เท่าที่ผมมี และบันทึกเป็นข้อมูลเก็บไว้เพื่อศึกษา นานหลายปีแล้ว ก็จะเป็นดังนี้ครับ
*** การกำจัด Service ที่เกินความจำเป็น จะช่วยทำให้ระบบมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่คุณจะปิด Service ใดๆ โปรดอ่านรายละเอียดของแต่ละ Service ให้ถี่ถ้วนก่อนดังต่อไปนี้ครับ ***
Alerter ทำหน้าที่ในการแสดงคำเตือนของผู้ดูแลระบบ หากคุณเป็นผู้ดูแลระบบของเครื่องคุณเอง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้งาน Service ตัวนี้
Application Management เป็นส่วนที่มีหน้าที่อนุญาตให้โปรแกรมที่ติดตั้งใหม่เข้าไปในหน้าต่าง Add/Remove Programs ซึ่งถ้าคุณเป็นมืออาชีพ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วยตัวนี้ เนื่องจากเราสามารถถอนการติดตั้งโปรแกรมต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง หรือด้วยตัวโปรแกรมเอง
Background Intelligent Transfer Service ทำหน้าที่โอนไฟล์ระหว่าง Server มายังเครื่องของเรา ผ่านทางอินเตอร์เน็ต อย่างเช่นการอัพเดตแบบ Auto Update ของ วินโดวส์ หรือ MacAfee Antivirus โดยใช้ Bandwidth ในส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน ขอแนะนำว่าถ้าคุณยังใช้การอัพเดตแบบอัตโนมัติอยู่ ก็ไม่ควรปิด Service ตัวนี้.
Clipbook เป็นส่วนที่ยินยอมให้คุณใช้งานในการตัด คัดลอก หรือ แปะภาพจากคลิปบอร์ด ผ่านทาง Network. หากเครื่องของคุณไม่ได้เชื่อมต่อเครือข่าย คุณสามารถปิด Service นี้ได้
Computer Browser ทำหน้าที่จัดการแสดงรายการเครื่องคอมพิวเตอร์ในเครือข่าย (Network Neighborhood) หากเครื่องของคุณไม่ได้เชื่อมต่อเครือข่าย คุณจะมีมันไว้ทำไม
Error Reporting Service เป็น Service ที่ทำหน้าที่ในการส่งข้อความ แสดงค่าความผิดพลาดของ protocol Event ในระบบเครือข่าย ไปให้ Microsoft แต่เราจะส่งไปให้ทำไม ปิด Service นี้เสียเถอะเพราะมันไม่จำเป็นต้องใช้. ในความเห็นส่วนตัวผม ผมว่ามันสร้างความรำคราญให้เรามากกว่า
Fast User Switching Windows XP มีคุณสมบัติอยู่อย่างหนึ่ง ก็คือการยินยอมให้มีการ สลับผู้ใช้งาน โดยไม่ต้อง Logoff แต่ถ้าคุณเป็นผู้ใช้งานคนเดียว (คุณเป็นเจ้าของเครื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว) ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Service ตัวนี้.
Help and Support เคยไหม เวลามีปัญหา เช่นติดตั้งอุปกรณ์บางตัวไม่ได้ มันจะขึ้น Help มาให้เราอ่าน เช่น Trouble Shooting Problem มันขึ้นมาเต็มหน้าจอเลย แต่เป็นภาษาอังกฤษเต็มทั้งหน้า สำหรับผมแล้วไม่ชอบเลยสำหรับเจ้าบริการตัวนี้ เนื่องจาก Help เป็นภาษาอังกฤษ และที่ซ้ำร้ายมันไม่เคยช่วยแก้ปัญหาให้ผมได้เลย ปิดเสียดีกว่า.
IMAPI CD-Burning COM Service หากคุณใช้โปรแกรม เขียนแผ่น CD ตัวอื่นๆ เช่น Nero ,Alcohol 120% ,Clone CD ฯลฯ ที่ไม่ใช่โปรแกรมที่ติดมากับ Windows XP ก็ปิดการทำงานตัวนี้ได้ และยิ่งคุณไม่มี CD-RW หรือ DVD RW ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Service ตัวนี้ .
Indexing Service Service ตัวนี้จะสร้างดรรชนี (Index) สาหรับไฟล์เอกสารที่อยู่ในเครื่องเอาไว้ เพื่อทำการค้นหาเอกสารต่างๆ เป็นไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำการค้นหาไฟล์เอกสารบ่อยๆแนะนำให้ปิดการทำงานของ Service นี้
IP SEC ใช้ในการควบคุมและจัดการ IP (IP security policy and starts the ISAKMP/Oakley (IKE) และ IP security driver).ซึ่งจาเป็นต้องใช้เมื่อคุณต้องการสร้าง Coded Connection กับระบบเครือข่าย
Messenger ทำหน้าที่เป็นตัวส่งข่าวสาร หรือระบบข้อความ ในระบบเครือข่าย โดยจะแสดงตัวเป็นหน้าต่างป็อปอัพ ปรากฏขึ้นมา บนหน้าจอ ซึ่งบริษัทโฆษณานิยมใช้ Service นี้ เพื่อส่งโฆษณามาให้คุณ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณไม่อยากรับโฆษณา ปิด Service นี้เถอะครับ
Net Logon ถ้าเครื่องของคุณอยู่บนระบบ LAN หรืออยู่ในองค์กรที่ใช้ระบบเครือข่าย Service ตัวนี้จะทำหน้าที่ในการจัดการ การ Login เข้าระบบเครือข่าย ดังนั้นอย่าปิด Service นี้ถ้าคุณอยู่บน LAN แต่ถ้าเครื่องของคุณเป็นเครื่องที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับ LAN (เป็นเครื่องที่บ้านก็ได้นะ) ก็ควรปิด Service ตัวนี้
Network DDE ทาหน้าที่ในการจัดการเกี่ยวกับส่งผ่านข้อมูลและระบบความปลอดภัยของเครือข่าย สำหรับ Dynamic Data Exchange (DDE) ทั้งที่เป็นเครื่องเดียวกัน หรือต่างเครื่อง หากคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย ก็สามารถปิดการทำงาน Service นี้ได้.
Performance Logs and Alerts เป็นตัวที่ใช้ในการเก็บรวมรวมข้อมูลของเครื่อง ในเรื่องประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องและระบบ โดยมันจะเก็บเป็น Log file หากคุณไม่ใช้ หรือคุณดู Log file ไม่เป็น ก็สามารถปิด Service นี้ได้
Portable Media Serial Number Service ตัวนี้มีหน้าที่ในการค้นหา Serial number ของอุปกรณ์ ต่างๆเช่นเครื่องเล่น MP3 ที่ถูกนำมาต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ผู้ที่ไม่มีอุปกรณีดังกล่าวสามารถปิดการทำงาน Service นี้ได้
QOS RSVP ทำหน้าที่ในการจัดการการควบคุมเครื่อง (Manages and controls Remote Assistance) คือให้ผู้อื่นสามารถมาควบคุมเครื่องของเรา หรือ เห็นหน้าจอเครื่องของเราได้ หากคุณไม่ต้องใช้บริการนี้ ควรปิดเสียนะครับ เพราะ Service นี้ Hacker ชอบนักละ
Remote Registry ยินยอมให้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นในระบบเครือข่ายสามารถเข้ามาแก้ไขค่า registry เครื่องของเราได้ ถ้าคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย หรือไม่ต้องการให้ใครเข้ายุ่มย่ามกับเครื่องของคุณ ก็ควรปิด Service นี้นะครับ
Server หากคุณไม่ได้เชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย หรือ ไม่ได้ใช้การพิมพ์ หรือ แชร์ไฟล์ผ่านทางเครือข่าย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้
Smart Card หากคุณไม่ได้ใช้ Smart Card (น้อยคนนักที่จะใช้) ก็ปิดบริการนี้นะครับ มันเกินความจำเป็น
Smart Card Helper หากคุณไม่ได้ใช้ Smart Card ก็ปิดบริการนี้นะครับ มันเกินความจำเป็น
SSDP Discovery Service สำหรับเมืองไทยเทคโนโลยี UPnP ยังไม่รุ่งนะครับ แต่ในต่างประเทศมีใช้กันแล้ว และเมืองไทยยังใช้ไฟแบบ 220 Volt อยู่ ซึ่งอุปกรณ์ ต่างๆยังไม่สนับสนุน สำหรับใครที่อยู่เมืองไทย ผมว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้ Service ตัวนี้ในตอนนี้นะครับ
TCP/IP NetBIOS Helper ใช้บนระบบเครือข่ายเท่านั้น หากคุณไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบเครือข่าย คุณใช้คอมพิวเตอร์ แบบ Stand Alone ไม่มี LAN Card, Wireless LAN ก็ปิดเสียเถอะครับ
Telnet ถ้าคุณไม่เคยใช้คำสั่ง Telnet หรือใช้ Telnet ไม่เป็น ก็ไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะเปิด Service ตัวนี้ เพราะเดี่ยวนี้ คำสั่ง Telnet (การเข้าไปใช้บริการของเครื่องอื่นแบบระยะไกล) มันแทบไม่ได้ใช้แล้ว ยกเว้นเซียนอินเตอร์เน็ต สำหรับผมถ้าจะใช้ก็ใช้ในการ Hack Server เครื่องอื่นแหละ ยอดนิยมเลยไอ้เจ้า Telnet นี่
Uninterruptible Power Supply Service ถ้าร้อยวันพันปี คุณไม่ได้เข้าไปใช้โปรแกรมในการควบคุมเปิดปิดอุปกรณ์สำรองไฟ หรือที่เราเรียกว่า ยูพีเอส Uninterruptible Power Supply (UPS) ก็ปิด Service ตัวนี้ได้เลย
Upload Manager ทำหน้าที่อัพโหลดไฟล์ขึ้นไปบนเครื่อง server บนระบบเครือข่าย.
Wireless Zero Configuration ทำหน้าที่เป็นตัวกำหนดเงื่อนไขสำหรับการปรับแต่งค่าของ Wireless LAN Adapter (802.11 adapters) แบบอัตโนมัติ ผู้ที่ไม่ได้ติดตั้ง เครือข่ายไร้สายสามรถปิด Service ตัวนี้ได้
Windows Time ใช้ในการเทียบเวลาในระบบเครือข่าย ถ้าไม่ติดต่อกับระบบเครือข่าย ก็ไม่จำเป็นต้องใช้
ปล. หากไม่มีความจำเป็น เราก็ไม่ควรที่จะไปยุ่งกับมันก็ได้ครับ เพราะระบบวินโดว์สได้ตั้งค่ามาตรฐานเอาไว้แบบนั้นครับ
ใน 47 ตัวเลือกที่ถามมา ส่วนตัวผมปิดแค่ 2 ตัวเลือกเองครับ
35.Task Scheduler
44.Windows Firewall (ตัวนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าท่านมีซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัสที่ทำงานแทนได้หรือไม่ ถ้าหากไม่มีหรือมีแต่ทำงานไม่ดีพอ แนะนำว่าไม่ควรปิด)
แต่ถ้าใช้วินโดวส์ไม่แท้ ก็จะปิด Automatic Update หรือ Windows Update ไปด้วย (แม้ใช้วินโดวส์แท้ก็ปิด เพราะรำคาญมันอัพเดตนาน)
รวมทั้ง System Restore หากท่านไม่ต้องการย้อนคืนข้อมูลหากระบบเจ๊ง (อยากลงใหม่อย่างเดียว) ก็ปิดไปก็ได้
นอกนั้นไม่กล้ายุ่ง แต่หากรู้การทำงานของแต่ละตัว รวมทั้งเราไม่ได้ยุ่งกับแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องก็ปิดไปก็ได้