ตอนที่ 4 จากเจ้าหน้าที่การตลาดไปเป็น Prop Trade ก้าวกระโดดที่เปลี่ยนชีวิตอีกรอบ
ตอนที่ 3 ผมบอกแล้วว่า ตอนนั้นผมเป็นเจ้าที่การตลาด มีหน้าที่หาลูกค้า ลูกค้านั้นหาไม่ยาก ทุก ๆ คนคือลูกค้าครับ เพียงแต่ว่าเราจะเลือกเจาะคนกลุ่มไหน คนรวย คนทำงานอะไร ผมได้ข้อมูลมาจากหลาย ๆ ต่อ ซื้อมาบ้าง มีการขายข้อมูลลูกค้าลูกค้ากันอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ ทำไม มีคนโทรมาหาเราโดยที่เรากลับมานั่งคิดว่า ( ฉันไม่เคยให้เบอร์ใครนะ ) ด้วยความที่โปรกที่ผมทำมันเป็นโปรกเถื่อน ลักษณะก็คล้าย ๆ เป็นโต๊ะบอลรับกินเอง เพราะระบบต่าง ๆ มันอ่อนเกินไป 555 หน้าเว็ปบ้าน ๆ มีการโอนเงินที่ง่ายเหลือเกิน เปิดบัญชีก็ง่าย แต่ทุกอย่างต้องไปทำผ่านเว็ปที่เปิดในต่างประเทศ จดทะเบียนโน้นนนน เกาะบรีติช เวอร์จิ้น ( แล้วกุจะเอาผิดกับใครวะ ) แต่เรื่องนั้นผมไม่ซีเรียสนะ เพราะว่าผมมาเอาความรู้จริง ๆ ว่าตลาดแต่ละตลาดมันลงทุนอย่างไง ความเสี่ยงมาน้อยเพียงใด ผมทำงานเป็นเจ้าหน้าที่การตลาดได้ 6 เดือนพอดี ไม่มีลูกค้าติดมือสักคน ได้แต่เงินเดือน ค่าคอมก็ไม่ได้ 555 (หนักกว่าตอนกูทำวิศวอีก ) แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือ
1. ความรู้ด้านตลาดทองคำ ที่คนเราเข้าใจว่าทองคำมันมีแค่ซื้อทองหน้าร้านนะ ซื้อมาขายไป แต่จริง ๆ การลงทุนในทองคำมีความหลากหลายมาก ทั้ง Gold Online , CFD , Gold Future , ออฟชั่น , Forex , ETF ....แล้วก็อีกหลาย ๆ อย่าง แค่ทองตัวเดียวนะในโลกของการลงทุนจริง ๆ มันมีความหลากหลายมาก อยู่ที่้ว่าเราจะตั้งใจศึกษามันมากน้อยเพียงใด
2. การเรียนรู้เรื่อง กราฟ ข่าวสารต่าง ๆ ในการที่เราจะเทรดหุ้น หรือ อะไรก็ตามแต่ กราฟ ถือเป็นข้อมูลที่ง่ายที่สุดที่เอามาวิเคราะห์ว่า เราจะซื้อ ( Buy or Long ) หรือเราจะขาย ( Sell or short ) แต่เราก็ต้องมีข้อมูลข่าวสารมาประกอบด้วย เพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุด
3. จิตวิทยาการลงทุน เพราะว่าถ้าทุกคนคิดเหมือนกัน คงรวยและจนไปพร้อม ๆ กัน ในตลาดจะมีคนคิดอยู่ ไม่กี่แบบ ฉันจะซื้อ หรือฉันจะขาย หรือฉันอยู่เฉย ๆ ดีกว่า จิตวิทยาการลงทุนเนี่ยผมค่อนข้างให้ความสำคัญมาก เพราะว่ายิ่งฝึก ยิ่งขยันคิด ขยันเก็บข้อมูล เราจะอยู่ในตลาดได้อย่างยาวนาน คล้ายๆ กับคำว่า รู้เขารู้เราเทรด 100 ครั้ง กำไร 100 ครั้ง ( มันมีจริง ๆ ไหมเนี่ย )
สิ่งที่กล่าวมาคือสิ่งที่ได้จากที่นี่ล้วนๆ เลย ยกเว้นเงินนะ ที่ไม่ค่อยได้ตาม 5555 แต่เรื่องพวกนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่นะ
หลังจาก 6 เดือนผมตัดสินใจลาออกทันที เพราะว่าผมได้งานที่ใหม่ เป็นเจ้าหน้าที่การตลาดเหมือนเดิม แต่เป็นการทำงานโปรกทอง อันดับต้น ๆ ของประเทศ ด้วยความที่ได้ความรู้มาจากที่นี่พอสมควร ตอนสัมภาษณ์งาน เจ้าของบริษัทถามอะไรผมตอบได้เกือบหมด ( ตอบไม่ได้ก็แปลกแหละ ) ณ จุดนี้ต้องขอบคุณที่ทำงานเก่า ที่สอนอะไรมาเยอะมาก แล้วผมก็ย้ายเข้ามาสู่อ้อมกอดของ บริษัทใหม่ ในฐานะเจ้าหน้าที่การตลาด ได้เพียง 1 เดือน ก็มีแมวมองมาส่อง 555 ลากไปเทรดเป็น Trader นั้นแหละจุดเปลี่ยนของผม มาเล่าในตอนที่ 5 นะครับ
เดี๋ยวตอนที่ 5 เราจะวิเคราะห์ราคาทองคำในปีนี้กันครับ ว่าควรจะเข้าซื้อเมื่อไร หรือควรจะขายทิ้งเมื่อไร ( บางทีคนเราไม่ต้องการวิธีการหรอกครับแต่อยากได้ผลลัพธ์เลย อย่างเช่นบอกฉันมาเลยจะซื้อหรือขายเมื่อไรให้ฉันคิดปวดหัวเปล่า ๆ มีเยอะครับ ) ในมุมมองที่ผมทำงานในวงการนี้ เป็นมุมมองนะครับ ผมจะวิเคราะห์บนข้อมูลที่มีอยู่จริง ๆ แล้วก็เพ้อฝันเล็ก ๆ ไปด้วย จะเทรดอะไรก็ตาม จะทอง หุ้น บางทีก็คิดนอกกรอบบ้างนะครับ ติดอยู่แต่ในกรอบมีแต่ขาดทุนแน่นอน เพราะว่าผมโดนมาบ่อยการเทรดติดในกรอบของความคิดเดิม ๆ เข้าข้างตัวเอง ทำหลายครั้งด้วย สุดท้ายมีแต่ขาดทุนครับ
ภาพข้างล่างกร็อปเค้ามาใครทำไม่ทราบเหมือนกันแต่ตอบโจทย์คนเทรด TFEX ได้ดีมากเลย ถ้าทำได้ตามนี้ จะลดการขาดทุนได้มากครับ ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง