ข้อความโดย: admin
« เมื่อ: 22/02/24 » ใครๆ ก็อยากรู้สึกมีคุณค่า แต่ต้องทำอย่างไรล่ะ ถึงจะรู้สึกมีคุณค่าในสายตาใครๆ ขึ้นมาได้ และทำให้ใครๆ ก็ชื่นชมคุณ อยากเข้าใกล้คนมีเสน่ห์แบบคุณอยู่เสมอ เรื่องนี้ Women Society มีคำตอบให้ หากทำเป็นประจำชีวิตจะดี๊ดี ไม่มีคำว่าเหงาเลยล่ะค่ะ
1. มีรอยยิ้ม ‘จริงใจ’ อยู่เสมอ
ที่ต้องเน้นว่า จริงใจ เพราะการยิ้มออกจากใจนั้น จะยิ้มทั้งดวงตาและริมฝีปาก ไม่ใช่แค่ยกมุมปากตามมารยาท ซึ่งการยิ้มอย่างจริงใจนี้จะทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร และรู้สึกถูกชะตากับคุณตั้งแต่แรกเห็นค่ะ ที่สำคัญยังทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ทำให้คุณมองชีวิตในแง่บวกด้วยเช่นกัน
2. ฟังมากกว่าพูดกับทุกๆ คน
การรับฟังอีกฝ่าย คือวิธีแสดงออกว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหน ไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ หรือชิงแสดงความคิดเห็นหากเขาไม่ได้ร้องขอ คุณอาจพลาดโอกาสได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายที่จะคุยด้วย ในทางตรงกันข้าม การสบตา (Eye Contact) พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ตาม จะทำให้ใครๆ เปิดใจกับคุณ และรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วยค่ะ
3. อย่ามัวคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ขณะอยู่กับคนอื่น
ยุคดิจิตัลแบบนี้ คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แต่อย่ามัวก้มหน้าอยู่กับมือถือและแทบเลตในมือนะคะ ยิ่งคุณตัดโลกภายนอกออกไปมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งโดดเดี่ยวในส่วนลึกมากเท่านั้น ลองเงยหน้าและใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบกับคนที่มีคุณรัก ชีวิตจะมีความหมายขึ้นอีกเยอะ ต่อให้อยู่คนเดียว เราเชื่อว่าการลงมือปลูกต้นไม้สักต้น ก็จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มใจมากกว่าการสไลด์หน้าจออย่างไร้จุดหมายแน่นอนค่ะ
4. ดูแลตัวเองอยู่เสมอ
การละเลยตัวเอง จะบั่นทอนความมั่นใจตัวเองลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าตัวคุณด้อยค่าเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า ลองเริ่มต้นออกกำลังกาย แต่งหน้าบ้าง ซื้อเสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิก หรือทดลองสีสันสไตล์ใหม่ๆ ที่ดูสดใสขึ้น มันจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มั่นใจในตัวเอง และมีพลังทำอะไรดีๆ อีกเยอะเลย
5. รู้จักวางเป้าหมาย
การมีเป้าหมายในชีวิต จะทำให้คุณรู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไร อาจลองตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน เช่น จะลงแข่งมินิมาราธอนให้ได้ จะแบกเป้เที่ยวคนเดียวสักครั้ง หรือจะมีธุรกิจเล็กๆ หลังเลิกงานเพื่อทำสิ่งที่ชอบ นอกจากคุณจะรู้สึกดีแล้ว คนรอบข้างก็รู้สึกว่าคุณมีเสน่ห์มากเช่นกันค่ะ
6. ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
บางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้คุณรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดว่าเค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากไม่เดือดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณ
7. แบ่งเวลาชีวิต
หากมัวแต่ทำงานงกๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา ใครล่ะจะกล้าเข้าใกล้ แถมพอวันนึงที่เราทำงานไม่ได้ หรือเกิดความไม่มั่นคงทางการงานขึ้นมา เราจะรู้สึกไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นจงให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และกิจกรรมในวันว่างบ้าง มันจะทำให้ทุกวันมีค่าเสมอ
8. ชื่นชมคนอื่นและตัวเองอย่างเท่าเทียม
การชื่นชมยกย่อง ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น และยังทำให้คนอื่นมองเห็นความใจกว้างของคุณ รู้สึกดีกับคุณ ผลลัพธ์คือคำชมเหล่านั้นก็จะย้อนกลับมาหาคุณด้วยเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องร้องขอจากใครๆ เลย
9. ยอมรับความล้มเหลวแต่อย่ายึดติด
ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงความล้มเหลวของคนอื่น หรือของตัวคุณเอง ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากบั่นทอนกำลังใจ ทำให้รู้สึกไร้ค่ามากขึ้น เพราะความผิดพลาดมันคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เราควรเก็บมันไว้พอเป็นบทเรียน และก้าวต่อไปอย่างมีกำลังใจมากกว่านะคะ
10. คิดถึงเรื่องดีๆ ทุกเช้าและก่อนนอน
ผลวิจัยจาก University of North Carolina ระบุว่า การมองโลกในแง่บวก มีประสบการณ์กับสิ่งดีๆ เช่น อารมณ์สนุกสนาน ความรัก จะรู้สึกถึงคำว่า ‘เป็นไปได้’ มากกว่าคนที่เห็นหรือมองอะไรชวนหดหู่อยู่เสมอ ดังนั้นก่อนนอนและทุกเช้า ลองจินตนาการถึงความสุขและความสำเร็จที่ผ่านมา และที่คุณอยากให้เกิด ราวกับมันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ดูนะคะ ไม่ใช่แค่ดีต่อตัวเอง แต่มันยังเป็นพลังที่คนรอบข้างสัมผัสได้ และทำให้พวกเขารู้สึกดีตามไปด้วย ไม่เชื่อลองดูสิคะ
1. มีรอยยิ้ม ‘จริงใจ’ อยู่เสมอ
ที่ต้องเน้นว่า จริงใจ เพราะการยิ้มออกจากใจนั้น จะยิ้มทั้งดวงตาและริมฝีปาก ไม่ใช่แค่ยกมุมปากตามมารยาท ซึ่งการยิ้มอย่างจริงใจนี้จะทำให้อีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงความเป็นมิตร และรู้สึกถูกชะตากับคุณตั้งแต่แรกเห็นค่ะ ที่สำคัญยังทำให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมา ทำให้คุณมองชีวิตในแง่บวกด้วยเช่นกัน
2. ฟังมากกว่าพูดกับทุกๆ คน
การรับฟังอีกฝ่าย คือวิธีแสดงออกว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหน ไม่ควรพูดขัดจังหวะขณะที่อีกฝ่ายยังพูดไม่จบ หรือชิงแสดงความคิดเห็นหากเขาไม่ได้ร้องขอ คุณอาจพลาดโอกาสได้ทำความรู้จักอีกฝ่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้อีกฝ่ายเหนื่อยหน่ายที่จะคุยด้วย ในทางตรงกันข้าม การสบตา (Eye Contact) พยักหน้ารับคำ หรือตอบรับเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังคุยไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใครก็ตาม จะทำให้ใครๆ เปิดใจกับคุณ และรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วยค่ะ
3. อย่ามัวคิดถึงแต่เรื่องตัวเอง ขณะอยู่กับคนอื่น
ยุคดิจิตัลแบบนี้ คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ แต่อย่ามัวก้มหน้าอยู่กับมือถือและแทบเลตในมือนะคะ ยิ่งคุณตัดโลกภายนอกออกไปมากเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งโดดเดี่ยวในส่วนลึกมากเท่านั้น ลองเงยหน้าและใช้เวลาทำสิ่งที่ชอบกับคนที่มีคุณรัก ชีวิตจะมีความหมายขึ้นอีกเยอะ ต่อให้อยู่คนเดียว เราเชื่อว่าการลงมือปลูกต้นไม้สักต้น ก็จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มใจมากกว่าการสไลด์หน้าจออย่างไร้จุดหมายแน่นอนค่ะ
4. ดูแลตัวเองอยู่เสมอ
การละเลยตัวเอง จะบั่นทอนความมั่นใจตัวเองลงเรื่อยๆ ทำให้เกิดการเปรียบเทียบว่าตัวคุณด้อยค่าเมื่อเห็นคนอื่นดีกว่า ลองเริ่มต้นออกกำลังกาย แต่งหน้าบ้าง ซื้อเสื้อผ้าที่เข้ากับบุคลิก หรือทดลองสีสันสไตล์ใหม่ๆ ที่ดูสดใสขึ้น มันจะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่น มั่นใจในตัวเอง และมีพลังทำอะไรดีๆ อีกเยอะเลย
5. รู้จักวางเป้าหมาย
การมีเป้าหมายในชีวิต จะทำให้คุณรู้ว่าจะมีชีวิตเพื่ออะไร อาจลองตั้งเป้าเล็กๆ ก่อน เช่น จะลงแข่งมินิมาราธอนให้ได้ จะแบกเป้เที่ยวคนเดียวสักครั้ง หรือจะมีธุรกิจเล็กๆ หลังเลิกงานเพื่อทำสิ่งที่ชอบ นอกจากคุณจะรู้สึกดีแล้ว คนรอบข้างก็รู้สึกว่าคุณมีเสน่ห์มากเช่นกันค่ะ
6. ให้โดยไม่หวังผลตอบแทน
บางครั้งการให้เพราะคิดจะให้ ก็ทำให้คุณรู้สึกดีอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคุณจะไม่ต้องมัวเสียเวลาคิดว่าเค้าจะตอบแทนเราแบบไหน คุ้มไม่คุ้ม พาลจะทำให้คุณคิดว่าตัวเองไม่มีค่าเค้าถึงไม่เห็นความดี ในทางตรงกันข้าม การให้จากใจนั่นล่ะที่มีค่าที่สุด หากไม่เดือดร้อนตัวเองก็จงให้ไปเถอะ ขอแค่สบายใจที่ได้ให้ก็พอ แล้วมันจะเป็นพลังดีๆ ที่ดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาคุณ
7. แบ่งเวลาชีวิต
หากมัวแต่ทำงานงกๆ หน้านิ่วคิ้วขมวดตลอดเวลา ใครล่ะจะกล้าเข้าใกล้ แถมพอวันนึงที่เราทำงานไม่ได้ หรือเกิดความไม่มั่นคงทางการงานขึ้นมา เราจะรู้สึกไม่เหลืออะไรเลย ดังนั้นจงให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว เพื่อนร่วมงาน และกิจกรรมในวันว่างบ้าง มันจะทำให้ทุกวันมีค่าเสมอ
8. ชื่นชมคนอื่นและตัวเองอย่างเท่าเทียม
การชื่นชมยกย่อง ใครๆ ก็ชอบทั้งนั้น และยังทำให้คนอื่นมองเห็นความใจกว้างของคุณ รู้สึกดีกับคุณ ผลลัพธ์คือคำชมเหล่านั้นก็จะย้อนกลับมาหาคุณด้วยเช่นกัน โดยที่ไม่ต้องร้องขอจากใครๆ เลย
9. ยอมรับความล้มเหลวแต่อย่ายึดติด
ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงความล้มเหลวของคนอื่น หรือของตัวคุณเอง ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร นอกจากบั่นทอนกำลังใจ ทำให้รู้สึกไร้ค่ามากขึ้น เพราะความผิดพลาดมันคือเรื่องธรรมดาของมนุษย์ เราควรเก็บมันไว้พอเป็นบทเรียน และก้าวต่อไปอย่างมีกำลังใจมากกว่านะคะ
10. คิดถึงเรื่องดีๆ ทุกเช้าและก่อนนอน
ผลวิจัยจาก University of North Carolina ระบุว่า การมองโลกในแง่บวก มีประสบการณ์กับสิ่งดีๆ เช่น อารมณ์สนุกสนาน ความรัก จะรู้สึกถึงคำว่า ‘เป็นไปได้’ มากกว่าคนที่เห็นหรือมองอะไรชวนหดหู่อยู่เสมอ ดังนั้นก่อนนอนและทุกเช้า ลองจินตนาการถึงความสุขและความสำเร็จที่ผ่านมา และที่คุณอยากให้เกิด ราวกับมันได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ดูนะคะ ไม่ใช่แค่ดีต่อตัวเอง แต่มันยังเป็นพลังที่คนรอบข้างสัมผัสได้ และทำให้พวกเขารู้สึกดีตามไปด้วย ไม่เชื่อลองดูสิคะ