ข้อความโดย: banrong
« เมื่อ: 06/12/21 »9 ตำนาน สัตว์ประหลาด ลึกลับรอบโลก และถิ่นที่อยู่ ที่ยังเป็นปริศนา หาคำตอบไม่ได้
ถึงมนุษย์จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดบนโลกใบนี้ และโลกเราก้าวหน้าพัฒนาไปไกลมากแล้วก็ตาม
แต่อย่าลืมว่ายังคงมี สัตว์ลึกลับ ที่อาศัยอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน โดนเราไม่อาจพิสูจน์ได้ถึงการมีตัวตนของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้เลย
ตามเรามาเปิด 9 ตำนาน สัตว์ประหลาด ลึกลับรอบโลก ลองดูกันดีกว่าว่า สัตว์ลึกลับเหล่านี้ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันบ้าง
1. Hawkesbury River Monster
สถานที่ที่พบ : รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ประเทศออสเตรเลีย
ลงไปยังดินแดนทางใต้อย่างประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในประเทศที่อยู่บนทวีปดึกดำบรรพ์
ดังนั้นคงไม่แปลกหากจะเจอสัตว์ที่ดูเหมือนจะหลงมาจากยุคไดโนเสาร์
อย่าง ‘สัตว์ประหลาดแห่งแม่น้ำ Hawkesbury’ ประเทศ Australia ที่มีรายงานผู้พบเห็นมากกว่า 100 ราย
ลักษณะของมันคล้ายไดโนเสาร์ หัวคล้ายงู ความยาวกว่า 35 ฟุต
ผู้พบเห็นส่วนใหญ่จะเห็นมันดำผุดดำว่ายอยู่กลางทะเลสาบ ขณะที่พวกเขากำลังตกปลาอยู่
ว่ากันว่ามันดูคล้ายกับ Plesiosaur ไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 70 ล้านปี
2. Mongolian death worm
สถานที่ที่พบ : ทะเลทรายโกบี มองโกเลีย
ลึกลงไปในทะเลทรายแห้งแล้งกันดาร ยังมีนักล่าอย่าง หนอนหรือไส้เดือนยักษ์สีแดงเดือด
เป็นสัตว์ที่อยู่ในตำนานของชาวมองโกเลียน ยาวประมาณ 2 ถึง 5 ฟุต
กินสัตว์อื่นเป็นอาหารด้วยการพ่นพิษใส่เหยื่อ บ้างก็ว่ามันสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ด้วย (แบบปลาไหลไฟฟ้า)
โผล่ขึ้นมาช่วงที่ฝนตกเท่านั้น ส่วนใหญ่คนที่พบเห็นมักจะเป็นชาวพื้นเมือง ในปี ค.ศ. 2005
ได้มีการจัดคณะสำรวจและศึกษาหนอนมรณะมองโกเลียอย่างจริงจัง
แต่ไม่พบหลักฐานของการมีตัวตนของมัน แต่ยังไม่สามารถสรุปว่า
จะไม่มีพวกมันอยู่จริงในส่วนลึกของทะเลทรายโกบี
3.Wendigo
สถานที่ที่พบ : แถบ Great Lakes region ประเทศอเมริกา และแคนาดา
เวนดิโก สัตว์ประหลาดตามความเชื่อของชาวพื้นเมืองหลายๆ เผ่าในแถบทวีปอเมริกาเหนือ
ทั้งในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา รูปร่างคล้ายมนุษย์กึ่งสัตว์ป่า แต่มีรูปร่างที่ผอมบางจนเห็นกระดูก
ป็นปีศาจร้ายแห่งป่าที่เข้าสิงผู้คนให้กินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหาร ซึ่งในวิถีของอินเดียนแดงบางเผ่า
มีลักษณะคล้ายกับเวนดิโกอยู่เหมือนกัน บ้างก็ว่าตำนานนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อเตือนให้นักเดินป่าระวังภัยจากเผ่ากินคน
แต่ตำนานนี้ก็มีมานานตั้งแต่ก่อนคนผิวขาวจะเข้ามายังแผ่นดินอเมริกาแล้ว ฉะนั้นมันอาจจะมีอยู่จริงก็ได้
4.Chupacabra
สถานที่ที่พบ : เปอร์โตริโก,เม็กซิโก, แถบตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา
ชูปาคาบรา สัตว์ที่ดูดเลือดแพะเป็นอาหาร มีผู้พบเห็นครั้งแรกในเปอร์โตริโก
และยังคงมีผู้พบเห็นมันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ลักษณะคล้ายสุนัข สูง 4 ถึง 5 ฟุต
ดวงตาสีแดงก่ำ ทั้งนี้สัตว์ที่มันฆ่าเพื่อดูดเลือดเป็นอาหารยังรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านด้วย
ทั้งหมา แมว ไก่ กระต่าย ฯลฯ มีรายงานว่าเมืองคาโนวานาส ในเปอร์โตริโก มีฟาร์มสัตว์เลี้ยงกว่า 150 แห่ง
ที่ถูกชูปาคาบราจู่โจม อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับการพบเห็นเป็นชิ้นเป็นอันเลย
มีเพียงพยานบอกเล่าเหตุการณ์ และซากสัตว์ที่ถูกดูดเลือดทิ้งไว้เท่านั้น
5.Yeti
สถานที่ที่พบ : แถบเทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล และธิเบต
เยติ เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ สูงกว่า 2 เมตร รูปร่างกึ่งมนุษย์กึ่งลิง ไม่มีหาง ขนสีน้ำตาลแดง
(เป็นสีขาวเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะ) มีนิสัยรักสงบ เยตินั้นอยู่ในความเชื่อของชาวเชอร์ปามาช้านาน
มีภาพฝาผนังในวัดลามะอายุกว่า 300 ปีที่วาดรูปเยติไว้ด้วย รวมไปถึงมีสิ่งที่เชื่อว่าเป็นหนังศีรษะของเยติ
ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในวัดลามะแห่งหนึ่งในคุมจุง เมื่อชาวตะวันตกเริ่มเข้ามายังดินแดนแถบนี้
ก็เริ่มมีการตามล่าและค้นคว้าเกี่ยวกับเยติ ซึ่งก็ได้พบกับหลักฐานการมีอยู่ของเยติมากมาย
ทั้ง รอยเท้า ขนและมูล ผู้พบเห็นส่วนมากเป็นนักปีนเขา
6. Bigfoot
สถานที่ที่พบ : แถบอเมริกาเหนือ
สัตว์ลึกลับที่มีความคล้ายคลึงกับเยติมาก คือรูปร่างคล้ายมนุษย์ ลำตัวสูงใหญ่
พบในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเหตุการณ์แรกที่เริ่มมีการกล่าวถึงไอ้ตีนโต คือ ปี ค.ศ. 1811
ในเมืองจัสเปอร์ ประเทศแคนาดา มีการพบรอยเท้าบนหิมะซึ่งมีขนาดยาว 14 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว
พบโดย เดวิด ทอมป์สัน หลังจากนั้นก็มีผู้พบเห็นมันจังๆ เรื่อยมา
รายงานการพบเห็นบิ๊กฟุตมากที่สุด เกิดขึ้นที่เมืองลอนดอน รัฐโอไฮโอ มีผู้พบรอยเท้า Bigfoot ถึง 122 รอย
นับว่ามากที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา ซึ่งรอยเหล่านี้ได้ถูกหล่อปูนปลาสเตอร์ไว้ด้วย
7. Nessie (Loch Ness Monster)
สถานที่ที่พบ : ทะเลสาบล็อกเนสส์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร
สัตว์ประหลาดชื่อดังแห่งสกอตแลนด์ รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์เพลสิโอซอรัส ถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ.2477
โดยศัลยแพทย์รายหนึ่งสามารถถ่ายภาพของมันได้ นับจากนั้นมาก็มีผู้อ้างว่าได้เห็นเนสซีกว่า 4,000 ครั้ง
ทุกวันนี้ เรื่องราวของเนสซีก็ยังเป็นเรื่องลึกลับที่เป็นที่สนใจของคนทั้งโลก มีผู้ไปสำรวจและศึกษามากมาย
แต่ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดได้หลักฐานของเนสซีที่หนักแน่นพอสักราย
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเนสซีก็สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาลสก็อตแลนด์ และชุมชนใกล้เคียง
เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเพื่อหวังจะได้ยลโฉมของมัน
ปัจจุบันมีบริษัทพนันประกาศมอบเงินรางวัลจำนวน 1 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 70 ล้านบาท
ให้คนที่หาหลักฐานได้ว่าเนสซีมีอยู่จริงด้วย
8. Bunyip
สถานที่ที่พบ : ตามหนองน้ำ ลำคลองในประเทศออสเตรเลีย
ตัว Bunyip นั้นเป็นสัตว์ตามตำนานของชนเผ่าอะบอริจิน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งชื่อ Bunyip
นั้นมีความหมายว่า "ปีศาจ" มักอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ มีลำตัวขนาดใหญ่ สีดำ มีฟันเขี้ยวโค้งยาวแบบตัววอลรัส
คอยดักจับสัตว์ที่มาดื่มน้ำ หรือผู้คนที่ไม่ระวังตัวเป็นเหยื่อ แต่ปัจจุบันนี้ก็เชื่อกันว่าเป็นคำบอกเล่าของคนโบราณเพื่อเตือนเด็กๆ
ไม่ให้ไปเล่นตามหนองน้ำเสียมากกว่า เพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วว่า ที่ออสเตรเลียนั้นมีสถิติผู้คนถูกทำร้ายโดยจระเข้อยู่มากมายจริงๆ
9. Kraken
สถานที่ที่พบ : บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก
สุดยอดสัตว์ยักษ์ในตำนาน ที่สร้างความหวาดหวั่นให้กับนักเดินเรือในอดีตมากที่สุด
รูปร่างคล้ายหมึกกล้วย ลำตัวยาวกว่าเสากระโดงเรือ นิสัยดุร้ายโดยธรรมชาติ
มีบันทึกเป็นลายลักษ์อักษรครั้งแรกที่นอร์เวย์ในหนังสือชื่อ “The Natural History of Norway”
กล่าวถึงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เท่าเกาะขนาดย่อมๆ ชอบจู่โจมเรือเดินสมุทรแบบไม่ทันตั้งตัว และจมเรือได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
เรื่องราวของ หมึกยักษ์ Kraken แม้จะฟังดูเหลือเชื่อ แต่กลับเป็นสัตว์ประหลาดเพียงชนิดเดียว
ที่มีมูลความจริงมากที่สุดในลิสต์สัตว์ประหลาดรอบโลกนี้ นักชีววิทยาพบว่ามีปลาหมึกสายพันธุ์อาร์คิเทอูธิส (Architeuthis)
นั้นน่าจะใกล้เคียงกับตำนานหมึกปีศาจมาก แม้จะไม่ได้ตัวใหญ่ยักษ์ แต่ด้วยความยาว 30 ถึง 40 เมตร น้ำหนัก 2 ถึง 3 ตัน
ฟันแหลมคมเป็นจะงอย และมีศัตรูตามธรรมชาติเป็นวาฬสเปิร์ม (Sperm Whale)
ซึ่งตามบันทึกเดินเรือหลายฉบับก็เขียนถึงเรื่องการพบเห็นปลาหมึกยักษ์ต่อสู้อยู่กับปลาวาฬอยู่บ่อยครั้ง
ก็ทำให้น่าเชื่อได้ว่ามันมีอยู่จริงๆ
ถึงมนุษย์จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดบนโลกใบนี้ และโลกเราก้าวหน้าพัฒนาไปไกลมากแล้วก็ตาม
แต่อย่าลืมว่ายังคงมี สัตว์ลึกลับ ที่อาศัยอยู่ในที่ห่างไกลผู้คน โดนเราไม่อาจพิสูจน์ได้ถึงการมีตัวตนของสัตว์ประหลาดเหล่านี้ได้เลย
ตามเรามาเปิด 9 ตำนาน สัตว์ประหลาด ลึกลับรอบโลก ลองดูกันดีกว่าว่า สัตว์ลึกลับเหล่านี้ไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันบ้าง
1. Hawkesbury River Monster
สถานที่ที่พบ : รัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales) ประเทศออสเตรเลีย
ลงไปยังดินแดนทางใต้อย่างประเทศออสเตรเลีย หนึ่งในประเทศที่อยู่บนทวีปดึกดำบรรพ์
ดังนั้นคงไม่แปลกหากจะเจอสัตว์ที่ดูเหมือนจะหลงมาจากยุคไดโนเสาร์
อย่าง ‘สัตว์ประหลาดแห่งแม่น้ำ Hawkesbury’ ประเทศ Australia ที่มีรายงานผู้พบเห็นมากกว่า 100 ราย
ลักษณะของมันคล้ายไดโนเสาร์ หัวคล้ายงู ความยาวกว่า 35 ฟุต
ผู้พบเห็นส่วนใหญ่จะเห็นมันดำผุดดำว่ายอยู่กลางทะเลสาบ ขณะที่พวกเขากำลังตกปลาอยู่
ว่ากันว่ามันดูคล้ายกับ Plesiosaur ไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปแล้วกว่า 70 ล้านปี
2. Mongolian death worm
สถานที่ที่พบ : ทะเลทรายโกบี มองโกเลีย
ลึกลงไปในทะเลทรายแห้งแล้งกันดาร ยังมีนักล่าอย่าง หนอนหรือไส้เดือนยักษ์สีแดงเดือด
เป็นสัตว์ที่อยู่ในตำนานของชาวมองโกเลียน ยาวประมาณ 2 ถึง 5 ฟุต
กินสัตว์อื่นเป็นอาหารด้วยการพ่นพิษใส่เหยื่อ บ้างก็ว่ามันสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าได้ด้วย (แบบปลาไหลไฟฟ้า)
โผล่ขึ้นมาช่วงที่ฝนตกเท่านั้น ส่วนใหญ่คนที่พบเห็นมักจะเป็นชาวพื้นเมือง ในปี ค.ศ. 2005
ได้มีการจัดคณะสำรวจและศึกษาหนอนมรณะมองโกเลียอย่างจริงจัง
แต่ไม่พบหลักฐานของการมีตัวตนของมัน แต่ยังไม่สามารถสรุปว่า
จะไม่มีพวกมันอยู่จริงในส่วนลึกของทะเลทรายโกบี
3.Wendigo
สถานที่ที่พบ : แถบ Great Lakes region ประเทศอเมริกา และแคนาดา
เวนดิโก สัตว์ประหลาดตามความเชื่อของชาวพื้นเมืองหลายๆ เผ่าในแถบทวีปอเมริกาเหนือ
ทั้งในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา รูปร่างคล้ายมนุษย์กึ่งสัตว์ป่า แต่มีรูปร่างที่ผอมบางจนเห็นกระดูก
ป็นปีศาจร้ายแห่งป่าที่เข้าสิงผู้คนให้กินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหาร ซึ่งในวิถีของอินเดียนแดงบางเผ่า
มีลักษณะคล้ายกับเวนดิโกอยู่เหมือนกัน บ้างก็ว่าตำนานนี้ถูกแต่งขึ้นเพื่อเตือนให้นักเดินป่าระวังภัยจากเผ่ากินคน
แต่ตำนานนี้ก็มีมานานตั้งแต่ก่อนคนผิวขาวจะเข้ามายังแผ่นดินอเมริกาแล้ว ฉะนั้นมันอาจจะมีอยู่จริงก็ได้
4.Chupacabra
สถานที่ที่พบ : เปอร์โตริโก,เม็กซิโก, แถบตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา
ชูปาคาบรา สัตว์ที่ดูดเลือดแพะเป็นอาหาร มีผู้พบเห็นครั้งแรกในเปอร์โตริโก
และยังคงมีผู้พบเห็นมันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ลักษณะคล้ายสุนัข สูง 4 ถึง 5 ฟุต
ดวงตาสีแดงก่ำ ทั้งนี้สัตว์ที่มันฆ่าเพื่อดูดเลือดเป็นอาหารยังรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านด้วย
ทั้งหมา แมว ไก่ กระต่าย ฯลฯ มีรายงานว่าเมืองคาโนวานาส ในเปอร์โตริโก มีฟาร์มสัตว์เลี้ยงกว่า 150 แห่ง
ที่ถูกชูปาคาบราจู่โจม อย่างไรก็ตาม ไม่มีหลักฐานอะไรเกี่ยวกับการพบเห็นเป็นชิ้นเป็นอันเลย
มีเพียงพยานบอกเล่าเหตุการณ์ และซากสัตว์ที่ถูกดูดเลือดทิ้งไว้เท่านั้น
5.Yeti
สถานที่ที่พบ : แถบเทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล และธิเบต
เยติ เป็นสัตว์ประหลาดขนาดใหญ่ สูงกว่า 2 เมตร รูปร่างกึ่งมนุษย์กึ่งลิง ไม่มีหาง ขนสีน้ำตาลแดง
(เป็นสีขาวเมื่อถูกปกคลุมด้วยหิมะ) มีนิสัยรักสงบ เยตินั้นอยู่ในความเชื่อของชาวเชอร์ปามาช้านาน
มีภาพฝาผนังในวัดลามะอายุกว่า 300 ปีที่วาดรูปเยติไว้ด้วย รวมไปถึงมีสิ่งที่เชื่อว่าเป็นหนังศีรษะของเยติ
ถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีในวัดลามะแห่งหนึ่งในคุมจุง เมื่อชาวตะวันตกเริ่มเข้ามายังดินแดนแถบนี้
ก็เริ่มมีการตามล่าและค้นคว้าเกี่ยวกับเยติ ซึ่งก็ได้พบกับหลักฐานการมีอยู่ของเยติมากมาย
ทั้ง รอยเท้า ขนและมูล ผู้พบเห็นส่วนมากเป็นนักปีนเขา
6. Bigfoot
สถานที่ที่พบ : แถบอเมริกาเหนือ
สัตว์ลึกลับที่มีความคล้ายคลึงกับเยติมาก คือรูปร่างคล้ายมนุษย์ ลำตัวสูงใหญ่
พบในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในทวีปอเมริกาเหนือ โดยเหตุการณ์แรกที่เริ่มมีการกล่าวถึงไอ้ตีนโต คือ ปี ค.ศ. 1811
ในเมืองจัสเปอร์ ประเทศแคนาดา มีการพบรอยเท้าบนหิมะซึ่งมีขนาดยาว 14 นิ้ว กว้าง 8 นิ้ว
พบโดย เดวิด ทอมป์สัน หลังจากนั้นก็มีผู้พบเห็นมันจังๆ เรื่อยมา
รายงานการพบเห็นบิ๊กฟุตมากที่สุด เกิดขึ้นที่เมืองลอนดอน รัฐโอไฮโอ มีผู้พบรอยเท้า Bigfoot ถึง 122 รอย
นับว่ามากที่สุดเท่าที่มีการบันทึกมา ซึ่งรอยเหล่านี้ได้ถูกหล่อปูนปลาสเตอร์ไว้ด้วย
7. Nessie (Loch Ness Monster)
สถานที่ที่พบ : ทะเลสาบล็อกเนสส์ สกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร
สัตว์ประหลาดชื่อดังแห่งสกอตแลนด์ รูปร่างคล้ายไดโนเสาร์เพลสิโอซอรัส ถูกค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ.2477
โดยศัลยแพทย์รายหนึ่งสามารถถ่ายภาพของมันได้ นับจากนั้นมาก็มีผู้อ้างว่าได้เห็นเนสซีกว่า 4,000 ครั้ง
ทุกวันนี้ เรื่องราวของเนสซีก็ยังเป็นเรื่องลึกลับที่เป็นที่สนใจของคนทั้งโลก มีผู้ไปสำรวจและศึกษามากมาย
แต่ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดได้หลักฐานของเนสซีที่หนักแน่นพอสักราย
อย่างไรก็ตาม ชื่อเสียงของเนสซีก็สร้างรายได้ให้แก่รัฐบาลสก็อตแลนด์ และชุมชนใกล้เคียง
เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาเพื่อหวังจะได้ยลโฉมของมัน
ปัจจุบันมีบริษัทพนันประกาศมอบเงินรางวัลจำนวน 1 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 70 ล้านบาท
ให้คนที่หาหลักฐานได้ว่าเนสซีมีอยู่จริงด้วย
8. Bunyip
สถานที่ที่พบ : ตามหนองน้ำ ลำคลองในประเทศออสเตรเลีย
ตัว Bunyip นั้นเป็นสัตว์ตามตำนานของชนเผ่าอะบอริจิน ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งชื่อ Bunyip
นั้นมีความหมายว่า "ปีศาจ" มักอาศัยอยู่ตามแหล่งน้ำ มีลำตัวขนาดใหญ่ สีดำ มีฟันเขี้ยวโค้งยาวแบบตัววอลรัส
คอยดักจับสัตว์ที่มาดื่มน้ำ หรือผู้คนที่ไม่ระวังตัวเป็นเหยื่อ แต่ปัจจุบันนี้ก็เชื่อกันว่าเป็นคำบอกเล่าของคนโบราณเพื่อเตือนเด็กๆ
ไม่ให้ไปเล่นตามหนองน้ำเสียมากกว่า เพราะเราก็รู้กันอยู่แล้วว่า ที่ออสเตรเลียนั้นมีสถิติผู้คนถูกทำร้ายโดยจระเข้อยู่มากมายจริงๆ
9. Kraken
สถานที่ที่พบ : บริเวณมหาสมุทรแอตแลนติก
สุดยอดสัตว์ยักษ์ในตำนาน ที่สร้างความหวาดหวั่นให้กับนักเดินเรือในอดีตมากที่สุด
รูปร่างคล้ายหมึกกล้วย ลำตัวยาวกว่าเสากระโดงเรือ นิสัยดุร้ายโดยธรรมชาติ
มีบันทึกเป็นลายลักษ์อักษรครั้งแรกที่นอร์เวย์ในหนังสือชื่อ “The Natural History of Norway”
กล่าวถึงสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่เท่าเกาะขนาดย่อมๆ ชอบจู่โจมเรือเดินสมุทรแบบไม่ทันตั้งตัว และจมเรือได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
เรื่องราวของ หมึกยักษ์ Kraken แม้จะฟังดูเหลือเชื่อ แต่กลับเป็นสัตว์ประหลาดเพียงชนิดเดียว
ที่มีมูลความจริงมากที่สุดในลิสต์สัตว์ประหลาดรอบโลกนี้ นักชีววิทยาพบว่ามีปลาหมึกสายพันธุ์อาร์คิเทอูธิส (Architeuthis)
นั้นน่าจะใกล้เคียงกับตำนานหมึกปีศาจมาก แม้จะไม่ได้ตัวใหญ่ยักษ์ แต่ด้วยความยาว 30 ถึง 40 เมตร น้ำหนัก 2 ถึง 3 ตัน
ฟันแหลมคมเป็นจะงอย และมีศัตรูตามธรรมชาติเป็นวาฬสเปิร์ม (Sperm Whale)
ซึ่งตามบันทึกเดินเรือหลายฉบับก็เขียนถึงเรื่องการพบเห็นปลาหมึกยักษ์ต่อสู้อยู่กับปลาวาฬอยู่บ่อยครั้ง
ก็ทำให้น่าเชื่อได้ว่ามันมีอยู่จริงๆ