1. SMC คือเทคนิคอล รูปแบบหนึ่งไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เทคนิคของเจ้า ไม่ใช่ระบบเทรดของสถาบัน ตัวระบบเทรดเอง มีการเล่นกับ Winrate และ Risk Rewards Ratio ปกติ นั่นหมายความว่า ระบบนี้ก็มีจุดแข็งจุดอ่อน มี การชน Stoploss และ สามารถทำกำไร Take Profit ปกติ เหมือนระบบอื่น
2. ระบบเทรด SMC ผมสามารถแยกย่อยเทคนิคลงไป ได้ประมาณ 10 เทคนิค ซึ่งสุดท้ายแล้ว ก็เพื่อที่เราจะได้รู้ว่า Demand Zone หรือ Supply Zone ไหน ที่เข้าได้ หรือไม่ควรเข้า และโซนไหนอัตราชนะต่ำ
สรุปว่า SMC จริงๆ ปลายทางคือการคัดกรองโซนในการเข้าเทรดนั่นเอง
3. หัวข้อ Market Manipulation หรือ หัวข้อสภาพคล่องการปั่นราคา Liquidity หรือการ Stoploss hunt (การล่า SL รายย่อย) ต่างๆ นั้น
แม้เทคนิค SMC รายใหญ่หรือสถาบันจะไม่ได้ใช้เทรด แต่มันสามารถใช้ได้จริงๆ (ในเชิงเทคนิคอล วัดกันด้วยสถิติ)
โดยเบื้องหลังตรรกะการหลีกเลี่ยง การกวาด SL นั้น มาจากการเก็บสถิติ ของกราฟรูปแบบต่างๆ ที่มันเกิดขึ้นซ้ำๆ แล้วนำมาตั้งชื่อ จนเราสามารถจดจำและนำไปใช้ได้
แม้ว่ามันจะไม่ 100% แต่มันก็ใช้ได้จริงๆ
เช่น Double Bottom ส่วนใหญ่จะโดนกวาด SL ก่อน แล้วค่อยกลับตัวขึ้นไป
ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวข้อย่อยของ SMC ที่เราเรียกว่า Liquidity
พอเราตกผลึกเราก็สามารถนำไปใช้ได้ และยังสามารถทำ วิศวกรรมย้อนกลับ หรือ Reverse Engineering จากการหลบเลี่ยง โดนกวาด SL เป็นการใช้มันเป็นเชื้อเพลิง ( GAS ) ในการพาออเดอร์เราไปหา TP ได้
4. สิ่งสำคัญที่สุด ก่อนที่เราจะเอา SMC
มากรอง Demand Supply Zone คือ โครงสร้างตลาด หรือ Market Structure หรือจะเรียกว่าทฤษฎีดาว ( Dow Theory ) ก็ได้
SMC จะให้ความสำคัญกับโครงสร้างตลาดมากๆ ถ้าเรา Mapping หรือวาดโครงสร้างตลาดผิด ทุกเทคนิคจะผิดไปหมด โซนจะแหกรัวๆ และเราจะกลายเป็นสภาพคล่องตามกฎของ SMC เสมอ
เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่ศึกษา SMC ใหม่ๆ ให้โฟกัสและฝึกฝน ไปในเรื่องของ โครงสร้างตลาดเป็นสำคัญ
ฝึกมอง BOS - Break of Structure
ฝึกดู CHoCH - Change of character
ฝึกใช้หลายกรอบเวลา - Multi-timeframe Structure
ถ้าใช้ตรงนี้แม่น เราเอาไปปรับใช้ได้กับทุกเทคนิค ทุกตลาด แค่นี้สิ่งนี้ก็รวยขึ้น 1000% แล้ว
5. สิ่งที่ดีมากๆ ของเทคนิค SMC เพิ่มเติมคือ
การบังคับให้เราเข้าในจังหวะที่ราคาถูกหรือแพงเท่านั้น
ยกตัวอย่างเราเป็นพ่อค้าแม่ค้า SMC จะบอกเราว่า ให้ซื้อถูก ขายแพง เสมอ
แล้วเราจะเปลี่ยนคำพูดนามธรรม ให้เป็นเทคนิครูปธรรมอย่างไร เราจะรู้ได้ไงว่าตรงไหนราคาถูกราคาแพง
SMC จะเข้ามาตอบโจทย์เราด้วยเทคนิค
Premium - Equilibrium - Discount Zone
ซึ่งอธิบายร่วมกับโครงสร้างตลาดไว้อย่างชัดเจน และช่วยกรอง Demand Supply Zone ได้อย่างดีอีกด้วย
ตรรกะคือ
- เรานะไม่ Buy Demand Zone ที่อยู่ในช่วงราคาของ Premium เพราะราคามันแพงเกินไป เราเป็นเทรดเดอร์หรือพ่อค้า เราจะต้องรอซื้อของถูก ก็คือต้องรอ Buy ใน Discount Zone เท่านั้น
- เช่นเดียวกับ การ Sell เราจะไม่ Sell Supply Zone ที่อยู่ใน Discount Zone เพราะหากเราจะ Sell จะเท่ากับว่าเราจะขายใช่มั้ยครับ เราต้องขายในโซนราคาแพง หรือมันคือ Premium Zone นั่นเอง
และ Demand Supply Zone ที่เกิดขึ้น บริเวณ Equilibrium Zone หรือโซนตรงกลางระหว่าง ของแพงกับของถูก เราจะเรียกมันว่า Decisional Zone หรือโซนตัดสินใจ เราจะไม่เข้าเทรดตรงนั้น เพราะเสี่ยงเป็นสภาพคล่องให้กับ โซนที่ถูกหรือแพงกว่า ( Liquidity )
6. มายาคติในเรื่องของ Big RRR เป็นสิ่งที่ไร้ประโยชน์
สำหรับเทรดเดอร์ SMC จะถูกคอนเทนต์ปลูกฝังมาว่า ให้กินคำใหญ่ๆ เช่น 1:30 / 1:100 RRR
ซึ่งกัปตันได้ตกผลึกและเก็บสถิติเรื่องนี้แล้ว
การมี RRR ปริมาณเยอะขนาดนี้ ส่งผลให้เรามีอัตราชนะที่ต่ำมากๆ ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ไม่เหมาะกับการเทรดในตลาดจริง มันจะส่งผลเสียต่อจิตวิทยาการเทรดของเรา เครียดมาก ปวดใจมาก กับการแพ้ติดๆ กัน เป็นสิบๆ ไม้ กว่าจะเจอ big win ยิ่งมือใหม่ จะยิ่งแย่ เพราะคุมสภาพจิตใจไม่ได้
คำแนะนำคือ เราไม่จำเป็นต้องมี RRR เยอะขนาดนั้นก็ได้ เราต้องการแค่ 1:5 RRR อย่างสม่ำเสมอตลอดไป แล้วมาจับคู่กับพอร์ตกองทุน แค่นี้เราก็รวย จนไม่รู้จะรวยอย่างไรแล้ว
และอัตราชนะก็อยู่ในกรอบที่ยอมรับได้
เทรดได้สบาย ไม่เครียดด้วย
เราอย่าติดกับดักคอนเทนต์ big RRR ของ SMC เพราะกัปตันลองแล้ว มันไม่เวิร์ค
แต่มันไม่ได้แปลว่ามันทำไม่ได้นะครับ
มันทำได้ แต่ไม่คุ้มกับสิ่งที่เราจะแลกไป
7. (แถม) ไม่ว่าเราจะใช้เทคนิคไหนก็ตาม ไม่จำเป็นต้อง SMC แต่ขอให้เราศึกษาและ Backtest เทคนิคจนตกผลึกด้วยตัวเองให้ได้ ถ้าเราสามารถตกผลึกได้ ขอแค่เทคนิคเส้น ema เส้นเดียวก็พาเรารวยได้
เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของเทคนิค มันเรื่องของ จิตวิทยาการเทรด และแนวคิดด้วย
กัปตันย้ำเรื่องนี้เสมอ และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
#แนวคิดผู้ชนะ
Captain x TMGM x