ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติศาลจังหวัดสงขลา  (อ่าน 36 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1041
  • คนดีไม่เบ่ง คนเก่งไม่โม้ คนใหญ่โตไม่อวด
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ประวัติศาลจังหวัดสงขลา
ศาลจังหวัดสงขลา เดิมมีฐานะเป็น “ศาลมณฑลนครศรีธรรมราช” ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระธรรมนูญศาลหัวเมือง ร.ศ. 116 (พ.ศ. 2439) เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการปกครองเทศาภิบาลในขณะนั้น โดยแบ่งศาลยุติธรรมในหัวเมืองออกเป็น 3 ระดับ คือ ศาลมณฑล ศาลเมือง และศาลแขวง

มณฑลนครศรีธรรมราชมีศาลาว่าการตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา จึงได้จัดตั้งศาลมณฑล ณ จังหวัดสงขลา และเริ่มเปิดทำการเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ร.ศ. 116 โดยมี พระยาพิทักษ์เทพธานี ดำรงตำแหน่งอธิบดีผู้พิพากษาคนแรก ใช้สถานที่ทำการร่วมกับที่ว่าการมณฑลในจวนเมืองเก่า ซึ่งเป็นอาคารแบบจีน (ปัจจุบันเป็นที่ทำการโทรศัพท์กลางและร้านค้า)

ต่อมา มีการปรับปรุงระบบศาลให้เหมาะสมกับรูปแบบการปกครอง และได้ยกเลิกอำนาจศาลมณฑลในการพิจารณาคดีอุทธรณ์ โดยให้ส่งต่อศาลอุทธรณ์ที่กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งมีประกาศกระทรวงมหาดไทยใน พ.ศ. 2459 ให้เปลี่ยนคำว่า "เมือง" เป็น "จังหวัด" และเปลี่ยนชื่อศาลเมืองเป็น “ศาลจังหวัด” โดยยังคงอำนาจหน้าที่เดิมทุกประการ

ใน พ.ศ. 2473 ได้มีการแก้ไขพระธรรมนูญศาลยุติธรรมให้ศาลจังหวัดต้องมีผู้พิพากษาสองคนขึ้นไปในการพิจารณาพิพากษาคดี และเมื่อมีการยุบเลิกมณฑลใน พ.ศ. 2476 ศาลมณฑลนครศรีธรรมราชจึงเปลี่ยนสถานะเป็น “ศาลจังหวัดสงขลา” โดยคงอำนาจหน้าที่เช่นเดิม

ต่อมา ที่ทำการเดิมของศาลอยู่ติดกับเรือนจำสงขลาและชำรุดทรุดโทรม ไม่สามารถขยายได้ จึงมีการดำเนินการย้ายที่ทำการใหม่ โดย หลวงจำรูญเนติศาสตร์ ข้าหลวงยุติธรรมภาคใต้ ได้เลือกที่ดินทางทิศตะวันออกของวัดสระเกษ เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เป็นสถานที่ก่อสร้างอาคารศาลแห่งใหม่ เริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน พ.ศ. 2480 แล้วเสร็จวันที่ 21 พฤษภาคม 2484 และทำพิธีเปิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2484 โดย พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ ประธานศาลฎีกาในขณะนั้น
(ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9)

อาคารหลังดังกล่าวเคยเป็นสถานที่ราชการขนาดใหญ่ที่โดดเด่นในจังหวัดสงขลาและภาคใต้ แต่เมื่อมีคดีความเพิ่มขึ้น จึงถูกแบ่งใช้เป็นที่ทำการของศาลแขวงสงขลา และสำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 9 ส่งผลให้เกิดความคับแคบในการปฏิบัติราชการ

ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2528 กระทรวงยุติธรรมได้จัดสรรงบประมาณจำนวน 57,363,700 บาท เพื่อก่อสร้างอาคารศาลจังหวัดสงขลาหลังใหม่ โดยมี นายเธียร เจริญวัฒนา ปลัดกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามในสัญญาก่อสร้าง เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2528 โดยบริษัทผู้รับจ้างคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลป์การช่าง

อาคารใหม่ประกอบด้วยห้องพิจารณาคดี 20 บัลลังก์ บ้านพักผู้พิพากษาหัวหน้าศาล บ้านพักผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น โรงอาหาร ลานจอดรถ และระบบระบายน้ำ โดยกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 6 ธันวาคม 2530

ต่อมา พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2529 และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว) เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดอาคารศาลจังหวัดสงขลาอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2530

ศาลจังหวัดสงขลาแห่งใหม่นี้เริ่มเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2531 จนถึงปัจจุบัน


admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1041
  • คนดีไม่เบ่ง คนเก่งไม่โม้ คนใหญ่โตไม่อวด
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ศาลจังหวัดสงขลา เดิมมีฐานะเป็น “ศาลมณฑลนครศรีธรรมราช” จัดตั้งขึ้นตามพระธรรมนูญศาลหัวเมือง ร.ศ. 116 (พ.ศ. 2439) เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการปกครองแบบเทศาภิบาลในขณะนั้น โดยแบ่งศาลยุติธรรมในหัวเมืองออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่ ศาลมณฑล ศาลเมือง และศาลแขวง

มณฑลนครศรีธรรมราชมีศาลาว่าการตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา จึงได้จัดตั้งศาลมณฑล ณ จังหวัดสงขลา เปิดทำการเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ร.ศ. 116 โดยมีพระยาพิทักษ์เทพธานีเป็นอธิบดีผู้พิพากษาคนแรก ใช้สถานที่ร่วมกับที่ว่าการมณฑลในจวนเมืองเก่า ซึ่งเป็นอาคารแบบจีน (ปัจจุบันเป็นที่ทำการโทรศัพท์กลางและร้านค้า)

ต่อมา มีการปรับปรุงระบบศาลให้เหมาะสมกับการปกครองแบบใหม่ โดยยกเลิกอำนาจของศาลมณฑลในการพิจารณาคดีอุทธรณ์ และให้ส่งคำอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ที่กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งมีประกาศกระทรวงมหาดไทยใน พ.ศ. 2459 ให้เปลี่ยนคำว่า "เมือง" เป็น "จังหวัด" และเปลี่ยนชื่อ “ศาลเมือง” เป็น “ศาลจังหวัด” โดยยังคงอำนาจหน้าที่เช่นเดิม

ใน พ.ศ. 2473 มีการแก้ไขพระธรรมนูญศาลยุติธรรม ให้ศาลจังหวัดต้องมีผู้พิพากษาอย่างน้อยสองคนในการพิจารณาคดี และภายหลังการยุบเลิกมณฑลใน พ.ศ. 2476 ศาลมณฑลนครศรีธรรมราชจึงเปลี่ยนสถานะเป็น “ศาลจังหวัดสงขลา” โดยยังมีอำนาจหน้าที่เช่นเดิม

ที่ทำการเดิมของศาลอยู่ติดกับเรือนจำสงขลาและไม่สามารถขยายได้ จึงมีการย้ายสถานที่ตั้งใหม่ โดยหลวงจำรูญเนติศาสตร์ ข้าหลวงยุติธรรมภาคใต้ ได้เลือกที่ดินทางทิศตะวันออกของวัดสระเกษ เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ เพื่อก่อสร้างอาคารใหม่ เริ่มก่อสร้างในเดือนเมษายน พ.ศ. 2480 แล้วเสร็จในวันที่ 21 พฤษภาคม 2484 และเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2484 โดยพระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ ประธานศาลฎีกาในขณะนั้น
(ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 9)

ต่อมา เมื่อมีคดีความเพิ่มขึ้น อาคารศาลจึงถูกแบ่งใช้เป็นที่ทำการของศาลแขวงสงขลา และสำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 9 ทำให้ไม่สะดวกในการปฏิบัติงาน กระทรวงยุติธรรมจึงจัดสรรงบประมาณจำนวน 57,363,700 บาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2528 เพื่อก่อสร้างอาคารศาลจังหวัดสงขลาหลังใหม่

นายเธียร เจริญวัฒนา ปลัดกระทรวงยุติธรรมในขณะนั้น ได้ลงนามในสัญญาว่าจ้าง ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศิลป์การช่าง เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2528 เพื่อดำเนินการก่อสร้างอาคารขนาด 20 บัลลังก์ พร้อมบ้านพักผู้พิพากษา เจ้าหน้าที่ โรงอาหาร ลานจอดรถ และระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ มีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 6 ธันวาคม 2530

พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2529 และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร (ปัจจุบันคือพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว) เสด็จพระราชดำเนินมาเปิดอาคารศาลอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2530

อาคารศาลจังหวัดสงขลาหลังใหม่นี้เริ่มเปิดทำการตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2531 จนถึงปัจจุบัน