคุณฮงยึดถือ คือ การเล่นผสมผสานระหว่างการดูปัจจัยพื้นฐาน (70%) และกราฟเทคนิค (30%) ควบคู่กันไป เพราะการดูกราฟย้อนหลังจะทำให้เห็น Demand และ Supply ของหุ้นในอดีต และรูปแบบการลงทุนจะยอม Cut Loss ไม่เหมือนกับเหล่า Value Investor ที่มักจะดูเฉพาะปัจจัยพื้นฐานเท่านั้นและถือจนกว่าราคาจะสะท้อนมูลค่า
------------------------------------------------------------------------------------------
เป็นยังไงกันบ้างครับ หลังจากได้เห็น พอร์ตของเซียนหุ้นชั้นนำฝีมือขั้นเทพ (เฉพาะที่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่)
ซึ่งทุกคนที่ผมกล่าวมานั้น มูลค่าพอร์ตต่ำสุด คือ "หลายร้อยล้านบาท" ไปจนถึงหลัก "หลายพันล้านบาท" และบางคนอาจจะถึง "หมื่นล้านบาท" แล้วก็ได้
สิ่งที่ผมสังเกตได้จากการทำกระทู้นี้ก็คือว่า จะมีหุ้นเพียงแค่บางตัวเท่านั้น ที่เหล่าเซียนหุ้นจะใจตรงกัน ซื้อเหมือนกัน เช่น CPALL (หุ้นมันดีจริง แต่เราซื้อตามตอนนี้ คงไม่ไหวครับ PE สูงมากกก)
แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกเค้าจะมีแนวทางการลงทุนที่เป็นสไตล์ของตัวเอง ฉะนั้น หุ้นในพอร์ตของแต่ละคน จึงแทบไม่ซ้ำกันเลย
นั่นหมายความว่า ในความเป็นจริงแล้ว เราไม่จำเป็นต้องซื้อหุ้นเหมือนกับเซียน ไม่จำเป็นต้องไปลอกหุ้นตามเค้า
แค่เลือกซื้อหุ้นในแบบที่เราชอบจริง ๆ วิเคราะห์มาดีจริง ๆ เราก็สามารถทำกำไรจนสร้างมูลค่าพอร์ตให้โตหลายร้อยเท่าได้เหมือนกัน
ผมสังเกตว่า เซียนหุ้นเหล่านี้ พวกเค้าไม่ได้ซื้อหุ้นเด่นพิมพ์นิยมแบบที่คนในสินธรนิยมกัน เช่น ADVANC, INTUCH, BTS, BEM, ฺBDMS, CPN, MINT (อะไรประมาณนี้ ที่หลายคนชอบแนะนำกันบ่อย ๆ)
ผมเคยอ่านเจอบทความเค้าวิเคราะห์ให้เราดูว่า จริง ๆ แล้วถ้าเราซื้อหุ้นตามเซียนหุ้นเหล่านี้ เราก็มีโอกาสทำกำไรได้เยอะเหมือนกัน (แต่ต้องซื้อตั้งแต่เห็นเซียนหุ้น มีรายชื่อเป็นผู้ถือใหญ่ครั้งแรกเลยนะ)
บทความนี้ครับ - ซื้อหุ้นตามผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ทำกำไรได้จริง ๆ หรือ? https://goo.gl/YfGZC0
- "ผลตอบแทนเฉลี่ยของหุ้นทั้ง 26 ตัวที่ ดร.นิเวศน์เคยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สูงถึง 159% ถ้าใช้ค่ามัธยฐาน ก็ยังสูงถึง 36% ถ้าคุณซื้อ CPALL หรือ HMPRO ตาม ดร.นิเวศน์…ไม่ใช่ตอนนี้…แต่เป็นตั้งแต่ตอนที่ ดร.มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ครั้งแรก คุณก็ทำกำไร 1000% ได้สบายๆ"
(นี่คือ Quot สำคัญของบทความ อยากรู้รายละเอียดลึก ๆ ลองไปอ่านดูครับ ดีมาก ๆ)
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ทั้งหลาย ที่เพิ่งจะเข้ามาในตลาดหุ้น ถ้าไม่รู้จะซื้อหุ้นอะไรดี ผมว่าเราก็สามารถลอกหุ้นตามเซียนได้ครับ เพียงแต่ว่า คุณต้องหมั่นเช็ค รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ บ่อย ๆ (เช็คจากเว็บ Siamchart ง่ายที่สุดแล้ว แค่พิมพ์นามสกุลลงไป)
แต่ต้องบอกก่อนว่า ต้นทุนของเซียนนั้นต่ำมาก ๆ อย่าง ดร.นิเวศน์ ที่ทุน CPALL ของเค้า อยู่ที่ 5 บาท เท่านั้น (และดูราคา CPALL ตอนนี้สิ นี่แตกพาร์แล้วด้วยนะ)
ฉะนั้น สำหรับหุ้นบางตัว ถ้าเราซื้อตามเซียน เราอาจจะขาดทุน หรือถ้ากำไร ก็คงได้ไม่เยอะ เพราะต้นทุนต่างกันมาก
สำหรับคนที่ซื้อตามเซียนไปแล้ว วิธีขายก็ง่าย ๆ ครับ ถ้าหุ้นตัวไหนไม่มีชื่อเซียนหุ้นที่เราตามอยู่ ไม่มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว เราก็ขายหุ้นตัวนั้นทิ้งตามเซียนได้เลยครับ (จะขายหมดพอร์ต หรือขายบางส่วน ก็แล้วแต่เลยครับ)
สรุปสุดท้ายก็คือว่า ที่ผมทำกระทู้นี้มาให้ดู เพื่อให้รู้ว่า ตอนนี้เหล่าบรรดาเซียนหุ้นที่มีมูลค่าพอร์ตระดับ หลายร้อยล้าน ถึง หลายพันล้าน มีใครกันบ้าง
แล้วก็เผื่อว่าบางคนอยากจะลอกหุ้นตามเซียนดูบ้าง ก็ลองดูครับ สำหรับบางคนอาจจะกำไร บางคนก็อาจจะขาดทุน (ต้องลองเองถึงจะรู้)
แต่ดีที่สุดคือ เลือกหุ้น ที่เราคิดว่าดี เป็นตัวของตัวเอง ลงทุนตามสไตล์ และจริตของเราเอง ดีที่สุดครับ
ขอบคุณมากครับ ที่อ่านจนจบ
เครดิต :
- http://www.maruey.com/article/contentinbook0088.html
- http://terrabkk.com/?p=105706
- https://goo.gl/YfGZC0
- http://siamchart.com/stock-holder