ทำไมลูกวัยนี้ถึงชอบเอ้อระเหยในยามเช้า ทั้งที่พ่อแม่อยากให้รีบลุกจากที่นอนมาอาบน้ำ แต่งตัว กินข้าว เพื่อพาไปส่งที่เนิร์สเซอรี่หรือโรงเรียนอนุบาลและไปทำงานต่อให้ทันเวลา
คำตอบคือ จริงๆ แล้วเด็กไม่ได้เอ้อระเหยแบบที่ผู้ใหญ่เข้าใจกัน แต่เป็นการทำอะไรๆ ด้วยสปีดของวัยเตาะแตะต่างหาก การพยายามเร่งเด็กให้เร็วทันใจผู้ใหญ่จึงไม่สมเหตุสมผล และไม่ยุติธรรม เพราะเขายังหยิบจับอะไรได้ไม่ชำนาญพอ อดใจต่อสิ่งเร้ารายรอบตัวไม่ค่อยได้และไม่สนใจในผลที่จะเกิดขึ้นจากการเอ้อระเหย สิ่งสำคัญสำหรับเขาคือปัจจุบันต่างหาก ไม่ใช่อนาคต
สิ่งที่คุณควรทำ (ไปตามสปีดของลูก) ก็คือ
1. ตื่นเช้าขึ้น
เพื่อจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย จะได้มีเวลาเตรียมตัวลูกเพิ่มมากขึ้นและไม่ต้องเร่งรีบจนเกินไป
2. ปลุกลูกให้เช้าขึ้น
คือก่อนเวลาที่จะต้องออกจากบ้าน 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ลูกจะได้ไม่รู้สึกกดดันจนเกินไป (ยิ่งเร่งยิ่งช้า)
3. เตรียมตัวล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนเข้านอน
จะได้มีเวลาในตอนเช้าเพิ่มขึ้น เช่น หยิบเสื้อผ้าทั้งของตัวเองและลูกเตรียมไว้ก่อน ให้ลูกเลือกของเล่นที่จะพกพาไปด้วย และวางไว้ในจุดที่หยิบได้ง่าย หรือเตรียมอาหารเช้าไว้ให้พร้อม
4. กำจัดสิ่งเร้า
โดยช่วยแต่งตัวให้ลูกในห้องของคุณเองหรือห้องน้ำ หรือรีบอาบน้ำ แต่งตัวให้ลูกในทันทีที่เขาตื่นและยังงัวเงียอยู่ (จนลืมสนใจอย่างอื่น หรือลืมประท้วงไม่ยอมเตรียมตัวให้เรียบร้อย) หากลูกเล่นไม่ยอมเลิก ก็ให้เขาพกของเล่นชิ้นนั้นไปด้วยเลย
5. ใช้ดนตรีกระตุ้น
โดยเลือกจังหวะที่คึกคักกระฉับกระเฉง ลูกจะได้เอื่อยเฉื่อย น้อยลงหน่อย
Advertisement
6. ปลุกลูกอย่างนุ่มนวล
มีเวลากอดกันสักนิด หรือแม้แต่เล่านิทานสั้นๆ สักเรื่องก่อนเริ่มกิจวัตรอันเร่งรีบ ลูกจะได้ยอมร่วมมือง่ายขึ้นไง
7. จับเวลา
ทำเป็นเกมสนุกสำหรับลูกเลย แล้วอย่าลืมเผื่อ เวลาให้เหมาะกับวัยของลูกนะ
8. ไม่กดดันลูก
โดยชมเชยและให้กำลังใจทุกครั้งที่ลูกเตรียมตัวทัน (หรือเกือบทันก็ยังดี) แล้วในวันหยุดที่ไม่ต้องเร่งรีบไปไหน ก็ปล่อยให้ลูกได้เอ้อระเหยจนกว่าจะพอใจ เพราะเตาะแตะก็ต้องการ “เวลานอก” เหมือนกันนะ!
บทความโดย: กองบรรณาธิการนิตยสารเรียลพาเรนติ้ง
