ข้อความโดย: admin
« เมื่อ: 12/06/24 »เตือนภัย หนุ่มอายุแค่ 22 ป่วยไตวาย ตับแข็ง เก๊าท์ เพราะเสพติดน้ำหวานแทนน้ำเปล่า
ชายหนุ่มชาวไต้หวัน วัย 22 ปี ป่วยเป็นโรคไตวาย ตับแข็ง และเก๊าท์พร้อมกัน แพทย์เผยสาเหตุมาจากการดื่มน้ำหวานเป็นประจำ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไตจากโรงพยาบาลในไต้หวัน ได้ออกมาเตือนภัยเรื่องพฤติกรรมการกินที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ยกกรณีศึกษาของคนไข้ชายอายุ 22 ปี ที่มีภาวะไตวายระยะที่ 4 ตับแข็ง และโรคเก๊าท์ พบว่าสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำหวานเป็นประจำแทนน้ำ และรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นเวลานานถึง 4 ปี
คนไข้รายนี้มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบมาก่อนในช่วงมัธยม แต่ได้รับการรักษาและปรับพฤติกรรมจนอาการดีขึ้น จนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและเริ่มละเลยการดูแลสุขภาพ ทั้งยังมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 20 กิโลกรัม
แพทย์ผู้รักษาเผยว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงและรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อการทำงานของไต เนื่องจากทำให้เกิดภาวะเมตาบอลิซึมผิดปกติ น้ำหนักตัวเกิน และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดในไตเสียหาย
นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตในอนาคต
แพทย์จึงแนะนำให้ทุกคนใส่ใจสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาหารไขมันสูง และอาหารรสเค็มจัด เพื่อป้องกันโรคไตและโรคอื่นๆ ที่อาจตามมา
สร้างนิสัยดี 3 ข้อ ปกป้องไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สร้างนิสัยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควรเน้นการกินอาหารที่มีเส้นใยสูง จำกัดอาหารที่มีไขมันและเค็ม รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อวัยวะส่วนใหญ่ในร่างกายของเราต้องการน้ำเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต หลอดเลือดและผิวหนัง การดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะได้ไม่เพียงพอ ขัดขวางกระบวนการกำจัดของเสีย ทำให้ไตทำงานหนักเกินไปและส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เป็นไปอย่างปกติ
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและลดไขมันในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับไต
ชายหนุ่มชาวไต้หวัน วัย 22 ปี ป่วยเป็นโรคไตวาย ตับแข็ง และเก๊าท์พร้อมกัน แพทย์เผยสาเหตุมาจากการดื่มน้ำหวานเป็นประจำ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไตจากโรงพยาบาลในไต้หวัน ได้ออกมาเตือนภัยเรื่องพฤติกรรมการกินที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ยกกรณีศึกษาของคนไข้ชายอายุ 22 ปี ที่มีภาวะไตวายระยะที่ 4 ตับแข็ง และโรคเก๊าท์ พบว่าสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำหวานเป็นประจำแทนน้ำ และรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นเวลานานถึง 4 ปี
คนไข้รายนี้มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบมาก่อนในช่วงมัธยม แต่ได้รับการรักษาและปรับพฤติกรรมจนอาการดีขึ้น จนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและเริ่มละเลยการดูแลสุขภาพ ทั้งยังมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 20 กิโลกรัม
แพทย์ผู้รักษาเผยว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงและรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อการทำงานของไต เนื่องจากทำให้เกิดภาวะเมตาบอลิซึมผิดปกติ น้ำหนักตัวเกิน และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดในไตเสียหาย
นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตในอนาคต
แพทย์จึงแนะนำให้ทุกคนใส่ใจสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาหารไขมันสูง และอาหารรสเค็มจัด เพื่อป้องกันโรคไตและโรคอื่นๆ ที่อาจตามมา
สร้างนิสัยดี 3 ข้อ ปกป้องไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สร้างนิสัยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควรเน้นการกินอาหารที่มีเส้นใยสูง จำกัดอาหารที่มีไขมันและเค็ม รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อวัยวะส่วนใหญ่ในร่างกายของเราต้องการน้ำเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต หลอดเลือดและผิวหนัง การดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะได้ไม่เพียงพอ ขัดขวางกระบวนการกำจัดของเสีย ทำให้ไตทำงานหนักเกินไปและส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เป็นไปอย่างปกติ
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและลดไขมันในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับไต