กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10
41
เรื่องราวนี้ไม่เคยเปิดเผยที่ไหน... เส้นทางจากเด็กอายุ 19 พอร์ตแตกยับเยิน สู่การเป็นเทรดเดอร์ที่ยืนอยู่ในตลาดได้อย่างมั่นคง เพราะไอเปลี่ยนตัวเองและตั้งกฎ 6 ข้อนี้ขึ้นมา ถ้าคุณอ่านจบมันอาจจะเปลี่ยนชีวิตของคุณไปเลย
"เงินไม่ใช่ทุกอย่าง...แต่กระบวนการคือทุกสิ่ง"
ย้อนกลับไปวันแรก...
"ต้องทำกำไรวันละ 5,000 ให้ได้!"
นี่คือเป้าหมายแรกของไอตอนเริ่มเทรด
แค่คิดย้อนก็อายแล้ว... เพราะตอนนั้น
- อ่านหนังสือแค่ 2-3 เล่ม
- เปิดกราฟไม่ถึงเดือน
- ไม่มีระบบ ไม่มีแผน
- แต่ความมั่นใจล้นเกินเบอร์
 จุดพลิกผันครั้งแรก...
เริ่มจากกำไรนิดๆ หน่อยๆ ไอก็เริ่มเพิ่ม lot size:
"วันนี้กำไร 2,000... พรุ่งนี้ลองเพิ่มเป็น 0.5 lot ดูดีกว่า"
"เดี๋ยว! ถ้าเราเพิ่มเป็น 1 lot ล่ะ?"
ผลลัพธ์ = พอร์ตติดลบหนักจนต้องยืมเงินที่บ้าน จนต้องถอยกลับมามองตัวเอง เพราะมันเจ็บหนักจนกลไกป้องกันตัวเองตามจิตวิทยามนุษย์มันสั่งให้หยุด
 ทำไมผมถึงล้มเหลว?
ไอเจอกับดักใหญ่ๆ 3 อย่าง:
1. โรคบ้าเงิน
- คิดถึงแต่กำไรรายวัน
- ฝันถึงรถคันใหม่
- อยากใช้ชีวิตสบายๆ แบบไม่ต้องง้อใคร
แต่ลืมไปว่า... ยังไม่มีระบบเทรดด้วยซ้ำ
2. ความมั่นใจเกินร้อย
"ตลาดนี้ง่ายจัง! มีแค่ขึ้นกับลง"
และแล้ว... วันที่กำไร 20,000 ก็มาถึง
ไอคิดว่าตัวเองเก่งแล้ว เลยเพิ่ม lot size:
"ถ้าเพิ่มอีกนิด พรุ่งนี้ต้องได้ 50,000!" ผมคิดในใจ
ผลลัพธ์:
- พอร์ตหาย 50% ในวันเดียว
- กำไรที่สะสมมาหายหมด
- ติดลบหนักกว่าเดิม
3. ไม่ยอมรับความผิด
- เห็นสัญญาณว่าผิดแล้วยังไม่ยอมตัดขาดทุน
- คิดว่าต้องเอาคืนให้ได้
- ยิ่งไล่ ยิ่งเจ็บ
จุดเปลี่ยนของชีวิต...
หลังจากล้มครั้งใหญ่ ไอได้เจอเทรดเดอร์รุ่นพี่คนนึง เขาบอกประโยคที่เปลี่ยนชีวิตไอ
"ผมใช้เวลา 2 ปี ศึกษาตลาดแบบไม่เข้าออเดอร์เลย"
ตอนนั้นไอหัวเราะในใจ คิดว่า "เสียเวลา"
แต่วันนี้... ไอเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จ
6 สิ่งที่ไอเปลี่ยนแปลงตัวเอง:
1. ลงทุนกับความรู้ก่อน
- อ่านหนังสือเทรดดีๆ
- เรียนรู้จากเทรดเดอร์ที่ประสบความสำเร็จ
- ทดสอบระบบจนเจอสิ่งที่ใช่
2. มีรายได้เสริม
รู้ไหม? ไอเคยขายของในตลาดนัดช่วงที่เริ่มเทรดใหม่
- ลดความกดดันเรื่องเงิน
- ทำให้เทรดได้ใจเย็นขึ้น
3. เปลี่ยนมุมมองใหม่
- มองการเทรดเป็นเกมหมากรุก
- สนุกกับการวิเคราะห์
- ไม่เครียดเรื่องตัวเลข
4. โฟกัสที่ความเสี่ยง
ก่อนเทรด ไอถามตัวเองเสมอ:
"ถ้าเทรดนี้ขาดทุน รับได้ไหม?"
ถ้าตอบไม่ได้ = ไม่เทรด
5. ใช้ชีวิตให้สมดุล
- ออกกำลังกาย
- เที่ยวต่างจังหวัด
- ใช้เวลากับครอบครัว
*เพราะการเทรดไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิต*
6. โฟกัสที่กระบวนการ
- เงินเป็นแค่ผลพลอยได้
- ทำตามแผนอย่างมีวินัย
- เรียนรู้จากทุกออเดอร์
 ฝากถึงคนที่กำลังท้อ...
ถ้าคุณเคยพลาดเหมือนไอ อย่าเพิ่งยอมแพ้..
- ทุกความผิดพลาดคือบทเรียน
- ทุกการล้มคือโอกาสลุกขึ้นใหม่
- ทุกความเจ็บปวดคือครูที่ดีที่สุด
"ความเจ็บปวด + การไตร่ตรอง = ความก้าวหน้า"
----------------------
ใครอ่านจบคอมเม้นท์ "เปลี่ยนตัวเอง"
เพื่อสะกดจิตและเข้าสู่เส้นทางการเปลี่ยนชีวิต
และไอขอให้มันเป็นเส้นทางที่พี่ทุกคน...จะสำเร็จ!



42
Forex / Liquidity Grab เป็นแนวคิดในระบบ SMC (Smart Money Concepts)
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 07/05/25 »
Liquidity Grab เป็นแนวคิดในระบบ SMC (Smart Money Concepts) ที่อธิบายการเคลื่อนไหวของราคาซึ่ง "Smart Money" (กลุ่มทุนใหญ่) ใช้เพื่อเก็บสภาพคล่อง (Liquidity) จากตลาด ก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ตั้งใจไว้

หลักการของ Liquidity Grab
สภาพคล่อง (Liquidity) หมายถึงคำสั่งซื้อ/ขายที่รออยู่ในตลาด เช่น Stop Loss หรือ Pending Orders

Buy Stops: อยู่เหนือ High ก่อนหน้า

Sell Stops: อยู่ใต้ Low ก่อนหน้า

Smart Money มัก "ดึงราคา" ไปแตะจุดที่มีคำสั่งเหล่านี้ เพื่อเก็บสภาพคล่องก่อนที่จะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ต้องการ

ขั้นตอนการใช้งาน Liquidity Grab
1. ระบุบริเวณ Liquidity Zones
มองหาบริเวณที่มี Highs และ Lows ที่ชัดเจน:

จุดที่นักเทรดรายย่อยมักวาง Stop Loss

บริเวณที่ราคาเคยกลับตัวก่อนหน้านี้

สังเกตว่าบริเวณนั้นเป็นแนวรับหรือแนวต้านสำคัญใน TF ใหญ่ เช่น H1 หรือ H4

2. รอดูการดึงราคา (Grab)
รอให้ราคาพุ่งไปแตะ High/Low ที่ระบุไว้ เพื่อเก็บสภาพคล่อง

การดึงราคามักเกิดในลักษณะ "Wick" (เงาของแท่งเทียน) ที่ยาวและกลับตัวอย่างรวดเร็ว

3. การยืนยันการกลับตัว (Confirmation)
หลังจาก Liquidity ถูก Grab ให้สังเกตพฤติกรรมราคา:

โครงสร้างตลาดเปลี่ยน (Market Structure Shift - MSS) เช่น ราคาทำ Lower High (สำหรับ Sell) หรือ Higher Low (สำหรับ Buy)

แท่งเทียนกลับตัวที่ชัดเจน เช่น Engulfing Candle หรือ Pin Bar

4. เข้าเทรด
Buy: เมื่อราคาดึง Liquidity ใต้ Low และเริ่มกลับตัวขึ้น

Sell: เมื่อราคาดึง Liquidity เหนือ High และเริ่มกลับตัวลง

วาง SL ใต้/เหนือจุดที่ Liquidity ถูก Grab และตั้ง TP ตามแนวรับ/แนวต้านถัดไป

ตัวอย่างการใช้งาน
กรณี Buy (Long Position)
ราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Bullish)

ใน TF H1 คุณเห็น Low ก่อนหน้าที่ $1800 ซึ่งเป็นจุดที่มี Sell Stops สะสม

ราคาพุ่งลงมาแตะ $1798 (ต่ำกว่า $1800 เล็กน้อย) แต่กลับตัวขึ้นทันที

ใน TF M15 หรือ M5 มีแท่งเทียน Bullish Engulfing ที่ชัดเจน

จุดเข้าเทรด:

Buy ที่ $1802 หลังราคายืนยันกลับตัว

SL ใต้ $1798

TP ใกล้แนวต้านถัดไปที่ $1820

กรณี Sell (Short Position)
ราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง (Bearish)

ใน TF H1 คุณเห็น High ก่อนหน้าที่ $1900 ซึ่งเป็นจุดที่มี Buy Stops สะสม

ราคาพุ่งขึ้นไปแตะ $1902 (สูงกว่า $1900 เล็กน้อย) แต่กลับตัวลงทันที

ใน TF M15 หรือ M5 มีแท่งเทียน Bearish Engulfing ที่ชัดเจน

จุดเข้าเทรด:

Sell ที่ $1898 หลังราคายืนยันกลับตัว

SL เหนือ $1902

TP ใกล้แนวรับถัดไปที่ $1880

ข้อควรระวัง
อย่ารีบเข้าเทรดทันทีที่ราคาดึงไปแตะ High/Low:

รอให้ราคายืนยันการกลับตัวก่อนเสมอ

ฝึกในบัญชีทดลอง (Demo Account):

ใช้กลยุทธ์ Liquidity Grab ซ้ำ ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนใช้งานจริง

เช็คบริบทใน TF ใหญ่:

Liquidity Grab มักทำงานได้ดีเมื่อบริเวณ Liquidity Zones สอดคล้องกับแนวโน้มของตลาด

สรุป:
Liquidity Grab เป็นเทคนิคที่ช่วยให้คุณเข้าเทรดในจุดที่มีโอกาสสูงสุดและลดการไล่ราคา (Chasing Price) โดยใช้ความเข้าใจเรื่องพฤติกรรมของตลาดและ Smart Money อย่างมีประสิทธิภาพครับ!
43
Break and Retest เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเข้าเทรดที่นิยมมาก โดยเฉพาะในระบบ SMC (Smart Money Concepts) แนวคิดนี้คือการรอให้ราคาทำลาย (Break) แนวรับหรือแนวต้านสำคัญ จากนั้นรอดูว่าราคาจะดึงกลับมา (Retest) ทดสอบระดับนั้นอีกครั้งหรือไม่ ก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางเดิม

วิธีการใช้งาน Break and Retest
1. ระบุจุดสำคัญที่ต้องติดตาม
Order Block (OB):

จุดที่ Smart Money เคยสร้างแนวรับหรือแนวต้าน เช่น บริเวณที่มีแท่งเทียนรวมตัวกันอย่างชัดเจนก่อนราคาพุ่งขึ้น/ลง

Fair Value Gap (FVG):

ช่องว่างของราคาที่เกิดจากแท่งเทียนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เช่น ในกราฟ TF ใหญ่ คุณอาจเห็นแท่งเทียนวิ่งโดยไม่ทิ้งเงา (Wick)

2. การเบรกแนวรับ/แนวต้าน (Break)
สังเกตว่าแนวรับหรือแนวต้านถูกเบรกไปในทิศทางใด เช่น ราคาทำ Higher Highs (HH) หมายความว่าแนวต้านเดิมถูกเบรก

ให้รอราคาดึงกลับ (Retest) เพื่อยืนยันว่าระดับที่ถูกเบรกนั้นแข็งแรงและเป็นจุดที่ Smart Money สนใจ

3. การดึงกลับ (Retest)
รอให้ราคาดึงกลับมาที่บริเวณ OB หรือ FVG

สังเกตพฤติกรรมราคา (Price Action) ใน TF เล็ก เช่น M15 หรือ M5:

หากราคากลับมาทดสอบ OB แล้วมีสัญญาณกลับตัว (เช่น Bullish Engulfing สำหรับ Buy)

หรือหากราคากลับมาทดสอบ FVG แล้วมีการ Reject ทันที

4. ยืนยันการเข้าเทรด
เมื่อราคาทดสอบระดับสำคัญ (OB หรือ FVG) และมีสัญญาณกลับตัว:

ซื้อ (Buy): เมื่อราคาทำ Low ใหม่ที่สูงกว่าเดิม (Higher Low - HL)

ขาย (Sell): เมื่อราคาทำ High ใหม่ที่ต่ำกว่าเดิม (Lower High - LH)

5. ตั้ง SL และ TP
วาง Stop Loss (SL) ใต้ OB (สำหรับ Buy) หรือเหนือ OB (สำหรับ Sell)

วาง Take Profit (TP):

เป้าหมายกำไรแรกอยู่ที่แนวต้าน/แนวรับถัดไป

หรือใช้ Risk-to-Reward Ratio (เช่น 1:2 หรือ 1:3)

ตัวอย่างใช้งานจริง
สถานการณ์: Break and Retest บริเวณ Order Block
กราฟ H1:

คุณสังเกตเห็นว่าราคาทำลายแนวต้านที่ $1800 แล้วพุ่งขึ้นไปถึง $1815

ใน TF H1 มี OB บริเวณ $1800-$1805 ซึ่งเป็นจุดที่ราคาน่าจะดึงกลับมาทดสอบ

กราฟ M15 หรือ M5:

รอดูว่าราคาจะดึงกลับมาทดสอบ OB ที่ $1800-$1805 หรือไม่

เมื่อราคามาถึงบริเวณ OB ให้ดูพฤติกรรมแท่งเทียน:

แท่งเทียนปิดในลักษณะ Bullish Engulfing

หรือราคาปฏิเสธไม่หลุด OB หลายครั้ง (Wick ยาวด้านล่าง)

จุดเข้าเทรด:

เข้าซื้อ (Buy) เมื่อราคายืนยันการ Reject บริเวณ OB

ตั้ง SL ใต้ OB เช่น ที่ $1798

ตั้ง TP ที่แนวต้านถัดไป เช่น $1820

ข้อดีของ Break and Retest
เข้าเทรดในจุดที่ Smart Money สนใจ

ลดความเสี่ยงจากการไล่ราคา (Chasing Price)

เพิ่มโอกาสการเทรดในจุดที่มีความเป็นไปได้สูง

คำแนะนำ:
ฝึกฝนกลยุทธ์นี้ในบัญชีทดลอง (Demo Account) จนคุณมั่นใจในกระบวนการก่อนนำไปใช้จริง และจดบันทึกการเทรดเพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับปรุงกลยุทธ์ครับ!
44
ระบบ CCTV / กล้อง
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 30/04/25 »
กล้อง


rtsp://admin:Ge0v!sion@192.16831.13:554/CH001.sdp
rtsp://admin:Ge0v!sion@192.16831.12:554/CH001.sdp
45
การไม่ล้างพอร์ตใน Forex หมายถึงการรักษาสถานะการลงทุนให้คงอยู่และลดโอกาสที่เงินทุนจะหมด (Margin Call หรือ Stop Out) ซึ่งสามารถทำได้โดยการบริหารความเสี่ยงอย่างมีวินัยและการวางแผนที่ดี นี่คือวิธีที่คุณสามารถปฏิบัติเพื่อลดความเสี่ยงในการล้างพอร์ต:

1. ใช้เลเวอเรจอย่างระมัดระวัง
เลเวอเรจที่สูงอาจเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนเช่นกัน

ใช้เลเวอเรจในระดับที่คุณสามารถรับมือได้ เช่น 1:10 หรือ 1:20 แทนที่จะใช้เลเวอเรจสูงสุดที่โบรกเกอร์เสนอ

2. บริหารขนาดการเทรด (Position Sizing)
ลงทุนเฉพาะจำนวนที่คุณสามารถเสียได้โดยไม่กระทบต่อพอร์ต

กฎทั่วไปคือเสี่ยงไม่เกิน 1-2% ของเงินทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้ง

3. ตั้ง Stop Loss เสมอ
Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนในแต่ละการเทรด

วาง Stop Loss ในระดับที่สมเหตุสมผลและไม่ใกล้หรือไกลเกินไปจากจุดเปิดสถานะ

4. กระจายความเสี่ยง (Diversification)
อย่าลงทุนในคู่สกุลเงินเดียวทั้งหมด กระจายการลงทุนในคู่สกุลเงินต่าง ๆ เพื่อกระจายความเสี่ยง

5. ใช้การวิเคราะห์และแผนการเทรด
ยึดตามแผนการเทรดที่ชัดเจน (Trading Plan) ซึ่งรวมถึงจุดเข้า-ออกตลาด การตั้งเป้าหมายกำไร และการจัดการความเสี่ยง

ใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ

6. รักษาเงินทุนสำรอง (Margin Cushion)
อย่าใช้เงินทุนเต็มพอร์ต เปิดสถานะด้วยมาร์จิ้นต่ำเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกบังคับปิดสถานะ (Margin Call)

7. หลีกเลี่ยง Overtrading
การเปิดสถานะบ่อยครั้งเกินไปอาจทำให้คุณเสี่ยงต่อการขาดทุนสะสม

เลือกเทรดเฉพาะเมื่อมีโอกาสที่มีความเป็นไปได้สูง

8. ติดตามข่าวและเหตุการณ์สำคัญ
ข่าวเศรษฐกิจและการประกาศตัวเลขสำคัญ เช่น Non-Farm Payroll (NFP) หรือการปรับดอกเบี้ย อาจส่งผลกระทบต่อราคาสกุลเงินอย่างรุนแรง

หลีกเลี่ยงการเปิดสถานะขนาดใหญ่ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง

9. ฝึกควบคุมอารมณ์
อย่าให้ความโลภหรือความกลัวมาควบคุมการตัดสินใจ

ยึดมั่นในแผนการเทรดและมีวินัยในการจัดการพอร์ต

10. ตรวจสอบพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ
ตรวจสอบสถานะการลงทุนเพื่อให้แน่ใจว่าพอร์ตยังคงอยู่ในสภาพที่สมดุล

ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เมื่อจำเป็น เช่น หากตลาดมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลง

การปฏิบัติตามหลักการเหล่านี้จะช่วยลดโอกาสในการล้างพอร์ต Forex และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนในระยะยาว การเทรดอย่างมีวินัยและการบริหารความเสี่ยงเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในตลาด Forex
46
Forex / แจก Indy Free MT5
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 25/04/25 »
แจก Indy Free MT5

1.BOS-CHoCH

47
ความสำเร็จในการเทรด Forex: บันทึกแห่งความพยายามและแรงบันดาลใจ

ในโลกของการเทรด Forex ทุกคนเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ การทำกำไรวันละ 30-100 ดอลลาร์ อาจดูเหมือนเล็กน้อยเมื่อมองย้อนกลับไป แต่ในตอนนั้น มันคือจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝัน หลายคนอาจสงสัยว่า "จะมีวันไหนที่เราจะไปถึงจุดที่ทำกำไรวันละหมื่น หรือแม้แต่วันละแสนได้จริงหรือ?" สำหรับผู้ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและไปถึงจุดนั้นได้ ขอแสดงความยินดีด้วยอย่างแท้จริง คุณคือเครื่องยืนยันว่า ความพยายามและความอดทนจะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

กลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติจริง

1. วางแผนการเทรดอย่างเป็นระบบ

กำหนดเป้าหมายรายวันและรายเดือน: เป้าหมายที่ชัดเจนช่วยให้คุณโฟกัสและประเมินความก้าวหน้าได้

สร้างแผนการเทรด (Trading Plan): ระบุเงื่อนไขในการเข้า-ออกตลาด กำไรขาดทุนที่ยอมรับได้ และการจัดการความเสี่ยง

2. บันทึกและวิเคราะห์การเทรด

บันทึกการเทรดทุกครั้ง: จดรายละเอียด เช่น คู่สกุลเงิน ขนาดล็อต ราคาเข้า-ออก และผลลัพธ์

วิเคราะห์ผลลัพธ์: ตรวจสอบข้อผิดพลาดและปรับปรุงกลยุทธ์จากข้อมูลที่ผ่านมา

3. บริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ

ตั้งค่าความเสี่ยงที่ยอมรับได้: ไม่ควรเสี่ยงเกิน 1-2% ของพอร์ตในการเทรดแต่ละครั้ง

ใช้ Stop Loss และ Take Profit: ป้องกันความสูญเสียที่ไม่จำเป็นและล็อกกำไรเมื่อถึงเป้าหมาย

4. พัฒนาทักษะและจิตวิทยาในการเทรด

เรียนรู้ต่อเนื่อง: อ่านหนังสือ ดูวิดีโอ และเข้าร่วมชุมชนเทรดเดอร์เพื่อรับความรู้ใหม่

ฝึกสมาธิและควบคุมอารมณ์: การมีวินัยและความสงบนิ่งจะช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น

การรักษาความสำเร็จ: ห้ามประมาท

เมื่อคุณไปถึงจุดสูงสุดแล้ว การรักษาความสำเร็จนั้นสำคัญไม่แพ้กับการไปให้ถึง บางคนอาจคิดว่าเมื่อได้มาง่าย ก็อาจเสียไปง่ายเช่นกัน ดังนั้น การเรียนรู้จากอดีตและการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคตคือกุญแจสำคัญ อย่าลืมรีเซ็ตความคิด และเริ่มต้นใหม่ในทุกวัน การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณไม่เพียงแต่รักษาความสำเร็จได้ แต่ยังสร้างความมั่นคงในระยะยาวอีกด้วย

บทเรียนสำคัญจากการเทรด

ความสำเร็จมาจากความพยายาม – ไม่มีใครประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน ทุกอย่างต้องผ่านการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ความอึดและความเชื่อมั่น – อย่าล้มเลิกแม้ในวันที่ยากลำบาก การทำซ้ำสิ่งที่ดีและการปรับปรุงสิ่งที่ผิดพลาดคือหนทางสู่ความสำเร็จ

รักษาและพัฒนา – เมื่อคุณประสบความสำเร็จ อย่าหยุดพัฒนา ห้ามประมาท และจงเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

สุดท้าย

จงนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปปรับใช้ในเส้นทางการเทรดของคุณ เก็บความรู้สึกของความสำเร็จครั้งนี้ไว้ และใช้มันเป็นแรงผลักดันในอนาคต เชื่อมั่นในตัวเอง และอย่าลืมว่าความสำเร็จไม่ได้วัดจากตัวเลขในบัญชีเพียงอย่างเดียว แต่วัดจากการที่คุณได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเองและสร้างคุณค่าในสิ่งที่คุณทำ ขอให้ทุกคนเดินหน้าสู่ความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง!
48
ความสำเร็จในการเทรด Forex: บันทึกแห่งความพยายามและแรงบันดาลใจ

ในโลกของการเทรด Forex ทุกคนเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ การทำกำไรวันละ 30-100 ดอลลาร์ อาจดูเหมือนเล็กน้อยเมื่อมองย้อนกลับไป แต่ในตอนนั้น มันคือจุดเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยความหวังและความฝัน หลายคนอาจสงสัยว่า "จะมีวันไหนที่เราจะไปถึงจุดที่ทำกำไรวันละหมื่น หรือแม้แต่วันละแสนได้จริงหรือ?" สำหรับผู้ที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและไปถึงจุดนั้นได้ ขอแสดงความยินดีด้วยอย่างแท้จริง คุณคือเครื่องยืนยันว่า ความพยายามและความอดทนจะนำพาเราไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่

คุ้มไม่คุ้ม วัดกันที่หัวใจและความเชื่อมั่น

ในการเทรด ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าคุณจะประสบความสำเร็จ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง บางวันคุณอาจล้มเหลว แต่ความสำเร็จไม่ได้วัดกันที่วันนั้น ความสำเร็จวัดกันที่ความอึด ความเชื่อมั่น และการทุ่มเทอย่างเต็มที่ หากคุณยังคงมุ่งมั่น ไม่ย่อท้อ วันที่คุณรอคอยจะมาถึง และในวันนั้น คุณจะได้ลิ้มรสความสำเร็จที่คุณเพียรพยายามมานานหลายปี

การรักษาความสำเร็จ: ห้ามประมาท

เมื่อคุณไปถึงจุดสูงสุดแล้ว การรักษาความสำเร็จนั้นสำคัญไม่แพ้กับการไปให้ถึง บางคนอาจคิดว่าเมื่อได้มาง่าย ก็อาจเสียไปง่ายเช่นกัน ดังนั้น การเรียนรู้จากอดีตและการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับอนาคตคือกุญแจสำคัญ อย่าลืมรีเซ็ตความคิด และเริ่มต้นใหม่ในทุกวัน การพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณไม่เพียงแต่รักษาความสำเร็จได้ แต่ยังสร้างความมั่นคงในระยะยาวอีกด้วย

บทเรียนสำคัญจากการเทรด

ความสำเร็จมาจากความพยายาม – ไม่มีใครประสบความสำเร็จในชั่วข้ามคืน ทุกอย่างต้องผ่านการเรียนรู้และปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ความอึดและความเชื่อมั่น – อย่าล้มเลิกแม้ในวันที่ยากลำบาก การทำซ้ำสิ่งที่ดีและการปรับปรุงสิ่งที่ผิดพลาดคือหนทางสู่ความสำเร็จ

รักษาและพัฒนา – เมื่อคุณประสบความสำเร็จ อย่าหยุดพัฒนา ห้ามประมาท และจงเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ

สุดท้าย

เก็บความรู้สึกของความสำเร็จครั้งนี้ไว้ และใช้มันเป็นแรงผลักดันในอนาคต จงเชื่อมั่นในตัวเองและอย่าลืมว่าความสำเร็จไม่ได้วัดจากตัวเลขในบัญชีเพียงอย่างเดียว แต่วัดจากการที่คุณได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวเองและสร้างคุณค่าในสิ่งที่คุณทำ
49
กรณีเจอเหตุการแบบนี้

1. Liqudity zone บริเวณ H เดิม
ถ้าเทรดบ่อยๆจะรู้ว่าตรงไหนมีโอกาศที่จะเจอ หลีกเลี่ยงโดยการรอ sweep ก่อนแล้วค่อยเข้า Order
2. ย่อย TF เล็กมองหาสัญญานกลับตัวแล้วแต่เทคนิคของแต่ละคนว่าจะใช้อะไร
3. สำหรับเทรด BTC การตั้ง Limit order ควรตั้งที่ H หรือ L เดิมเลย
เพราะตลาดผันผวนมีโอกาศขึ้นมาถึง แต่ถ้ากลัวตกรถให้แบ่งได้
ไม้1 limit oder
ไม้2 รอสัญญาน confrime
ไม้3 ตั้งที่บริเวณเหนือ H เดิมเล็กน้อย
ถ้าRR 1:3 ยังไงก็จะ Recovery ไม้ทั้งหมดได้ถ้าโดน sl

SL เหนือสวิง ก่อนหน้า
และรอราคาสวิงก่อน
ถ้าเราเข้าตามรูปแบบเลย ด้วย pending order ต้องเผื่อ sweep ด้วย

1 .ช่วงข่าวแรงๆ ยืด SL ไปที่ไฮ เดิม
2. ถ้าไม่อยากsl กว้าง แบ่งเป็น2 ออเดอร์ ถ้าออเดอร์1 โดนSL ปกติ ออเดอร์2 ค่อยเข้าหลังจากที่กราฟวิ่งไปกินSL แล้วย้อนกลับลงมาปิดแท่งเทียน(tf m5,15) ค่อยเข้าอีกไม้
เลี่ยงการเจอ stop hunt มี 2 วิธีครับ
1. SL เผื่อไว้เยอะหน่อย แต่มีข้อเสียคือ stop ไกล
2. รอมัน sweep SL ไปแล้วค่อยเข้า ข้อเสียคือมีสิทธิ์ตกรถถ้ามันไปเลย ไม่ลงมากวาด SL

ถ้าโซนแบบนี้ปกติผมจะไปเข้าตรงแกร็บด้านบนที่ยังเก็บไม่หมดตรงที่ชี้สีแดงและจะวางSlเหนือจุดสีเขียวเพื่อป้องกัน Supply ใส้ที่มันยังไม่ถูกเก็บครับ

ทำไมเข้าตรงนั้นกราฟมันพึ่ง chochเอง ถ้าจะเข้า supply,orderblock ต้องมีbosยืนยันอีกอัน chochนี่อาจจะเป็นแค่ choch minerswing


50
Web Site / ลด เพิ่ม การแสดง ข่าว
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 04/04/25 »
ลด เพิ่ม การแสดง ข่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์

1ข่าวเด่น (Copy)
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7 ... 10