ผู้เขียน หัวข้อ: 10 อันดับ หนังซอมบี้ที่ดีที่สุด  (อ่าน 759 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2590
  • คนดีไม่เบ่ง คนเก่งไม่โม้ คนใหญ่โตไม่อวด
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
10 อันดับ หนังซอมบี้ที่ดีที่สุด
 ‘ผีดิบซอมบี้’ เป็นหนึ่งในของหากินในโลกภาพยนตร์ (โดยเฉพาะฮอลลีวูด) และเราก็ไม่เคยเบื่อการดูฉากผู้คนวิ่งหนีซอมบี้ เราจัดอันดับหนังซอมบี้ 10 เรื่องที่ทำออกมาได้ดีและคุณต้องดู!
10. Dawn of the Dead (2004)
มีไม่กี่ครั้งที่การรีเมคหนังคลาสสิกจะรอด แต่คราวนี้แซค ชไนเดอร์ ทำออกมารอด! และทำให้การประเดิมนั่งเก้าอี้ผู้กำกับของเขาครั้งนั้นเป็นการแจ้งเกิดในฮอลลีวูด หนังยังคงใช้ห้างสรรพสินค้าเป็นฐานทัพหลบฝูงซอมบี้บุกเมืองคล้ายกับภาคต้นฉบับของจอร์จ เอ. โรเมโร เพียงแต่เน้นฉากแอ็คชั่นมากขึ้นและมีความกระชับฉับไวกว่าเดิม แม้บทหนังจะไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ แต่ก็ถือว่าเป็นหนังซอมบี้ที่ดูสนุกเรื่องหนึ่ง
 9. Dead Alive (1992)
หนังเรื่องนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า Braindead ผลงานกำกับของปีเตอร์ แจ๊คสัน สมัยยังไม่ดัง เล่าเรื่องของคุณแม่วัยกลางคนที่โดนหนูสายพันธุ์ประหลาดกัดเข้า จากนั้นไม่นานเธอก็ล้มป่วย ตาย และกลับฟื้นขึ้นมากัดกินคน (และสุนัข) หนังมีความตลกร้ายกาจและรุนแรงจนโอเวอร์แบบหนังคัลต์ แต่นั่นคือความตั้งใจทำให้เกิดความฮา ที่ร้ายกว่าคือเมื่อตอนออกฉายหนังไม่ค่อยได้รับความสนใจนัก แต่พอแจ๊คสันดังจาก The Lord of the Rings ผู้คนและนักวิจารณ์ก็พากันกลับไปขุดหนังเรื่องนี้มาสรรเสริญเยินยอกันยกใหญ่
 8. Planet Terror (2007)
โปรเจ็กต์ปล่อยของของผู้กำกับ โรเบิร์ต รอดริเกซ ที่คุมงานโดยเฮียเควนติน ทาแรนติโน อีกที (ในอเมริกาฉายเรื่องนี้ควบกับ Death Proof ที่ทาแรนติโนกำกับ) พูดถึงเมืองแห่งหนึ่งที่เชื้อโรคร้ายกำลังระบาดและทำให้ทุกคนเป็นซอมบี้ สาวนักเต้นระบำเปลื้องผ้าพิการที่สูญเสียขาข้างหนึ่งจากการจู่โจมของซอมบี้ ได้ใส่ขาเทียมเป็นปืนกล (นี่คือที่มาของชื่อไทยสุดคลาสสิกว่า ‘โคโยตี้ แข้งปืนกล’) และร่วมมือกับแฟนหนุ่มในการล้างแค้นเหล่าซอมบี้อย่างดุเด็ดเผ็ดมัน อย่าลืมว่านี่คือไซต์โปรเจ็กต์ของรอดริเกซและทาแรนติโนที่ทำเพื่อแก้คัน หนังเลยตั้งใจให้ออกมาดูเป็นหนังกระบะเกรดบีที่เละเทะสะเปะสะปะ แต่ดูแล้ว “เฮ้ย แม่มสนุกชิ-หาย”
 7. World War Z (2013)
ผู้กำกับมาร์ค ฟอร์สเตอร์ เปลี่ยนซอมบี้ที่เดินเชื่องช้าให้มีความว่องไวขึ้น และนั่นทำให้หนังแอ็คชั่นซอมบี้ปนโลกแตกเรื่องนี้สนุกสุดเหวี่ยง แบรต พิตต์ รับบทเป็นนักข่าวที่ต้องสืบหาว่าเหตุการณ์ซอมบี้ครองโลกเกิดจากสาเหตุใดและทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ไปโดยปริยายตามสไตล์ฮอลลีวูด แม้จะดูเป็นหนังบันเทิงทำเงินทั่วไป แต่หนังก็มีฉากจำอยู่หลายฉากอย่างฝูงซอมบี้ต่อตัวปีนกำแพง หรือซอมบี้บุกเครื่องบิน แว่วมาว่ากำลังมีแผนจะสร้างภาคต่อ
 6. Zombieland (2009)
งานกำกับชิ้นแรกของรูบิน เฟลสเชอร์ ที่ทำเงินเกินร้อยล้านเหรียญ หนังตลกซอมบี้เรื่องนี้ได้เจสซี ไอเซนเบิร์ก มาประกบกับเอ็มมา สโตน เล่าเรื่องการเดินทางของเด็กเนิร์ดมหาลัยสี่คนที่พากันหนีเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ที่กำลังกระจายตัวไปทั่วอเมริกา หนังเน้นความฮาด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ล้อเลียนหนังซอมบี้ อย่างเช่นการขับรถไปฮอลลีวูดเพื่ออยากเจอดาราที่กลายเป็นซอมบี้! ตอนนี้มีการประกาศสร้างภาคสองเรียบร้อยแล้วโดยผู้กำกับคนเดิม
 
5. Train to Busan (2016)
หนังซอมบี้สัญชาติเกาหลีใต้ที่กำลังเข้าฉาย และเคยเรียกเสียงปรบมือได้ยาวนานถึง 10 นาทีจากการฉายรอบปฐมทัศน์ที่เมืองคานส์ เหตุการณ์กว่าครึ่งเรื่องเกิดขึ้นบนรถไฟขบวนหนึ่งที่กำลังเดินทางไปยังปูซาน ซึ่งดันเป็นช่วงเช้าในวันที่เกิดเหตุการณ์ซอมบี้คลั่งระบาดเมืองพอดี และเกิดมีซอมบี้ตัวหนึ่งหลงขึ้นมาบนรถไฟ จากนั้นก็ไล่กัดและแพร่พันธุ์กันไปเกือบทั้งโบกี้ ผู้รอดชีวิตกลุ่มหนึ่งจึงต้องช่วยหาทางเอาชีวิตรอด ด้วยความที่ผู้กำกับ Yeon Sang-Ho ถนัดทำหนังแอนิเมชั่น (นี่คือหนังคนแสดงเรื่องแรกของเขา) หนังจึงเดินเรื่องอย่างรวดเร็วและมีอารมณ์ของความเป็นการ์ตูนอยู่สูง ประกอบกับการสร้างตัวละครที่หลากหลายภายใต้พื้นที่อันจำกัด ทำให้หนังดูสนุกและลุ้นระทึกตลอดทั้งเรื่อง ยังไม่พูดถึงการสอดแทรกอารมณ์ดราม่าตามสไตล์เกาหลี
 4. 28 Days Later (2002)
เมื่อผู้กำกับโคตรเท่ แดนนี่ บอยล์ (Trainspotting, The Beach และ Slumdog Millionaire ในเวลาต่อมา) จับมือกับมือเขียนบทคู่ใจ อเล็กซ์ การ์แลนด์ ร่วมกันทำหนังซอมบี้ออกมาในสไตล์อังกฤษ พูดถึงจิม (ซิลเลียน เมอร์ฟีย์) หนุ่มส่งเอกสารที่ฟื้นจากอาการโคม่าในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในลอนดอน และพบว่าเขาเป็นหนึ่งในผู้รอดชีวิตไม่กี่คนจากการติดเชื้อซอมบี้ที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศและทั่วโลก หนังเดินหน้าเข้าสู่ความกดดันสุดๆ ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย พร้อมแสดงให้เห็นว่าความชั่วร้ายจริงๆ ไม่ได้มาจากซอมบี้ แต่มาจากมนุษย์ด้วยกันเอง
3. Shaun of the Dead (2004)
นี่คือหนังซอมบี้สัญชาติอังกฤษที่ฮาที่สุดก็ว่าได้ ผลงานสร้างชื่อของเอ็ดการ์ ไรท์ ที่ทั้งกำกับ เขียนบท แถมเล่นเป็นตัวประกอบอีกต่างหาก โดยได้ไซมอน เพ็กก์ มารับบทนำ (และร่วมเขียนบท) เป็นหนุ่มชื่อชอว์นที่ร่วมมือกับเพื่อนร่วมห้องออกตะลุยฝูงซอมบี้บุกเมืองเพื่อโชว์แมนไปช่วยแฟนสาว โดยมีอาวุธอย่างไม้คริกเก็ต พลั่ว หรือกระทั่งแผ่นเสียง! นี่คือการยำมุกล้อเลียนหนังตระกูลซอมบี้ได้ฮาและเจ็บแสบสุดๆ (โดยเฉพาะ Dawn of the Dead ที่โดนตั้งแต่ชื่อเรื่อง)
 2. Dawn of the Dead (1978)
งานต่อยอดของจอร์จ เอ. โรเมโร หลังจากโด่งดังจาก Night of the Living Dead โดยคราวนี้เปลี่ยนมาเป็นหนังสี มีโปรดักชั่นที่ทันสมัยและใหญ่กว่าเดิม เล่าเหตุการณ์ซอมบี้บุกเข้ามาในเมืองกรุงและผู้รอดชีวิตมารวมตัวกันต่อสู้ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ถึงกระนั้นหนังก็ยังใช้ทุนสร้างแค่ 1.5 ล้านเหรียญ แต่โกยเงินมากถึง 55 ล้านเหรียญ และขึ้นหิ้งหนึ่งในหนังคลาสสิกตลอดกาลไม่ว่าจะอยู่ในหมวดหนังสยองขวัญหรือไม่ก็ตาม
 1. Night of the Living Dead (1968)
แม้จะไม่ใช่หนังซอมบี้เรื่องแรกของโลก แต่นี่คือหนังซอมบี้ต้นตำรับของจริงโดยผู้กำกับ (ต้นตำรับอีกเช่นกัน) จอร์จ เอ. โรเมโร ที่ใช้เงินลงทุนเพียง 1.4 แสนเหรียญ แต่ทำรายได้ถล่มทลายเป็นปรากฏการณ์ถึง 30 ล้านเหรียญทั่วโลก และกลายเป็นหนึ่งในหนังสยองขวัญคลาสสิกจนถึงตอนนี้ หนังขาวดำเรื่องนี้ไม่พิรี้พิไร สร้างความระทึกขวัญตั้งแต่ฉากเปิดเรื่อง เมื่อหญิงสาวคนหนึ่งต้องวิ่งหนีซอมบี้เข้ามาหลบในบ้านหลังหนึ่งซึ่งกลายเป็นที่หลบภัยของคนหลายคน ก่อนจะนำไปสู่การต่อสู้กับฝูงซอมบี้ที่มาบุกบ้านและต่อด้วยการประจันหน้ากันในตอนท้าย