ผู้เขียน หัวข้อ: ราคาหุ้นขึ้นลงเพราะอะไร ?  (อ่าน 801 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

banrong

  • Administrator
  • Sr. Member
  • *****
  • กระทู้: 350
    • ดูรายละเอียด
    • อีเมล์
ผู้รู้บ้างไม่รู้บ้างตอบได้ไหมครับ ๕๕๕

เอาว่าถ้าจะบอกว่าเพราะอะไรคงตอบแบบครอบจักรวาลไม่ได้หรอกครับ
เพราะคำถามนี้จะนำพามาซึ่งกลยุทธในการเทรดที่มันต่างกัน เช่น

หากถามนักลงทุนที่เน้นใช้ปัจจัยพื้นฐาน เค้าจะบอกว่าสิ่งที่ทำให้ราคาขึ้นลงคือกำไร
หากกำไรมากขึ้นราคาหุ้นควรจะเพิ่มขึ้นมากด้วย หากกำไรลดลงราคาหุ้นก็ควรจะลดลง
ในระยะยาวแล้วราคาหุ้นจะวิ่งไปตามผลกำไรเสมอ ไม่เกี่ยวกับจิตวิทยา ราคาพาร์ใดๆ

พอไปถามนักเทคนิค หรือคนที่ใช้ฟันโฟลว เค้าจะบอกว่าอ่อที่ราคามันขึ้นหรอก็เพราะ"เงิน"น่ะสิ
หุ้นดียังไงราคามันก็ไม่ขึ้นหรอก จนกว่าจะมีคน"ควักเงินออกมาซื้อ" แล้วอะไรล่ะที่บงการเงิน
ก็คนน่ะสิ มันอาจจะมาจากความโลภ ความกลัว หรือภาษาวิชาการเค้าเรียกว่า อุปสงค์ อุปกิน
ไม่ว่ามันจะมาจากพื้นฐานดี กำไรงาม เจ้าเก่ง ข่าวลือ ทั้งหมดมันมาจบที่ มีเงินเข้าอ๊ะป่าว
ดังนั้นคนกลุ่มนี้เลยสนใจที่กระแสเงินมากกว่าสิ่งที่หุ้นเป็น

ถ้าถามผมผมคิดว่า ขั้นตอนคร่าวๆจะเป็นแบบนี้ครับ

หุ้นเริ่มมีผลการดำเนินงานที่ดี นักพื้นฐานเข้ามาซื้อหุ้นในราคาถูกเพื่อรอเวลา
เมื่อมีกำลังเงินจากนักพื้นฐานสะสม กราฟก็ค่อยๆขยับขึ้นนักเทคนิคเริ่มมองเห็นสัญญาณ
พอกราฟได้ที่นักเทคดนิคก็เฮโลเข้ามา ทำให้ราคาหุ้นติดลมบน
พอราคาไปไกลๆแล้ว แมงเม่าและนักลงทุนที่หลงผิดว่าตัวเองเป็นนักพื้นฐานและนักเทคนิคก็ตามแห่
สองกลุ่มแรกออกไปพร้อมกำไร สองกลุ่มหลังออกมาพร้อมน้ำตา
และวัฏจักรเดิมก็หมุนไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ผมว่ามันก็เรื่องเดียวกัน แต่ทั้งพื้นฐานและเทคนิคสนใจคนละช่วงเวลากัน
ไม่มีพื้นฐานก็ไม่มีแรงเงิน ไม่มีแรงเงินราคาก็ขยับไม่ได้

ทั้งหมดเป็นแค่ความเห็นของผมนะครับ
(@_@)


1.แน่นอนคือ ตัว บ.เอง อยากขายหุ้น เอาเงินมาเข้า บ. เอามาลงทุน เช่น บ.AIDS ต้องการเงินมาลงทุนกิจการ 4G เลยขายหุ้นล้านหุ้น หุ้นละ 10 บาท ก็จะได้เงิน 10ล้าน เข้า บ.ฟรีๆ เอามาลงทุน โดยจะจ่ายปันผลให้ผู้ลงทุนนั้นๆ

2.อุปสงค์ อุปทาน เช่น นาย A ถือหุ้นหนึ่งราคา 10 บาท ได้เงินปันผลคืน 2 บาท/ปี นาย B อยากได้   นาย A ก็เลยขายให้นาย B 13 บาทเป็นต้น

3.จากข้อ 1 จะเห็นว่า บ. ไม่มีทางได้เงินเพิ่มเลย ก็จะให้ "จ้าว" ทุบเพื่อซื้อของถูก แล้วเอาลากเพื่อให้แพงแล้วขาย หรือวิธีเพิ่ม/ลดทุน หรือ ขายหุ้นเพิ่ม หรือวิธีการอื่นๆๆเยอะแยะ

4.จ้าว ที่สถาปนาตัวเอง



หุ้นจะขึ้น - ลง มีหลายปัจจัยมากมายมหาศาลนับไม่ถ้วนครับ ทั้งมหาภาค จุลภาค และรายบริษัท แต่ในระยะยาวแล้วมันจะวิ่งเข้าใกล้เส้นมูลค่าพื้นฐานเสมอ  ส่วนเส้นมูลคาพื้นฐานเกิดจากอะไร ?    คำตอบ =  ผลกำไร



มีเกาะร้าง เกาะนึง

มีคนไปติดเกาะ สิบคน

เหลืออาหารกระป๋องอยู่ห้ากระป๋อง

ซึ่งทั้งห้ากระป๋องเป็นของคนเพียงคนเดียว

ผมเชื่อว่า อีกเก้าคนยอม "แลก" สิ่งที่มีอยู่ กับอาหาร 

โดยที่ทั้งเก้าคนเสนอ แลก ไม่เท่ากัน เพราะความต้องการคนล่ะแบบกัน

คนๆ นึงอาจจะซื้อมา ไม่ได้เพื่อกิน แต่เพื่อ แลกเปลี่ยนต่อให้แปดคนที่เหลือ เพราะคิดว่า อัตราการแลกจะดีขึ้น

อีกคนซื้อมาเก็บไว้ค่อยๆ กินกันอดตาย

อีกคนไม่สนใจเลย เพราะคิดว่า เดินเข้าป่าไปเก็บผลไม้ได้

เป็นที่มาของการซื้อขาย

และราคา ที่ต่างกันออกไป




ผมชอบเล่นไพ่ดรัมมี่..คห.โดยส่วนตัว...ก็ขอตอบแบบนักพนันนะว่า...หุ้นก็เสมือนไพ่ใบหนึ่งใน52.ใบ....ถ้าเค๊าทิ้งไพ่สวยเสียบเข้าตองในมือผมก็เก็บ....ถ้าไม่พอใจผมก็จั่วไพ่ในกองกลาง........เล่นถือไพ่นานเกินไปอาจติดลบมืดในมือก็ได้...เล่นไปตามหน้าไพ่ที่ถือในมือเรา...เค๊าทิ้งกเราเก็บ//เค๊าเก็บเพราะเราทิ้ง....การขึ้น/ลงของราคาหุ้นก็คือการทิ้ง&.เก็บไพ่จากกองกลางครับ....ส่วนราคาก็ตามแต่แต้มคะแนนหน้าไพ่


ลองจินตนาการถึงหุ้นของบริษัทที่ดีมากๆ ดูนะครับ

ทำนองว่าคนมีหุ้นถือหุ้นอยากหนักแน่น เอามีดมาจ่อคอ ก็ไม่ยอมขาย เพราะเหมือนเจอห่าน(โคตร)ทองคำ  ถือไว้มีแต่รวยแน่ๆ

ไอ้คนอยากซื้อก็ลงแดง ชักดิ้นแหงกๆ เพราะอยากได้มาครอบครองบ้าง

มีทางเดียวคือตั้งราคาซื้อที่สูงมากๆ
บางครั้งว่าสูงแล้ว แต่ก็ยังสูงไม่พอ    ราคามันก็สูงๆๆๆๆๆ ไปเรื่อยๆ  จนมีใครสักคนใจอ่อน เพราะว่าราคามันสูงเกินจริง เขาเลยสั่งขายไป เพราะได้กำไรมากโข


แล้วราคามันก็ขึ้นๆๆๆ ต่อไป



โห ไม่นึกว่าจะมีคนมาตอบเยอะขนาดนี้กับกระทู้แรกของผม ขอบคุณนะครับ

ก็ได้ความเข้าใจจากหลายๆคน มาสรุปเป็นความเข้าใจของผมเอง

ก็คือ ไม่ว่าจากปัจจัยพื้นฐาน จากเทคนิค มีจ้าวเข้ามาลาก หรือเพราะอารมณ์คน

แต่สุดท้าย คือ ต้องมีการ ซื้อ & ขาย

ผมเข้าใจถูกนะครับ ?

ส่วนเมื่อไรคนจะซื้อขายเยอะหรือน้อย ถือยาว เข้าออกสั้นๆ ไว้เดี๋ยวขอศึกษาต่ออีกที จากจอมยุทธ์ในนี้ทุกท่านครับ :-)

อบอุ่นดี ขอบคุณครับ