ผู้เขียน หัวข้อ: 10 เรื่องลึกลับแปลกประหลาด ที่ยังไร้ซึ่งคำอธิบายจนทุกวันนี้  (อ่าน 379 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

banrong

  • Administrator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 350
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
10 เรื่องลึกลับแปลกประหลาด ที่ยังไร้ซึ่งคำอธิบายจนทุกวันนี้

นับตั้งแต่ยุคโบราณ เราพยายามหาคำอธิบายถึงเรื่องราวแปลก ๆ และสิ่งลี้ลับที่เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้ และไม่ใช่ทุกเรื่องที่เราจะหาคำตอบให้มันได้ บางเรื่องยังคงคลุมเครือและกลายเป็นที่ถกเถียงแบบหาข้อสรุปไม่ได้ วันนี้เพชรมายาจึงอยากพาทุกท่านไปชมเรื่องราวลึกลับแปลกประหลาดที่เคยกลายเป็นข่าวบนโลกออนไลน์ และยังคงเป็นเรื่องที่เราหาคำตอบไม่ได้จนถึงทุกวันนี้

1. ถนนบิมินี



ในช่วงทศวรรษ 1930 Edgar Cayce หมอดูชาวอเมริกันได้อ้างว่า ภายในปี 1968 หรือ 1969 จะมีการค้นพบซากเมืองสาบสูญแห่งแอตแลนติสในเขตบิมินี ที่อยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะบาฮามาส

น่าเหลือเชื่อที่ในเดือนกันยายน 1968 ได้มีการพบบล็อกหินปูนที่ถูกวางอย่างประณีตระยะทางยาวกว่า 700 เมตร ในทะเลใกล้กับพาราไดซ์พอยท์ ทางตอนเหนือของบิมินี สถานที่แห่งนี้ถูกเรียกว่า “ถนนบิมินี” หรือ “กำแพงบิมินี”


 


หลายคนเชื่อว่ามันคือสถาปัตยกรรมที่หลงเหลืออยู่ของนครที่สาบสูญอย่างแอตแลนติส ในขณะที่คนอื่น ๆ เชื่อว่ามันคือการก่อตัวของหินที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเท่านั้น

2. แอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน นักเดินทางข้ามเวลา



ย้อนกลับไปในเดือนมรกราคมปี 2003 ทาง FBI ได้จับกุมชายคนหนึ่งที่มีชื่อว่า แอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน ในข้อหาฉ้อโกงตลาดหลักทรัพย์ โดยเขาใช้ทุนเพียง 800 เหรียญหรือประมาณ 25,000 บาท แต่กลับทำเงินได้มากกว่า 350 ล้านเหรียญ หรือมากถึง 1 หมื่นล้านบาทภายในไม่กี่สัปดาห์ จากการซื้อหุ้นที่มีความเสี่ยงสูง 126 ตัวด้วยกัน แน่นอนว่าคงไม่มีใครสามารถเดาหุ้นถูกหมดถึง 126 ตัว ยกเว้นแต่คุณจะมาจากโลกอนาคต!

หลังถูกจับ แอนดรูว์บอกว่าเขารับรู้ข้อมูลทั้งหมดนี้จากโลกอนาคตจริง ๆ เพราะเขาเดินทางมาจากปี ค.ศ. 2556 ด้วยเครื่องย้อนเวลา ตอนแรกเขากะเล่นแค่เพียงเล็กน้อย แต่ด้วยความโลภทำให้เขาซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนผิดสังเกตและถูกจับในที่สุด

ถึงแม้ FBI จะไม่เชื่อคำให้การของเขา แต่จากการสำรวจข้อมูลบนทะเบียนราษฎร์ก็ไม่พบคนที่ชื่อ แอนดรูว์ คาร์ลส์ซิน ต่อมามีคนยอมจ่ายเงินค่าประกันตัวเขาถึง 1 ล้านเหรียญ และหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบแอนดรูว์อีกเลย


 
3. แม่น้ำเดือด



 

หนุ่มน้อยนาม อันเดรส รูโซ เคยได้ยินเรื่องราวตำนานแห่งแม่น้ำเดือดที่สังหารศัตรูในน้ำได้จากปู่ของเขาอยู่บ่อยครั้ง เขาจึงมุ่งมั่นที่จะค้นหาแม่น้ำแห่งนี้ให้พบ

จนกระทั่งหลายปีต่อมา เมื่ออันเดรสโตขึ้น เขากลายเป็นนักธรณีวิทยาและออกเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อตามหาแม่น้ำเดือด จนกระทั่งในปี 2011 ด้วยการนำทางของหมอผีท้องถิ่นทำให้เขาได้ค้นพบแม่น้ำแห่งนี้ที่อยู่ใจกลางป่าอะเมซอนในประเทศเปรู



สิ่งที่น่าทึ่งก็คือ อุณหภูมิของแม่น้ำแห่งนี้สูงถึง 86 องศาเซลเซียส คุณสามารถต้มไข่ให้สุกได้สบาย ๆ และสิ่งมีชีวิตที่ตกลงไปก็อาจจบชีวิตลงได้ในก้นแม่น้ำแห่งนี้ ส่วนสาเหตุที่ทำให้แม่น้ำแห่งนี้เดือดปุด ๆ ยังคงเป็นปริศนาเพราะภูเขาไฟที่ใกล้ที่สุดอยู่ห่างจากแม่น้ำดังกล่าวมากถึง 700 กิโลเมตร

4. แอตแลนติสแห่งญี่ปุ่น


 


 

ย้อนกลับไปในปี 1986 นักดำน้ำกลุ่มหนึ่งได้บังเอิญพบกับโครงสร้างหินขนาดมหึมาที่ดูแปลกประหลาดคล้ายขั้นบันไดเรียงรายกันอยู่ใต้ทะเลบริเวณเกาะโยนากุนิ ต่อมานักธรณีวิทยาทางทะเล มาซาอากิ คิมูระ ได้ทำการศึกษาโครงสร้างหินแห่งนี้และใช้เวลาทำแผนที่นานนับสิบปี เขาตัดสินใจว่า สิ่งที่เขากำลังศึกษาอยู่ มันคือซากเมืองโบราณที่มีอายุถึง 5 พันปี จนกระทั่งมันถูกขนานนามว่า “แอตแลนติสแห่งญี่ปุ่น”



สิ่งที่ทำให้มาซาอากิเชื่อแบบนั้นก็คือ ลวดลายบนผนังหินที่ดูคล้ายกับตัวอักษรและรูปแกะสลักที่คล้ายสัตว์ ในขณะที่นักวิทยาศาสตร์ท่านอื่นยังมีความเห็นว่ามันอาจเป็นชั้นหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

5. ภาพถ่ายของชายผู้ย้อนเวลา



ภาพนี้เป็นหนึ่งในภาพเหตุการณ์งานเปิดสะพาน Gold Bridge ในประเทศแคนาดาเมื่อปี 1941 ที่มาจากพิพิธภัณฑ์บราลอร์น ท่ามกลางผู้คนที่เข้าชมพิธีการ มีชายคนหนึ่งที่แต่งตัวแตกต่างกับแฟชั่นของคนในทศวรรษ 1940 อย่างมาก

ชายผู้นี้สวมแว่นตากันแดดแฟชั่นที่ดูทันสมัย ใส่เสื้อฮูดมีซิป เสื้อยืดที่มีโลโกแบบศตวรรษที่ 21 และกล้องพกพาในมือของเขาก็ดูแตกต่างจากเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพที่มีในยุคนั้น หลายคนเชื่อว่านี้คือภาพของชายที่เดินทางย้อนเวลากลับไป ซึ่งถูกบันทึกภาพไว้ได้โดยบังเอิญ

6. จีโอกลิฟแห่งป่าฝนอเมซอน


 


มีการศึกษาภูมิประเทศของป่าฝนอเมซอนอยู่เสมอ แต่นักวิทยาศาสตร์ต้องแปลกใจเมื่อพวกเขาพบลวดลายที่วาดบนพื้นดินจำนวนมากที่ถูกเรียกว่าจีโอกลิฟ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่ามีการค้นพบจีโอกลิฟมากกว่า 450 ชิ้นงานทางตอนเหนือของบราซิลและโบลิเวีย ส่วนมากมีอายุมากถึง 3,000-3,500 ปี มีทฤษฎีมากมายที่อ้างว่าลวดลายดังกล่าวมีความหมายถึงการพบปะ สนทนาและการประกอบพิธีกรรมบางอย่าง

7. แสงแผ่นดินไหว

คลิปวีดีโอแสงลึกลับที่เกิดขึ้นในระหว่างแผ่นดินไหวในเปรูเมื่อปี 2007



แสงสว่างที่มักปรากฎบนท้องฟ้าพร้อมกับการเกิดแผ่นดินไหว มันคือหนึ่งในปรากฎการณ์ลึกลับที่เรายังไม่อาจเข้าใจถึงสาเหตุของมันได้แม้ในปัจจุบันนี้ก็ตาม

แสงลึกลับสีน้ำเงินที่เกิดขึ้นระหว่างแผ่นดินไหวในเม็กซิโกซิตี้ ปี 2017



นับตั้งแต่ปี 1600 มีหลักฐานที่ระบุถึงแสงสว่างบนท้องฟ้ามากถึง 65 ครั้งระหว่างช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหว โอกาสที่จะพบแสงเช่นนี้มีน้อยมากและคุณสามารถเห็นแสงเหล่านี้ได้เพียง 0.5% เท่านั้นจากแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทั้งหมดทั่วโลก และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่อาจค้นหาคำตอบได้ว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่

8. เรือผีสิงแคร์โรลล์ เอ เดียริ่ง



เรือแคร์โรลล์ เอ เดียริ่ง เป็นเรือใบการค้าสัญชาติอเมริกาที่นับได้ว่าเป็นเรือผีสิงที่โด่งดังที่สุดลำหนึ่ง เรื่องราวตำนานที่น่าขนลุกของเรือลำนี้เกิดขึ้นในปี 1921 หลังจากที่เรือแคร์โรลล์ได้ออกเดินทางจากเมือง ริโอ เดอ จาเนโร ประเทศบราซิล เพื่อมุ่งหน้าไปยังพอร์ตแลนด์ รัฐเมน ประเทศสหรัฐอเมริกา

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เรือลำนี้ต้องเดินทางผ่านเส้นทางอาถรรพ์ “สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา” จนกระทั่งเวลาผ่าน 3 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ชายฝั่งของแหลมลุกเอาท์ ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา ได้สังเกตเห็นเรือแคร์โรลล์วิ่งด้วยเส้นทางเรือแปลก ๆ



หลังจากส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบจึงพบว่าไม่มีลูกเรือแม้แต่คนเดียวบนเรือลำนี้ ห้องโถงยังคงเต็มไปด้วยอาหาร บันทึกเดินเรือ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว สมอเรือและเครื่องนำทางหายไป พังงาควบคุมหางเสือพังเสียหาย มีการสืบสวนเรื่องนี้มาเป็นเวลานานจนในปี 1922 จึงมีการยุติการสืบสวน โดยที่ยังไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงของการหายตัวไปของลูกเรือทั้งหมด

9. ชายผู้มากับฝน



เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นในปี 1983 เมื่อ ดอน เด็กเกอร์ ได้รับอนุญาตให้ออกจากเรือนจำเพื่อไปร่วมพิธีศพของคุณปู่ของเขาที่เพนซิลวาเนีย และภายในงานนั้นเอง ดอนรู้สึกไม่สบายและหนาวสั่น หลังจากนั้นก็เริ่มมีน้ำไหลลงมาจากเพดานในห้องนั่งเล่น เมื่อเจ้าของบ้านมาเห็นก็ต้องรู้สึกประหลาดใจที่น้ำมันไหลออกมาจากจุดที่ไม่มีท่อน้ำอยู่เลย แถมน้ำไม่ได้แค่หยดลงมาจากเพดาน แต่มันขึ้นมาจากพื้นและไหลออกไปทั่ว และสิ่งที่แปลกไปกว่านั้นก็คือน้ำปริมาณมหาศาลปรากฏขึ้นเฉพาะในห้องนั่งเล่นเท่านั้น



หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบเรื่องนี้ ดอนกับเพื่อนตัดสินใจออกมายังร้านอาหาร นั่นทำให้ฝนที่ตกในห้องนั่งเล่นหยุดทันที แต่มันกลับไปตกที่ร้านอาหารแทน ตอนนี้ทุกคนเริ่มเชื่อว่ามันเป็นอำนาจของภูติผีปีศาจ จนกระทั่งเขาได้กลับมายังเรือนจำ เหตุการณ์เดิมก็เกิดขึ้นอีกครั้ง มีฝนตกในเรือนจำ เพื่อนร่วมห้องขังของเขาเปียกโชกไปด้วยน้ำ จนต้องมีการส่งบาทหลวงเข้าไปทำพิธีกับดอน ในที่สุดฝนก็หยุดตกและมันก็ไม่เคยเกิดขึ้นอีกเลย

10. มหาสมุทรใต้พิภพ



นักวิทยาศาสตร์ค้นพบหลักฐานที่เชื่อว่า อาจมีอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่โตมโหฬารอยู่ลึกลงไปใต้ผิวโลกกว่า 660 กิโลเมตร โดยเชื่อว่ามันมีอายุมากกว่า 2.7 พันล้านปี โดยปริมาณน้ำใต้โลกมีมากกว่ามหาสมุทรบนผิวโลกถึง 3 เท่า นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามหาสมุทรทั่วโลกได้รับน้ำจากใต้พิภพและมันเป็นไปได้ที่น้ำจากใต้โลกอาจเป็นแหล่งพลังงานสำรองให้กับโลกเราต่อไปในอนาคตได้