ผู้เขียน หัวข้อ: "ค่าโง่…ที่เสียไปนั้น…ยิ่งกว่าค่าโง่โฮปเวล…ที่ทุกคนควรตระหนักรู้"  (อ่าน 685 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

admin

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2591
  • คนดีไม่เบ่ง คนเก่งไม่โม้ คนใหญ่โตไม่อวด
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
"ค่าโง่…ที่เสียไปนั้น…ยิ่งกว่าค่าโง่โฮปเวล…ที่ทุกคนควรตระหนักรู้"

~ เมื่อ 35 ปีที่แล้ว...ผมเริ่มต้นทำงานกับบริษัทการเงินข้ามชาติ ที่ว่ากันว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก...

~ เมื่อ  30 ปีที่แล้ว...ผมแต่งงานกับหญิง …ที่ผมรักที่สุด ...ในขณะที่การงานของผม…ก็ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว...

~ 20 ปีที่แล้ว...เธอคลอดลูกชายคนแรกให้ผม ในขณะที่ผมติดประชุมที่ญี่ปุ่น ผมขอโทษเธอ สัญญากับเธอว่า ผมขอเวลาทำงานอีกระยะเพื่อครอบครัว...ผมกลับเมืองไทย รับขวัญลูก…และขอโทษเธอ…ด้วยตำแหน่งงานที่ก้าวหน้ากว่าเดิม...ฝันของเราใกล้เป็นจริง...

~ 14 ปีที่แล้ว...เธอคลอดลูกสาว…ที่เราเฝ้ารอคอย …ผมได้เห็นหน้าลูกสาวแค่วันเดียว …เพราะต้องเดินทางไปประชุมใหญ่ที่ออสเตรเลีย …ผมสัญญาว่า…ผมจะทำงานอีกไม่นาน …จากนั้น…ผมจะให้เวลาทั้งหมดของผม…แก่ครอบครัวตลอดไป…สมกับที่เธอตั้งตารอคอย...

~ 10 ปีที่แล้ว...หน้าที่การงานผมก้าวหน้ามาก…จนก้าวขึ้นเป็นเบอร์ 2 ในภาคพื้นเอเชียแปซิคฟิค...แต่สุดที่รักของผม  ขอ"หย่า" เพื่อขอเริ่มชีวิตใหม่  ที่เธอบอกว่า ผมไม่เคยให้เธอ (ผมเถียงว่า ผมให้เธอทุกอย่าง)...

~ สุดท้ายเธอบอกว่า"เมียไม่ได้ต้องการแค่…ทรัพย์สินเงินทองจน…เกินเก็บ …หากแต่เป็นความอบอุ่น…มั่นใจจากอ้อมกอด…คนเป็นสามี…เพื่อเติมเต็มในคืนที่อ้างว้าง"...สุดท้ายเธอแยกไป...ส่วนลูกๆ …ปู่กับย่า…ได้ให้การเลี้ยงดูอย่างดี เหมือนกับที่เคยเลี้ยงดูผมมา...

~ 8 ปีที่แล้ว...ลูกชายคนโต…ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์เพื่อน…ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต...ผมบินกลับจากญี่ปุ่น…ทั้งๆที่มีงานสัมมนาสำคัญ …แม่บอกว่า …ลูกชายผมเกเรเลี้ยงยาก...ผมกอดลูกสาว…บอกกับเธอว่า …พ่อไม่ดีเอง …ขอเวลาพ่ออีกนิด…แล้วพ่อจะให้เวลาทุกอย่างกับลูก...

~ 7 ปีที่แล้ว...ก่อนแม่ผมจะสิ้นใจ …แม่บอกกับผมว่า …อย่าเอาแต่ทำงาน…จนลืมไปว่า …ลูกต้องการอ้อมกอดจากพ่อ…ที่โหยหามานาน …อย่าปล่อย…ให้เธอรอคอยอย่างเดียวดาย

~ 5 ปีที่แล้ว...พ่อจากไปตามแม่ …ญาติๆพากันพูดคุย…โดยที่ผมแอบได้ยินว่า …พ่อตรอมใจ…ที่แม่จากไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว …กับเรื่องหลานสาว…คือ ลูกสาวของผม…หนีตามผู้ชายข้างบ้านไปอยู่ทางใต้...แกเอาแต่โทษตัวเองว่า “ ไม่มีปัญญาเลี้ยงหลานให้ดี” ...ขณะที่ผม…ก้าวสู่จุดสูงสุดทางการงาน...ผมเป็นเบอร์หนึ่งในเอเชียแปซิกฟิค…ตามเป้าหมาย ……ผมมีทุกอย่าง…ที่ต้องการ  ผมประสบความสำเร็จเหนือใคร...

~ แน่นอน…ไม่มีสิ่งใดได้มาฟรีๆ …การสูญเสียบางอย่าง…แลกกับความสำเร็จขนาดนี้มันคุ้มค่า หรือไม่  เป็นเรื่องที่ควรสงสัย...…

~ แต่  3 ปีที่แล้ว...หมอบอกว่า …ผมเป็นโรคซึมเศร้า …ต้องกินยาตามสั่งให้ครบ...น่าแปลก…ที่ผมมีครบทุกอย่าง …แต่กลับรู้สึกอ้างว้างอย่างที่สุด …หาใครรักจริง…ไม่ได้สักคน…พ่อแม่ตาย…ลูกตายกับหนีหาย…ภรรยาทิ้งไป...ตอนนี้ผมเข้าใจ…สิ่งที่ภรรยาผมบอก…ตอนเธอจากไปแล้ว...แต่มันสายไป ไม่มีใครทนรอคอยยาวนานแบบนี้ได้...ถึงตอนนี้…ผมยอมเสียค่าโง่  รถ/บ้าน/ที่ดิน/ทรัพย์สินอื่นๆ…เพื่อแลกทุกอย่าง…ที่หามาได้…กับการเป็นคนหาเช้ากินค่ำ…พออยู่พอกิน …ขอแค่ให้ได้อยู่ร่วมกับทุกคนที่ผมรักในช่วงชีวิตที่เหลือนี้…แต่ ก็สายเกินไปแล้ว

~ วันนี้…อาตมา…สละสิ่งที่ได้มาด้วยความโง่…ไม่ว่า รถ/บ้าน/ที่ดิน/ทรัพย์สินอื่นๆที่คิดว่า…เคยเป็นของอาตมา…เพื่อ มามีความสุขกับชีวิตใหม่…ในร่มกาสาวพัสตร์…อันสงบเย็น …หากไม่ได้เจอพระอาจารย์ …อาตมาคงฆ่าตัวตายไปเมื่อ 3 ปีที่แล้ว...…

~ หากวันนี้…อาตมามีคุณวิเศษ…ขอได้…(ซึ่งไม่มี) …จะขอให้โยมทั้งหลาย …อย่าได้ทำโง่ๆ…เหมือนอาตมาในอดีตอีกเลย…เงิน/ชื่อเสียง/ทรัพย์สิน/ลาภยศสรรเสริญ/ฯลฯ ล้วนแต่เป็นสิ่งสมมุติชั่วขณะ…ในท้ายที่สุด เราก็นำติดตัวไปในสัมปรายภพไม่ได้…

~ ใครก็ตาม…ที่ทุกวันนี้…มีเวลาใช้ชีวิตแต่ละวันอยู่กับครอบครัวพร้อมหน้า…มีเวลาในการทำความดี  ในการข่วยเหลือเกื้อกูลคนในครอบครัว  คนในสังคม  มีโอกาสในการให้ทาน  ในการรักษาศีล…มีโอกาสละเว้นในการทำความชั่วทั้งปวง  … มีเวลาทำจิตใจให้เป็นสมาธิภาวนาอยู่ที่บ้านกับคู่สมรส หรือ ครอบครัวได้…นั่นคือ สิ่งที่วิเศษสุด…ที่คนมีปัญญาและโชคดีเท่านั้น…ที่สามารถจะกระทำได้…ไม่ใช่ทรัพย์สมบัติอะไรที่หามาได้มากมายอะไรเลย