ข้อความโดย: admin
« เมื่อ: 06/01/23 »(พ่อแม่ที่ดีจะไม่ทำ) ประโยคที่ไม่ควรพูดกับลูก เพราะจะไม่เชื่อฟัง
:: ทำแบบนี้เดี๋ยวพ่อแม่ไม่รักนะ
คำว่าไม่รักจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกภายในใจลูกได้เป็นอย่ างดี
แม้จะคิดว่ายังไงลูกก็รู้อยู่แล้วว่าคุณแม่รักเขา แต่ข้างในใจลึก ๆนั้น
ในความเป็นจริงแล้ว คำพูดนี้บั่นทอนความรู้สึกเขามาก ๆ เลยนะ
:: ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้
อย่ างตอนที่ลูกเราเดินกระแทกเท้า หรือเดินชนประตูแบบที่ไม่ได้
ตั้งใจนั้น เขาอาจมีเรื่องกั ง ว ลใจอยู่ก็เป็นได้ เมื่อคุณแม่ไปต่อว่า
ลูกอาจจะรู้สึกเหมือนว่าเขานั้นถูกปฏิเสธ ดูเป็นคนไร้ค่ามาก อีกทั้ง
ยังทำให้เขาอย ากแยกตัวออกห่างจากพ่อแม่มากขึ้นด้วย ทางที่ดี
ควรรอจังหวะที่เหมาะสมก่อน และค่อยพูดบอกเขาว่า แม่อาจเห็น
เรื่องนี้ในมุมมองที่ต่างออกไป ไหนหน฿ูลองเล่าเรื่องของหนูให้แม่
ฟังใหม่อีกครั้ง แล้วเรามาหาข้อสรุปด้วยกันอีกที
:: ล้อเลียนข้อด้อยของลูก
การทำเช่นนี้เป็นสิ่งต้องห้ ามมากๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่เลยก็ว่าได้
เราไม่ควรที่ล้อเลียนหรือเรียกลูกด้วยชื่ออื่น ๆ เพราะมันอาจทำให้ลูก
เรานั้นสูญเสี ยความมั่นใจในตัวเอง เช่น อ้วน แห้ ง สิว เป็นต้น
:: ต่อว่าลูกแบบนั้นแบบนี้
เพราะการบอกว่าเขาเป็นคนซุ่ มซ่ ามนิสัยไม่ดีนั้น มันไม่ได้ช่วยให้
เขามีความมั่นใจหรือรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นเลยนะ แม้ว่าคุณจะไม่ได้
พูดกับเขาโดยตรงก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วลูกของคุณก็จะเชื่อว่าเขา
เป็นคนที่แ ย่เหมือนที่แม่พูดจริง ๆ นั่นแหละ
:: นี่ถ้าพ่อรู้เรื่องนี้นะ
เพราะบางทีคุณแม่มักจะชอบขู่เขาให้ก ลั ว เช่น เดี๋ยวถ้าพ่อรู้เรื่องนะ
และปัญหาที่จะตามมาก็คือ เมื่อลูกเราโตขึ้นเขาก็จะรู้ว่าคุณแม่ก็แค่
ขู่เขาให้กลั วแค่นั้นแหละ ไม่ได้ทำอะไรเขาหรอก มันก็อาจกลายเป็น
ว่าเขาจะไม่ฟังคุณเลย
:: เดี๋ยวตีเลยนะ
คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านคิดว่าการลงไม้ลงมือ มันจะทำให้ลูกนั้น
เชื่อฟังเราได้ แต่หารู้ไม่ว่าการที่คุณติเขา หรือลงโทษเขาแบบหนัก ๆ
มันไม่ได้ส่งผลดีในระยะย าวเลย จะใช้ได้ผลแค่ในช่วงแรก ๆ เท่านั้น
แล้วสุดท้ายก็จะใช้ไม่ได้ผลเลยอีกต่อไป
:: หยุดกวนสักทีได้ไหม
บางครั้งคุณแม่อาจต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง แต่หากคุณแม่บอก
ลูกว่าอย่ ามายุ่งอยู่บ่อย ๆ ลูกคุณอาจจะไม่คุยกับคุณแม่อีกต่อไป
เลยก็ได้นะ ยังไงลองอธิบายให้ลูกฟังถึงเหตุผลดี ๆ อย่า งเช่นว่า
เดี๋ยวแม่ขอเวลาทำธุระส่วนตัวสักแป๊บนะลูก แล้วแม่จะคุยกับหนูอีกที
:: หุ บ ป าก แล้วก็อยู่เงียบๆไปซะ
เด็ กในวัยที่กำลังหัดพูด มักจะชอบพูดตลอดเวลา อาจจะพูดผิด
พูดถูกบ้าง หากเขาพูดจาไม่เหมาะสม คุณแม่ควรจะสอนเขาดี ๆ
แทนที่จะบอกว่าให้หุบปากแบบนั้นนะ เพราะจะทำให้ลูกเก็บกด
ไม่กล้าแสดงออก และอาจมีพัฒนาการทางการพูดที่ช้าลงด้วย
:: ทำไมทำตัวน่ารำคาญแบบนี้
การพูดประโยคนี้จะบั่นทอนความรู้สึกและความเชื่อมั่นของลูกนะ
เพราะอาจจะทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจ ว่าตกลงแล้วพ่อกับแม่ยังรัก
เขาอยู่ไหม ฉะนั้น ความมั่นคงในจิตใจของลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
และเป็นพื้นฐานต่อไปในอนาคตด้วยนะ
:: ไอ่เด็ กขิ้แพ้
การที่เรียกลูกว่าเด็ กขิ้แพ้ จะทำให้ลูกคุณอาจรู้สึกละอ ายใจ
ทางที่ดีนั้น คุพ่อแม่ควรฝึกให้ลูกรู้จักการฝึกฝน ฝึกความพย า
ย ามให้เขาจะดีกว่านะ เพราะการที่คุณพูดทำร้ ายจิตใจลูกบ่อยๆ
แทนที่ลูกจะมีความพย าย ามมากขึ้น แต่กลับยิ่งทำให้ลูกยิ่งมี
พฤติก ร ร มที่ถดถอย หรืออาจขาดความเชื่อมั่นและไม่กล้าที่
จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง
:: เป็นลูกผู้ชายหน่อยสิ!
และประโยคนี้นี้ก็ไม่ควรที่จะใช้กับลูกด้วยเช่นกัน นอกจากจะ
เป็นปิดกั้นพัฒนาการของเขาแล้ว ยังทำให้ลูกสับสนมากกว่าเดิม
ว่าการเป็นลูกผู้ชายนั้ันจะต้องทำยังไง และยังไงก็ตามคุณแม่ควร
อธิบายเพิ่มว่า ลูกควรทำอะไรบ้างและทำเพราะอะไร เพื่อที่เขาได้รู้
:: แม่จะตั ดลูกตั ดแม่กันแล้วนะ
เวลาที่คุณแม่รู้สึกโ ก ร ธ มากๆ อาจเผลอพูดประโยคนี้กับลูกไป
แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ลูกเราก็ยังต้องพึ่งพิงอาศัยอาหารจาก
เรา และความรักจากคุณแม่คุณพ่ออยู่ ทางที่ดี หากพูดเผลอพูด
ออกไปแล้ว อาจเป็นการทำร้ ายจิตใจความรู้สึกของลูก อาจจะ
ทำลายความสัมพันธ์ก็เป็นได้ ควรคิดดีๆก่อนพูดออกมา
:: ทำไมไม่เหมือนลูกคนอื่นเลย
คุณแม่ไม่ควรที่จะเอาลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น
เราควรเข้าใจว่าเด็ กแต่ละคนไม่เหมือนกัน พย าย ามทำให้
ลูกรู้ว่ าพวกเขาพิเศษกันคนละแบบจะดีกว่านะ
:: ชอบออกคำสั่ง
แม้หน้าที่ของคุณแม่คือควรสอนให้ลูกเชื่อฟังในสิ่งที่เราพูด
แต่ยังไงก็ไม่ควรที่จะพูดลอย ๆ ออกมาโดยไม่มีเหตุมีผลและ
ไม่อธิบายอะไรเพิ่ม เพราะลูกจะมีความเคยชินว่าทำตามไปวันๆ
:: ทำแบบนี้เดี๋ยวพ่อแม่ไม่รักนะ
คำว่าไม่รักจะมีผลกระทบต่อความรู้สึกภายในใจลูกได้เป็นอย่ างดี
แม้จะคิดว่ายังไงลูกก็รู้อยู่แล้วว่าคุณแม่รักเขา แต่ข้างในใจลึก ๆนั้น
ในความเป็นจริงแล้ว คำพูดนี้บั่นทอนความรู้สึกเขามาก ๆ เลยนะ
:: ไม่น่าเชื่อว่าจะคิดเรื่องไร้สาระแบบนี้
อย่ างตอนที่ลูกเราเดินกระแทกเท้า หรือเดินชนประตูแบบที่ไม่ได้
ตั้งใจนั้น เขาอาจมีเรื่องกั ง ว ลใจอยู่ก็เป็นได้ เมื่อคุณแม่ไปต่อว่า
ลูกอาจจะรู้สึกเหมือนว่าเขานั้นถูกปฏิเสธ ดูเป็นคนไร้ค่ามาก อีกทั้ง
ยังทำให้เขาอย ากแยกตัวออกห่างจากพ่อแม่มากขึ้นด้วย ทางที่ดี
ควรรอจังหวะที่เหมาะสมก่อน และค่อยพูดบอกเขาว่า แม่อาจเห็น
เรื่องนี้ในมุมมองที่ต่างออกไป ไหนหน฿ูลองเล่าเรื่องของหนูให้แม่
ฟังใหม่อีกครั้ง แล้วเรามาหาข้อสรุปด้วยกันอีกที
:: ล้อเลียนข้อด้อยของลูก
การทำเช่นนี้เป็นสิ่งต้องห้ ามมากๆสำหรับคุณพ่อคุณแม่เลยก็ว่าได้
เราไม่ควรที่ล้อเลียนหรือเรียกลูกด้วยชื่ออื่น ๆ เพราะมันอาจทำให้ลูก
เรานั้นสูญเสี ยความมั่นใจในตัวเอง เช่น อ้วน แห้ ง สิว เป็นต้น
:: ต่อว่าลูกแบบนั้นแบบนี้
เพราะการบอกว่าเขาเป็นคนซุ่ มซ่ ามนิสัยไม่ดีนั้น มันไม่ได้ช่วยให้
เขามีความมั่นใจหรือรู้สึกมีคุณค่ามากขึ้นเลยนะ แม้ว่าคุณจะไม่ได้
พูดกับเขาโดยตรงก็ตาม แต่สุดท้ายแล้วลูกของคุณก็จะเชื่อว่าเขา
เป็นคนที่แ ย่เหมือนที่แม่พูดจริง ๆ นั่นแหละ
:: นี่ถ้าพ่อรู้เรื่องนี้นะ
เพราะบางทีคุณแม่มักจะชอบขู่เขาให้ก ลั ว เช่น เดี๋ยวถ้าพ่อรู้เรื่องนะ
และปัญหาที่จะตามมาก็คือ เมื่อลูกเราโตขึ้นเขาก็จะรู้ว่าคุณแม่ก็แค่
ขู่เขาให้กลั วแค่นั้นแหละ ไม่ได้ทำอะไรเขาหรอก มันก็อาจกลายเป็น
ว่าเขาจะไม่ฟังคุณเลย
:: เดี๋ยวตีเลยนะ
คุณพ่อคุณแม่หลายๆ ท่านคิดว่าการลงไม้ลงมือ มันจะทำให้ลูกนั้น
เชื่อฟังเราได้ แต่หารู้ไม่ว่าการที่คุณติเขา หรือลงโทษเขาแบบหนัก ๆ
มันไม่ได้ส่งผลดีในระยะย าวเลย จะใช้ได้ผลแค่ในช่วงแรก ๆ เท่านั้น
แล้วสุดท้ายก็จะใช้ไม่ได้ผลเลยอีกต่อไป
:: หยุดกวนสักทีได้ไหม
บางครั้งคุณแม่อาจต้องการเวลาส่วนตัวบ้าง แต่หากคุณแม่บอก
ลูกว่าอย่ ามายุ่งอยู่บ่อย ๆ ลูกคุณอาจจะไม่คุยกับคุณแม่อีกต่อไป
เลยก็ได้นะ ยังไงลองอธิบายให้ลูกฟังถึงเหตุผลดี ๆ อย่า งเช่นว่า
เดี๋ยวแม่ขอเวลาทำธุระส่วนตัวสักแป๊บนะลูก แล้วแม่จะคุยกับหนูอีกที
:: หุ บ ป าก แล้วก็อยู่เงียบๆไปซะ
เด็ กในวัยที่กำลังหัดพูด มักจะชอบพูดตลอดเวลา อาจจะพูดผิด
พูดถูกบ้าง หากเขาพูดจาไม่เหมาะสม คุณแม่ควรจะสอนเขาดี ๆ
แทนที่จะบอกว่าให้หุบปากแบบนั้นนะ เพราะจะทำให้ลูกเก็บกด
ไม่กล้าแสดงออก และอาจมีพัฒนาการทางการพูดที่ช้าลงด้วย
:: ทำไมทำตัวน่ารำคาญแบบนี้
การพูดประโยคนี้จะบั่นทอนความรู้สึกและความเชื่อมั่นของลูกนะ
เพราะอาจจะทำให้เขาเริ่มไม่มั่นใจ ว่าตกลงแล้วพ่อกับแม่ยังรัก
เขาอยู่ไหม ฉะนั้น ความมั่นคงในจิตใจของลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญ
และเป็นพื้นฐานต่อไปในอนาคตด้วยนะ
:: ไอ่เด็ กขิ้แพ้
การที่เรียกลูกว่าเด็ กขิ้แพ้ จะทำให้ลูกคุณอาจรู้สึกละอ ายใจ
ทางที่ดีนั้น คุพ่อแม่ควรฝึกให้ลูกรู้จักการฝึกฝน ฝึกความพย า
ย ามให้เขาจะดีกว่านะ เพราะการที่คุณพูดทำร้ ายจิตใจลูกบ่อยๆ
แทนที่ลูกจะมีความพย าย ามมากขึ้น แต่กลับยิ่งทำให้ลูกยิ่งมี
พฤติก ร ร มที่ถดถอย หรืออาจขาดความเชื่อมั่นและไม่กล้าที่
จะตัดสินใจอะไรได้ด้วยตัวเอง
:: เป็นลูกผู้ชายหน่อยสิ!
และประโยคนี้นี้ก็ไม่ควรที่จะใช้กับลูกด้วยเช่นกัน นอกจากจะ
เป็นปิดกั้นพัฒนาการของเขาแล้ว ยังทำให้ลูกสับสนมากกว่าเดิม
ว่าการเป็นลูกผู้ชายนั้ันจะต้องทำยังไง และยังไงก็ตามคุณแม่ควร
อธิบายเพิ่มว่า ลูกควรทำอะไรบ้างและทำเพราะอะไร เพื่อที่เขาได้รู้
:: แม่จะตั ดลูกตั ดแม่กันแล้วนะ
เวลาที่คุณแม่รู้สึกโ ก ร ธ มากๆ อาจเผลอพูดประโยคนี้กับลูกไป
แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ลูกเราก็ยังต้องพึ่งพิงอาศัยอาหารจาก
เรา และความรักจากคุณแม่คุณพ่ออยู่ ทางที่ดี หากพูดเผลอพูด
ออกไปแล้ว อาจเป็นการทำร้ ายจิตใจความรู้สึกของลูก อาจจะ
ทำลายความสัมพันธ์ก็เป็นได้ ควรคิดดีๆก่อนพูดออกมา
:: ทำไมไม่เหมือนลูกคนอื่นเลย
คุณแม่ไม่ควรที่จะเอาลูกตัวเองไปเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น
เราควรเข้าใจว่าเด็ กแต่ละคนไม่เหมือนกัน พย าย ามทำให้
ลูกรู้ว่ าพวกเขาพิเศษกันคนละแบบจะดีกว่านะ
:: ชอบออกคำสั่ง
แม้หน้าที่ของคุณแม่คือควรสอนให้ลูกเชื่อฟังในสิ่งที่เราพูด
แต่ยังไงก็ไม่ควรที่จะพูดลอย ๆ ออกมาโดยไม่มีเหตุมีผลและ
ไม่อธิบายอะไรเพิ่ม เพราะลูกจะมีความเคยชินว่าทำตามไปวันๆ