ข้อความโดย: admin
« เมื่อ: 23/08/23 »ชาตินี้ก็เป็นนักเทรดมืออาชีพไม่ได้ ถ้าคุณยังทำแบบ 3 ข้อนี้
1. เอาเงินที่ไม่ใช่เงินเย็นมาเทรด
ผมเห็นหลายคนในตลาด เอาเงินร้อนมาเทรด เงินที่จะต้องเอาไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าห้อง ค่าน้ำไฟ ค่ากินอยู่ แล้วมันเครียดมากๆ เพราะรู้ว่าเงินนี้เสียไปไม่ได้เด็ดขาด เดิมพันมันสูงลิบ เพราะถ้าเทรดเสีย ทั้งเดือนจะไม่หลือกินเหลือใช้แล้ว
.
กับคนอีกแบบที่คิดว่าตัวเองไม่มีทุน ทุนน้อย เลยไปกู้หนี้ยืมสิน กดเงินสดจากบัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยสูงๆ เอามาเทรด คุณจะโคตรเครียด ไม่กล้าเสียเงิน ไม่กล้าคัท สุดท้ายพอร์ตแตก เป็นแบบนี้ทุกคน นอกจากจะเทรดไม่ได้กำไรแล้ว ยังต้องมาตามใช้หนี้เงินที่ยืมมาอีก คนแบบนี้เข้ามาในตลาดได้ไม่นานก็ต้องออกไปแบบมือเปล่า บางคนออกไปแบบเสียหมดตัว แล้วเข็ดเลย ไม่กลับมาอีก เพราะเราเริ่มต้นแบบผิดๆ ครับ
.
ดังนั้นเงินที่เอามาเทรดควรเป็นเงินเย็น เงินที่ไม่ได้ใช้ทำอะไร เงินส่วนที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว เงินที่หากเสียไปก็ไม่ได้กระทบหรือทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เราเดือดร้อน นั่นแหละ ค่อยเอามาเทรดทำกำไรครับ
2. ไม่มีวินัย ไม่มีเทรด Setup ในการเทรด
ทุกวันนี้ หลายคนมากในตลาดที่เข้ามาเทรด ถามว่าเทรดได้มั้ย ก็เทรดได้นะ ได้กำไรเรื่อยๆ แต่ถ้าถามว่าแล้วมีระบบเทรดมั้ย เทรด Setup มีหรือยัง ก็ตอบว่าไม่มี เทรดไปมั่วๆ ก็ได้กำไรเหมือนกัน แล้วจะมีเทรด Setup ไปทำไม
.
คำตอบคือ ในการเทรด ถ้าเราไม่มีกระบวนการที่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่คุณมีมันจะไม่สเถียรครับ เช่น เทรดมั่วๆ ได้พักนึง แต่มันไม่สม่ำเสมอ เพราะเราทำซ้ำไม่ได้ กำไรที่ได้มามันแค่ "ฟลุ๊ค" คุณแค่บังเอิญ "โชคดี" ที่เดากราฟถูกทาง เหมือนเล่นพนันนั่นแหละครับ แต่วันที่โชคของคุณมันหมดลงล่ะ คุณจะทำยังไงต่อ ถ้ากำไรทั้งหมดที่มีมันหาย มันเสียคืนตลาดไปพร้อมทุนของคุณล่ะ คุณจึงต้องมีเทรด Setup มีเทคนิคเทรดที่ใช่ มีการ MM เพราะกำไรที่ได้มามั่วๆ คือกำไรที่ไม่ยั่งยืนครับ
.
ถ้าคุณยังทำแบบนี้ต่อไป อย่าว่าแต่นักเทรดมืออาชีพเลย นักเทรดมือสมัครเล่นคุณก็เป็นไม่ได้ เป็นได้แค่นักพนันครับ
3. ไม่มี Mindset นักเทรด ไม่มีวิธีคิด บริหารจิตใจ
อันนี้สำคัญมาก บอกเลยว่าต่อให้มี 2 ข้อข้างบน แต่ไม่มีข้อนี้ ก็ยากที่จะเป็นนักเทรดมืออาชีพได้ ใครคิดว่าตัวเองมีทัศนคติดี แล้วจะมาเทรดได้ มันไม่ใช่ มันคนละทัศนติกันครับ ทัศนคติทั่วไปใช้ไม่ได้กับการเทรด เช่น การเข้าใจสภาวะตลาด เราต้องรู้ก่อนว่าตลาดนี้มันมีจังหวะของมัน มันไม่ได้ Fix cost ว่าต้องได้เท่าไหร่ กำไรแต่ละครั้งมันไม่เท่ากัน การทำเงินอาจไม่สม่ำเสมอ แต่ข้อดีมันมีโอกาสกระโดดเลย มันดีดขึ้นลงแล้วแต่สภาวะตลาด แต่เทคนิคที่ดีจะทำให้คุณทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด ดังนั้นจิตใจของคุณจะต้องเชื่อมั่นและมุ่งมั่นกับเป้าหมาย
.
เพราะต่อให้คุณเทรดเก่งมาก จนเทรดได้เป็นล้าน วันนึงเสีย 5 แสน คุณตกใจ เลิกเลยทันที ทั้งที่คุณก็ยังเหลือกำไรตั้ง 5 แสน แต่นักเทรดมืออาชีพจริงๆ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ต้องทำต่อ เพราะเขามีเป้าหมายทีชัดเจน มี Big Win ของเขาที่จะไป แต่ถ้าคุณอยากแค่มาหาเงินเสริมในตลาดนี้ แล้วจะออกก็ได้ ออกเมื่อไหร่ก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ถ้าตั้งเป้าว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตไปเลย มันต้องทำไปเรื่อยๆ ต่อยอดสร้างเงินจากตรงนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อไปทำอย่างอื่น ดังนั้นเขาจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจไปง่ายๆ ครับ
1. เอาเงินที่ไม่ใช่เงินเย็นมาเทรด
ผมเห็นหลายคนในตลาด เอาเงินร้อนมาเทรด เงินที่จะต้องเอาไปจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าห้อง ค่าน้ำไฟ ค่ากินอยู่ แล้วมันเครียดมากๆ เพราะรู้ว่าเงินนี้เสียไปไม่ได้เด็ดขาด เดิมพันมันสูงลิบ เพราะถ้าเทรดเสีย ทั้งเดือนจะไม่หลือกินเหลือใช้แล้ว
.
กับคนอีกแบบที่คิดว่าตัวเองไม่มีทุน ทุนน้อย เลยไปกู้หนี้ยืมสิน กดเงินสดจากบัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยสูงๆ เอามาเทรด คุณจะโคตรเครียด ไม่กล้าเสียเงิน ไม่กล้าคัท สุดท้ายพอร์ตแตก เป็นแบบนี้ทุกคน นอกจากจะเทรดไม่ได้กำไรแล้ว ยังต้องมาตามใช้หนี้เงินที่ยืมมาอีก คนแบบนี้เข้ามาในตลาดได้ไม่นานก็ต้องออกไปแบบมือเปล่า บางคนออกไปแบบเสียหมดตัว แล้วเข็ดเลย ไม่กลับมาอีก เพราะเราเริ่มต้นแบบผิดๆ ครับ
.
ดังนั้นเงินที่เอามาเทรดควรเป็นเงินเย็น เงินที่ไม่ได้ใช้ทำอะไร เงินส่วนที่เหลือจากการหักค่าใช้จ่ายจำเป็นต่างๆ ในชีวิตประจำวันแล้ว เงินที่หากเสียไปก็ไม่ได้กระทบหรือทำให้ชีวิตความเป็นอยู่เราเดือดร้อน นั่นแหละ ค่อยเอามาเทรดทำกำไรครับ
2. ไม่มีวินัย ไม่มีเทรด Setup ในการเทรด
ทุกวันนี้ หลายคนมากในตลาดที่เข้ามาเทรด ถามว่าเทรดได้มั้ย ก็เทรดได้นะ ได้กำไรเรื่อยๆ แต่ถ้าถามว่าแล้วมีระบบเทรดมั้ย เทรด Setup มีหรือยัง ก็ตอบว่าไม่มี เทรดไปมั่วๆ ก็ได้กำไรเหมือนกัน แล้วจะมีเทรด Setup ไปทำไม
.
คำตอบคือ ในการเทรด ถ้าเราไม่มีกระบวนการที่ชัดเจน ผลลัพธ์ที่คุณมีมันจะไม่สเถียรครับ เช่น เทรดมั่วๆ ได้พักนึง แต่มันไม่สม่ำเสมอ เพราะเราทำซ้ำไม่ได้ กำไรที่ได้มามันแค่ "ฟลุ๊ค" คุณแค่บังเอิญ "โชคดี" ที่เดากราฟถูกทาง เหมือนเล่นพนันนั่นแหละครับ แต่วันที่โชคของคุณมันหมดลงล่ะ คุณจะทำยังไงต่อ ถ้ากำไรทั้งหมดที่มีมันหาย มันเสียคืนตลาดไปพร้อมทุนของคุณล่ะ คุณจึงต้องมีเทรด Setup มีเทคนิคเทรดที่ใช่ มีการ MM เพราะกำไรที่ได้มามั่วๆ คือกำไรที่ไม่ยั่งยืนครับ
.
ถ้าคุณยังทำแบบนี้ต่อไป อย่าว่าแต่นักเทรดมืออาชีพเลย นักเทรดมือสมัครเล่นคุณก็เป็นไม่ได้ เป็นได้แค่นักพนันครับ
3. ไม่มี Mindset นักเทรด ไม่มีวิธีคิด บริหารจิตใจ
อันนี้สำคัญมาก บอกเลยว่าต่อให้มี 2 ข้อข้างบน แต่ไม่มีข้อนี้ ก็ยากที่จะเป็นนักเทรดมืออาชีพได้ ใครคิดว่าตัวเองมีทัศนคติดี แล้วจะมาเทรดได้ มันไม่ใช่ มันคนละทัศนติกันครับ ทัศนคติทั่วไปใช้ไม่ได้กับการเทรด เช่น การเข้าใจสภาวะตลาด เราต้องรู้ก่อนว่าตลาดนี้มันมีจังหวะของมัน มันไม่ได้ Fix cost ว่าต้องได้เท่าไหร่ กำไรแต่ละครั้งมันไม่เท่ากัน การทำเงินอาจไม่สม่ำเสมอ แต่ข้อดีมันมีโอกาสกระโดดเลย มันดีดขึ้นลงแล้วแต่สภาวะตลาด แต่เทคนิคที่ดีจะทำให้คุณทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด ดังนั้นจิตใจของคุณจะต้องเชื่อมั่นและมุ่งมั่นกับเป้าหมาย
.
เพราะต่อให้คุณเทรดเก่งมาก จนเทรดได้เป็นล้าน วันนึงเสีย 5 แสน คุณตกใจ เลิกเลยทันที ทั้งที่คุณก็ยังเหลือกำไรตั้ง 5 แสน แต่นักเทรดมืออาชีพจริงๆ ไม่ว่าเขาจะอยู่ในอารมณ์ไหนก็ต้องทำต่อ เพราะเขามีเป้าหมายทีชัดเจน มี Big Win ของเขาที่จะไป แต่ถ้าคุณอยากแค่มาหาเงินเสริมในตลาดนี้ แล้วจะออกก็ได้ ออกเมื่อไหร่ก็ได้ที่คุณต้องการ แต่ถ้าตั้งเป้าว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงชีวิตทั้งชีวิตไปเลย มันต้องทำไปเรื่อยๆ ต่อยอดสร้างเงินจากตรงนี้ให้ได้มากที่สุดเพื่อไปทำอย่างอื่น ดังนั้นเขาจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจไปง่ายๆ ครับ