กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้

หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10
31
#10แนวคิด จาก โทนี่ รอบบิ้นส์ ที่อาจทำให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ

1. ยกระดับมาตรฐานของตัวเรา
โทนี่ รอบบิ้นส์  เชื่อว่าทุกคนล้วนแต่ต้องการประสบความสำเร็จเสมอ แต่ถ้าเรามีความคิดเพียงว่า สิ่งที่ต้องการทำมันคือเป้าหมายที่ “ควรทำ” เราจะไม่สามารถทำมันได้เลย แต่เราต้องคิดว่าเป้าหมายของเรา นั้น คือสิ่งที่ “ต้องทำ” ไม่ใช่การคิดว่าควรทำ เพียงเท่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

2.ตามหาเป้าหมายที่แท้จริง
เมื่อผู้คนได้ค้นพบงานหรือภารกิจที่พวกเขาพึงพอใจได้แล้ว โทนี่ รอบบิ้นส์ บอกว่า สิ่งนั้นจะทำให้ชีวิตของคนเรามีความหวังความฝันและมีความสุข เป็นพลังผลักดันให้คนเราค่อย ๆ พัฒนาเพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ให้กับชีวิต และสิ่งที่ค้นพบยังเปรียบเสมือนกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้คนเรามีความสุข เป็นความสุขที่อยู่ภายใน โดยสถานการณ์ต่าง ๆ จากภายนอกไม่สามารถทำลายหรือเข้ามารบกวนได้เลย

3.เดินหน้าหาความสุข
โทนี่ รอบบิ้นส์  ให้แนวคิดว่าความสุขในชีวิตของมนุษย์ ก็คือ การได้เดินตามความฝันหรือตามเป้าหมายของตนเองได้สำเร็จ ดังนั้น เมื่อทุกคนต้องการความสุขจงอย่าละทิ้งเป้าหมาย แม้บางครั้งอาจพบเจอกับความยากลำบาก ก็จงเรียนรู้ที่จะโอบกอดมัน หากปัญหาอุปสรรคนั้นนำมาซึ่งความสุข และความสุข นั่นล่ะคือรางวัลที่จะมอบให้กับเรา

4.รักและให้ความสำคัญกับลูกค้า
โทนี่ รอบบิ้นส์  กล่าวว่า ความสำเร็จเกิดขึ้นได้ไม่ยาก เพียงเรารักให้ความสำคัญและเอาใจใส่ดูแลลูกค้าให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกไว้วางใจและเชื่อมั่น เพราะสิ่งเหล่านั้นคือกุญแจแห่งความสำเร็จ ลูกค้าทุกคนก็คือ กลุ่มคนผู้ซึ่งสร้างฝันให้เป็นจริงได้ ยิ่งเราดูแลเอาใจใส่พวกเขามากเพียงใด สิ่งที่พวกเขามอบรางวัลตอบแทนเราก็มากขึ้นเท่านั้น

5.เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเอง
ค้นหาสิ่งที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับตัวเรา ตัวอย่างเช่น หากเราบอกลูกค้าว่าจะจัดส่งของให้ในวันอังคาร  แต่สามารถส่งของได้เร็วขึ้นในวันจันทร์ สิ่งเหล่านี้ ถือเป็นหลักการพื้นฐานที่นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จล้วนนำมาใช้กัน โทนี่ รอบบิ้นส์  ให้แนวคิดว่า ไม่ใช่สิ่งที่เราควรถามตัวเองว่า “แล้วฉันจะได้อะไร” แต่สิ่งที่ควรถามตัวเองก็คือ “แล้วเราได้ให้คุณค่าอะไรกับลูกค้าบ้าง”

6. เตรียมทางออกให้กับทุกๆเรื่อง
ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่าย ๆ บางครั้งสิ่งที่คาดหวังอาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราต้องการ หรือเมื่อทำแล้วไม่ได้ออกมาดีเสมอไป และอาจจะต้องเสียทั้งพลังงาน เวลา หรือทุนทรัพย์ แต่ปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ก็ไม่ได้ปิดกั้นความสำเร็จ เพียงเราเตรียมความพร้อม หรือมีการวางแผนไว้รับมือกับทุก ๆ ปัญหา โอกาสตามหาความสำเร็จและความสุขในชีวิตก็ยังคงมีอยู่อย่างแน่นอน

7.มีไหวพริบในการคิดวิเคราะห์
โทนี่ รอบบิ้นส์  เชื่อว่าความสำเร็จของคนเราไม่ได้มาจากความรู้ความสามารถเท่านั้น แต่หลายคนสามารถประสบความสำเร็จได้จากการใช้ไหวพริบในการคิดวิเคราะห์หาช่องทางให้กับตัวเอง แม้จะต้องพบเจอกับปัญหาอุปสรรคก็จะไม่ยอมแพ้อย่างง่ายดาย
ตรงกันข้าม บุคคลเหล่านั้นยังพยายามค้นหาแนวทางที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จ โดยการเข้าหาคนเก่ง เรียนรู้นิสัยของบุคคลผู้ซึ่งประสบความสำเร็จ รู้จักปรับเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาสได้เสมอ

8.ใส่ใจทุกรายละเอียด
แนวคิดที่นำ โทนี่ รอบบิ้นส์ ไปสู่ความสำเร็จ ส่วนหนึ่งเกิดจากความใส่ใจในทุกรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาทำ เพราะเขามองว่า “สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ก็คือสิ่งที่เล็กที่สุดหลาย ๆ สิ่งมารวมกัน” 
ดังนั้น การทำสิ่งใด ๆ จงอย่าลืมให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเมื่อมันมารวมกันก็จะเป็นสิ่งที่ดีที่ยิ่งใหญ่ และอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำเราไปสู่ความสำเร็จได้

9.มองหาพลังเพื่อเติมความฝันให้กับตัวเอง
ความสำเร็จหรือความหวังความฝัน บางครั้งก็ต้องปิดฉากลงก่อนเวลาอันสมควร เปรียบเสมือนการเดินขึ้นไปบนเนินเขาเล็ก ๆ ที่แม้จะยังไม่ได้เดินขึ้นไปก็ต้องตัดใจยอมแพ้เสียก่อน เพราะขาดพลังขาดแรงจูงใจให้เกิดความมุ่งมั่น ดังนั้นจงพยายามต่อสู้กับแรงโน้มถ่วงในตัวเรา แล้วมองหาคันโยกที่จะพาเราขึ้นไปยังความสำเร็จ แบ่งปัญหาออกเป็นเรื่องเล็กแล้วค่อย ๆ จัดการกับปัญหาให้หมดไปทีละเรื่อง

10.ปรับเปลี่ยนทัศนคติ
โทนี่ รอบบิ้นส์ บอกว่า ความคิดของคนเราเป็นสินทรัพย์ที่มีคุณค่าที่สุด แม้ว่าเราไม่อาจสามารถควบคุมโลกภายนอกได้ แต่สิ่งที่เราควบคุมได้แน่นอนคือ ความคิดของเรา ทัศนคติที่ดี จะพาทุกคนก้าวข้ามผ่านสถานการณ์ที่ท้าทายและยากลำบากไปได้ แต่ทัศนคติที่ไม่ดี บางทีก็อาจพาโอกาสที่ดี ๆในชีวิตไหลผ่านไปเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ดังนั้นหากทุกคนคิดในสิ่งที่ดี ทัศนคติที่ดี เชื่อว่าชีวิตของเราก็จะดีตามไปด้วย

***การดำเนินชีวิตของคนเรา ในบางครั้งก็ต้องการผู้นำทางหรือบุคคลที่คอยชี้นำกระตุ้นเตือน เพื่อช่วยให้เราค้นหาตัวตนหรือกล้าที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เดินไปตามเส้นทางที่ควรจะเป็นของเรา 
#ขอบคุณบทความนี้ค่ะ
32
Cafe / คนหาเงินไม่เป็นแล้วเสือกใช้เงินไม่คิด...!!
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 20/06/24 »
จริงของ.....เขา!!!
ผมไปนั่งคุยกับนักธุรกิจติดดินท่านนึงมา
คุยกันเรื่องเศรษฐกิจในโคราช.....
ท่านเล่าให้ฟังชัดเจนแบบ....ไม่ต้องแปล!!!
ไอ้ติ๊ก....มึงไปขับรถดูนะ
ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดัง...มี20โต๊ะคนนั่งแดกจริงๆ4โต๊ะ
ร้านสเต็กชื่อดัง....มี30โต๊ะ มีคนนั่งแดก4-5โต๊ะ
ร้านเนื้อย่าง ชาบู แม้แต่จิ้มจุ่มมึงอะ....เหมือนกัน
เงียบใช่มั้ย.????......ใช่ครับ
แม้แต่ร้านสะดวกซื้อแบรนด์ดังมันยังยอดตกเลยมึงรู้มั้ย???
สาเหตุมาจากอะไรครับ...??
สาเหตุมากว้างกูขี้เกียจเล่า เอาเป็นว่ามึงฟังกูนะ
มึงจำใว้นะ อาหารที่จำเป็น คนใช้เงินซื้อมันแดกแบบ...จำเป็น
ของใช้ที่จำเป็น...คนซื้อมันแบบจำเป็น
ผ้าอนามัยราคาถูกกว่ากันแค่2บาทมันก็เลือกกันถูกกว่า!!
จริงหว่ะ.....
น้ำปลาอีร้านปากซอยขาย32บาท
คนยอมเสียค่าน้ำมันไปซื้อน้ำปลาลดราคาในห้าง29.50บาท!!!
คนใช้เงินแบบจำเป็นกับสิ่งที่จำเป็น...จำใว้
................................................................
มึงขายก๋วยเตี๋ยว....มึงรู้ดี
มึงคิดเงินเขา37บาท เขาจ่ายมา40บาท
คนยืนรอเงินทอน!!!
แต่พอไปแดกร้านอาหารหรูหรา
ค่าอาหาร3500 ให้ทิปเด็กเสริฟอีก500!!
มึงเข้าใจยัง......???
ยังครับ......
เมื่อกี้กูบอกมึงว่าคน...จ่ายเงินในจำนวนที่จำเป็น
กับสิ่งจำเป็น!!
นี่ก็เช่นกัน คนใช้เงินในสิ่งที่ไม่จำเป็นในจำนวนที่ไม่จำเป็น!!!
คนใช้เงินใช้จ่ายไร้สาระในวงเงินที่ไร้สาระและไม่คิดเช่นกัน!!
..............................................................
แป๊ะขายก๋วยเตี๋นวหมูบ่นทุกวัน....อั๊วขายไม่ลีเลยตี๋
เจ้ร้านราดหน้าก็บ่น....เอาเงินเก่ามากินจะหมดแล้ว
ตาชูขับตุ๊กๆบ่น....หาเงินไม่พอเติมแก๊ซเลย
ไม่ว่าอาชีพไหนๆบ่นกันระงม....
มีหนึ่งอาชีพที่แม่งไม่เคยบ่น
และอีกหนึ่งธุรกิจที่แม่งไม่ค่อยบ่น
อาชีพนักเรียนไง....ไอ้ติ๊ก??!!
นอกจากมันบ่นว่าเรียนหนักแล้ว
ก็มีบ่นเรื่องผัวเรื่องปัญญาอ่อน
มึงเคยเห็นนักเรียนมันโพสต์ว่า
เศรษฐกิจในไตรมาสที่2ของประเทศไม่ดีบ้างมั้ย?
มูลค่าส่งออกของประเทศน่าเป็นห่วง
มึงเคยเห็นมันโพสต์หรอ??
เออ....จริงของแก
แล้วไงต่อครับ.....
อันนี้มึงห้ามโพสต์นะเดี๋ยวเค้ามารุมด่ากู
(ไม่ทันแล้วครับ)
มึงต้องยอมรับนะว่าเด็กพวกนี้มันใช้เงินไม่คิด
พวกมันหาเงินไม่เป็น แบมือขอพ่อแม่เป็นอย่างเดียว
พวกนี้รู้แค่ว่าแบงค์พันซื้ออะไรได้
แต่ไม่รู้หรอกว่ามันหามายากแค่ไหนกว่าจะได้แต่ละพัน
พวกนี้....ลูกค้าชั้นดี พูดตรงๆก็เหยื่อโง่ๆ
พวกนี้มีเงิน....ในหัวคิดแต่ร้านเหล้า
พวกนี้พอแม่ส่งเงินมาให้วิ่งเข้าแต่ห้าง
พวกนี้พอเงินเข้าบัญชีแล้ว....อยู่ห้องไม่ได้
หรือมึงว่าไม่จริง.....?
ครับส่วนใหญ่ครับ
..............................................................
คนพวกนี้ลูกค้าvip ร้านเหล้า ผับ เธค
บางคนรู้ทั้งรู้ว่าพ่อแม่ลำบากแค่ไหน
แต่พอพ่อแม่โอนเงินให้จ่ายค่าหอค่าข้าว
มันก็เอามาแดกเหล้ากับผัวกับเพื่อน
บางคนโกหกพ่อตอแหลแม่ ว่ามีค่ากิจกรรม
ค่าอุปกรณ์การเรียน ตอแหลเอาเงินมาเลี้ยงผู้ชาย
เอาเงินมาเที่ยว
ไม่ทุกคนมั้งครับ...?? กูก็ไม่ได้บอกว่าทุกคน!
บางคน....ขอพ่อไม่ได้ แม่ให้ไม่พ่อจ่าย
เพื่อนมี I phone ใช้กูไม่มีก็ไม่ได้
จึงเป็นที่มา....นักศึกษาขายตัวไง
ขายตัวเที่ยว ขายตัวเพื่อให้เท่าเทียมเพื่อน
ติ๊กมึงน่าจะรู้ดีกว่ากู.......ครับ
โลกเรามาถึงจุดนี้แล้ว
ขายตัวหาเงินเที่ยว
ขายตัวหาเงินซื้อกระเป๋า
.............................................................
สิ่งที่พยายามจะชี้ให้เห็นคือ....
คนกลุ่มนี้ไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร รู้แต่ความสุขตัวเอง
โลกจะเป็นยังไง....ไม่ใช่เรื่องของกู
รัฐบาลจะทะเลาะกับใคร....กูไม่สน
(ผมยืนยันว่าแกไม่ได้เหมารวมทุกคน)
แม้แต่พ่อแม่มันลำบากส่งมันเรียนมันยังไม่สำนึกเลย
เด็กบางคน พ่อแม่ส่งมาจากบ้านนอก
ส่งค่าเทอม ส่งค่าหอ ส่งค่าข้าว
พ่อแม่ทำแต่นา หาแต่เงิน ไม่เคยได้เห็นเตียงที่ลูกนอนด้วยซ้ำ
แต่ไอ้ห่าที่ไหนก็ไม่รู้นอนขย่มลูกสาวกูบนเตียงที่กูซื้อให้ลูก....
ติ๊ก.....ในขณะที่ร้านก๋วยเตี๋ยว
ร้านข้าวชาวบ้านบ่นขายของไม่ดีกัน
มึงไปดูนะ ร้านเหล้าเต็มเกือบทุกร้าน
เต็มไปด้วย....คนหาเงินไม่เป็นแล้วเสือกใช้เงินไม่คิด...!!
มึงเอาไปคิดต่อแล้วไม่ต้องกล่าวถึงกู
เขาทิ้งบุหรี่ลงพื้นเหยียบมัน.....แล้วจากไป
15นาทีที่ผม.....เถียงไม่ออก
ภาพโดย Google
บทความ โดย สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
33
หุ้น - Forex / กรณีติดลบ 30 %
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 13/06/24 »
กรณีติดลบ 30 %
1. Hedging 2 เท่าของไม้เดิม
2. กันหน้าไม้ hedging ไว้ 20 จุด
3.แรงกลับมาปิดไม้ Hed ที่กันหน้าไว้ 20 จุด
4.1 ปิดไม้ hed ปล่อยกราฟกลับมาปิดรวบ
4.2 ถ้าไหลไปตามไม้ hed เพราะเปิดไม้ 2 เท่าของไม้ที่ผิดทาง มีผลบวกทั้งหมดปิดรวบไม้    ความคิดเห็นส่วนตัวครีบครับดีไม่ดีช่วยๆกันครับ

หรืออีกวิธีคือถ้าติดลบ30%
1. ให้ Full Hedging
2. เมื่อไม้ Hedge มีกำไรที่ xx point ให้ใส่ SL กันหน้าทุน
3. เมื่อแรงฝั่งเดิมกลับมา ออกไม้แก้
4.1 ปิดกำไรไม้ Hedge แล้วปล่อยกราฟไหลมาปืดรวบส่วนที่โดนลาก
4.2 ไม่ปิดกำไรไม้ Hedge เพราะบางทีกราฟไม่ย้อนกลับมาจริงจะโดนลากหนักกว่าเดิม ฉนั้นรอจนกราฟไหลมาชนบังทุนไม้ Hedge พร้อมรวบไม้ที่โดนลากปิดกำไร

34
4 คาถาเรียกเงินล้าน รับทรัพย์ รับโชคจากเกจิอาจารย์ดัง
การสวดภาวนา คาถาเรียกเงินล้าน
ความร่ำรวยเป็นเป้าหมายของใครหลายคน หลายคนจึงเสาะแสวงหาหนทางต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพูนทรัพย์สินเงินทอง หนึ่งในนั้นคือการสวดคาถาเรียกทรัพย์ เชื่อว่าการสวดคาถาเหล่านี้จะช่วยเสริมดวงด้านการเงิน เรียกเงินทองเข้ามาหาตัว ช่วยให้ทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรืองได้ ในบทความนี้จะมาแจกคาถาเรียกเงินล้าน จากเหล่าเกจิอาจารย์ดัง พร้อมเทคนิคการสวดให้ได้อานิสงส์สูง

แจก 4 คาถาเรียกเงินล้าน จากเกจิอาจารย์ดัง
คาถาเงินล้าน : หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หรือพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) ป.ธ.4 เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดจันทาราม (วัดท่าซุง) จังหวัดอุทัยธานี มีชื่อเสียงในด้านการบำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐานและวิชามโนมยิทธิ รวมถึงมีคาถาเรียกเงินล้าน เป็นคาถาที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้มอบให้แก่ศิษยานุศิษย์ เพื่อเป็นเคล็ดในการเสริมดวงการเงินและโชคลาภ

(ตั้ง นะโม 3 จบ )*

สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม

พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ

พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม

มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม

มิเตพาหุหะติ

พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง

วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ

มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม

สัมปะติจฉามิ

เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ

(สวดบูชา 9 จบ)

คาถาโชคลาภ คาถาเรียกเงิน เสริมทรัพย์ : หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หรือพระครูวิหารกิจจานุการ (ปาน โสนันโท) เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชื่อเสียงด้านการสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลต่าง ๆ และมีบทสวดคาถา เรียกเงิน เรียกทอง เป็นคาถาที่นิยมสวดตอนตื่นนอน ก่อนนอน หรือสวดก่อนเปิดร้าน เพื่อให้ทำมาค้าขายมีโชคลาภ เงินไหลมาเทมา

(ตั้ง นะโม 3 จบ )*

พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ

วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา

วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มาณีมามะ พุทธัสสะ สะวาโหมฯ

(สวดบูชา 3, 5, 7, 9 จบ)

คาถามหาลาภ : หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก วัดตะโก จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อรวย ปาสาทิโก หรือพระมงคลสิทธาจารย์ เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดตะโก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีชื่อเสียงในด้านความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล โดยเฉพาะเหรียญหลวงพ่อรวย รุ่นชนะจน ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ หลวงพ่อรวยยังได้มอบเคล็ดในการเสริมดวงการเงินและโชคลาภ กับคาถาเรียกเงินล้านเสริมทรัพย์ ที่จะช่วยดลบันดาลให้มีเงินทองไหลมาเทมาและเสริมสร้างทรัพย์สมบัติให้มั่นคง

(ตั้ง นะโม 3 จบ )*

สัมพุทธชิตา จะสัจจานิ

เกรัตน์สะ พระพุทธชิตา

สัพพะโส คุณะวิภา

สัมปัจโต นะรุตตะโม

มหาลาภัง สัพพะสิทธิ

ภะวันตุเม

คาถาขอลาภจากพระสีวลี : หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง
หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ เป็นพระเกจิอาจารย์สายวิปัสสนากรรมฐานที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติ ตั้งอยู่ในความสมถะ จนเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวลำปางและพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดยเฉพาะวัตถุมงคลต่าง ๆ ของหลวงพ่อเกษม เชื่อกันว่าหากมีไว้บูชาจะช่วยดลบันดาลให้ประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง แคล้วคลาดปลอดภัย และโชคดีมีชัย

สำหรับบทสวดคาถาเรียกเงินล้าน ขอลาภ ขอเงินทองจากพระสีวลี มีความเชื่อว่า ถ้าสวดครบ 5 จบ พร้อมกับการบริจาคทาน การช่วยเหลือผู้อื่น จะทำให้มีเงินทองเพิ่มพูน และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและการเงิน

(ตั้ง นะโม 3 จบ )*

สีวะลี จะ มะหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา

สีวะลี จะ มะหาเถโร ยักขะเทวาภิปูโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ ตัง สะทา สีวะลีเถระคุณัง เอตัง โสตถิลาภัง ภะวันตุ เม

เกร็ดความรู้ : บทสวดนะโม 3 จบ*
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

เป็นการกล่าวบทคำบูชาพระพุทธเจ้า หมายความว่า ข้าพเจ้า ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาค อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น โดย นะโม หมายถึง พระผู้มีพระภาค ทรงเป็นใหญ่กว่า มนุษย์ เทพยดา พราหมณ์ มาร ยักษ์ และสัตว์ทั้งปวง และการกล่าว 3 จบ เป็นการตอกย้ำให้เกิดความหนักแน่นในการเคารพพระพุทธเจ้านั่นเอง

แจกคาถาเรียกเงินล้าน
คาถาเรียกเงินล้าน ควรสวดกี่จบ ให้ได้อานิสงส์สูง
การสวดพระคาถาเรียกเงินล้าน เป็นที่นิยมกันอย่างมากในปัจจุบัน เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมดวงการเงินและโชคลาภ ช่วยให้มีเงินทองไหลมาเทมา ประกอบอาชีพการงานเจริญรุ่งเรือง โดยสวดภาวนาคาถาเงินล้าน เพื่อให้ได้อานิสงส์สูงควรสวดด้วยใจที่เลื่อมใสศรัทธา สามารถสวดกี่จบก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้สวด แต่โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะนิยมสวดด้วยจำนวนเลขมงคล เช่น 3 จบ, 5 จบ, 9 จบ, 30 จบ, 108 จบ หรือเลือกสวดในแต่ละช่วงเวลาก็ได้ที่ร่างกายพร้อม อยู่ในสถานที่เงียบสงบและมีอากาศถ่ายเทได้ดี

นอกจากการสวดพระคาถาเรียกเงินล้านแล้ว ยังมีเคล็ดอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมดวงการเงินและโชคลาภได้ เช่น การบูชาวัตถุมงคล การทำบุญ การบริจาคทาน และการช่วยเหลือผู้อื่น

ผู้ที่สวดภาวนาคาถาเรียกเงินล้านเป็นประจำ จะช่วยให้เกิดเมตตามหานิยม ทำมาค้าขายขึ้น มีโชคลาภไม่ขาดสาย แต่หากมีงานรีบ งานเร่ง งานด่วน ไม่อยากรอ มาเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน เลือกใช้บริการศรีสวัสดิ์ สินเชื่อกู้เงินด่วน ให้วงเงินสูง พร้อมให้บริการ ปรึกษาเจ้าหน้าที่เพื่อขอสินเชื่อเงินสดทันใจ กว่า 5,500 สาขาทั่วประเทศ หรือโทร 1652 หรือ LINE Official @srisawad

ข้อมูลอ้างอิง

คาถาเงินล้าน จากเกจิอาจารย์ชื่อดัง สวดแล้วรวยได้เป็นเศรษฐี. สืบค้นเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2566.
“คาถาเงินล้าน” จากพระเกจิอาจารย์ดัง สวดเรียกทรัพย์ ปลดหนี้ เสริมเฮง. สืบค้นเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2566.
8 คาถาเงินล้าน เรียกทรัพย์ บันดาลเงิน ท่องแล้วปัง! สวดแล้วรวย! สืบค้นเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2566
35
เตือนภัย หนุ่มอายุแค่ 22 ป่วยไตวาย ตับแข็ง เก๊าท์ เพราะเสพติดน้ำหวานแทนน้ำเปล่า

ชายหนุ่มชาวไต้หวัน วัย 22 ปี ป่วยเป็นโรคไตวาย ตับแข็ง และเก๊าท์พร้อมกัน แพทย์เผยสาเหตุมาจากการดื่มน้ำหวานเป็นประจำ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคไตจากโรงพยาบาลในไต้หวัน ได้ออกมาเตือนภัยเรื่องพฤติกรรมการกินที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ ยกกรณีศึกษาของคนไข้ชายอายุ 22 ปี ที่มีภาวะไตวายระยะที่ 4 ตับแข็ง และโรคเก๊าท์ พบว่าสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการดื่มน้ำหวานเป็นประจำแทนน้ำ และรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นเวลานานถึง 4 ปี
คนไข้รายนี้มีประวัติเป็นโรคไตอักเสบมาก่อนในช่วงมัธยม แต่ได้รับการรักษาและปรับพฤติกรรมจนอาการดีขึ้น จนกระทั่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยและเริ่มละเลยการดูแลสุขภาพ ทั้งยังมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 20 กิโลกรัม

แพทย์ผู้รักษาเผยว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงและรับประทานอาหารไขมันสูงเป็นประจำ ส่งผลเสียต่อการทำงานของไต เนื่องจากทำให้เกิดภาวะเมตาบอลิซึมผิดปกติ น้ำหนักตัวเกิน และเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้หลอดเลือดในไตเสียหาย
นอกจากนี้ งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่า การดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลมากกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตในอนาคต
แพทย์จึงแนะนำให้ทุกคนใส่ใจสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง อาหารไขมันสูง และอาหารรสเค็มจัด เพื่อป้องกันโรคไตและโรคอื่นๆ ที่อาจตามมา

สร้างนิสัยดี 3 ข้อ ปกป้องไตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. สร้างนิสัยการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควรเน้นการกินอาหารที่มีเส้นใยสูง จำกัดอาหารที่มีไขมันและเค็ม รวมถึงหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง การกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพช่วยให้ไตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. ดื่มน้ำให้เพียงพอ
อวัยวะส่วนใหญ่ในร่างกายของเราต้องการน้ำเพื่อให้ทำงานได้อย่างปกติ ไม่ว่าจะเป็น ตับ ไต หลอดเลือดและผิวหนัง การดื่มน้ำน้อยเกินไปทำให้ร่างกายผลิตปัสสาวะได้ไม่เพียงพอ ขัดขวางกระบวนการกำจัดของเสีย ทำให้ไตทำงานหนักเกินไปและส่งผลต่อการทำงานของไตในระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า ผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรง ควรดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 1.5 – 2 ลิตร เพื่อให้การทำงานของอวัยวะต่าง ๆ เป็นไปอย่างปกติ
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายอย่างพอเหมาะ ช่วยควบคุมน้ำหนัก ป้องกันโรคอ้วน รักษาความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติและลดไขมันในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับไต
36
“จดหมายสุดขั้วสองฉบับ”
“จดหมายจากนักโทษประหารถึงพ่อแม่”
คุณพ่อ คุณแม่ครับ
พรุ่งนี้แล้วที่ผมจะต้องถูกประหาร ผมไม่ทราบว่าเส้นทางชีวิตของผมเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตอนนี้ภาพในอดีตค่อยๆฉายออกมาทีละภาพผ่านสมองของผม
ตอน 3 ขวบ
ผมจำได้รางๆว่า ผมวิ่งเร็วเกินไปจนสะดุดก้อนหินหกล้ม
พ่อรีบอุ้มผมขึ้นมาปลอบ
แล้วพ่อใช้ขาเตะก้อนหินสองที
"ไม่ต้องร้องไห้ ก้อนหินก้อนนี้แย่จริงๆ พ่อลงโทษให้แล้ว"
ตอนแรกผมก็ตั้งใจจะกลั้นน้ำตาไม่ยอมร้องไห้
แต่พอเห็นเหตุการณ์กลายเป็นเช่นนั้น ผมก็เลยกอดพ่อแน่นร้องไห้อยู่นาน
เพราะพ่อทำให้ผมเข้าใจว่า การที่ผมหกล้ม ไม่ใช่เพราะผมไม่ระวัง แต่เป็นความผิดของก้อนหิน
แต่ผมไม่รู้ว่า มันแค่เป็นการปลอบใจจากพ่อเพื่อไม่ให้ผมร้องไห้
ตอน 4 ขวบ
ผมเอาแต่นั่งเฝ้าดูทีวีจนไม่ยอมกินข้าว
แม่ยกชามข้าวมาป้อนให้ผมทีละคำถึงหน้าจอทีวี
แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า ชีวิตสามารถเสพสุขได้ด้วยวิธีนี้
แต่ผมไม่รู้ว่า แม่แค่กลัวว่าผมจะหิว เดี๋ยวก็ต้องมาวุ่นวายหาข้าวให้ผมกินทีหลัง
ตอน 6 ขวบ
พ่อพาผมไปซื้อของขวัญคริสต์มาส
ตกลงกันว่าจะให้ผมซื้อได้หนึ่งอย่าง
แต่พอผมได้ตุ๊กตาอุลต้าแมนแล้ว ผมยังอยากได้เครื่องร่อนอีก
พอพ่อไม่ยอมให้ ผมก็ลงไปนอนกองกับพื้นร้องไห้ไม่ยอมหยุด
สุดท้ายพ่อก็ต้องซื้อให้ผมทั้งสองอย่าง
พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า การใช้วิธีนี้จะทำให้ผมได้ในสิ่งที่อยากได้
แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อแค่กลัวว่าการกระทำของผมจะทำให้พ่อขายขี้หน้าต่อหน้าคนอื่น
ตอน 8 ขวบ
ผมคิดอยากจะซักถุงเท้าของผม แต่แม่กลัวว่าผมจะซักไม่สะอาด
ผมอยากช่วยล้างจาน แม่กลัวผมจะทำจานแตก
ผมอยากเทน้ำร้อนให้ตัวเอง แต่แม่กลัวผมโดนน้ำร้อนลวก
แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า ผมไม่สามารถทำงานยากๆหรืองานที่ดูเหมือนมีอันตราย
แต่ผมไม่รู้ว่า แม่แค่ไม่อยากเสียเวลามานั่งแก้ไขงานให้ผม
ตอน 10 ขวบ
พ่อพาผมไปสมัครเรียนพิเศษสามแห่ง และเรียนกิจกรรมพิเศษอีกสองแห่ง
ทุกๆวันผมจะกลับถึงบ้านด้วยความอ่อนล้า
พ่อบอกผมว่า คนเราต้องอดทน จะได้เป็นเจ้าคนนายคน
พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า การศึกษาเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัส และน่าเบื่อมาก
แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อแค่อยากให้ผมดูโดดเด่นต่อหน้าญาติมิตร
ตอนอายุ 13
ผมเตะบอลไปทำกระจกหน้าต่างข้างบ้านแตก
พ่อพาผมไปกล่าวคำขอโทษแล้วจ่ายค่าเสียหายไป
พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า แค่กล่าวคำว่า "ขอโทษ"แล้วทุกอย่างก็จบสิ้นได้แบบง่ายดาย
แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อบ่นว่าเพื่อนบ้านถือโอกาสเรียกค่าเสียหายมากเกินไป
ตอนอายุ 15
ผมอยากเรียนเปียโนเหมือนเพื่อนๆ
แม่ไปขอยืมเงินญาติๆแล้วซื้อเปียโนให้ผมหลังหนึ่ง
แต่ผมเล่นได้แค่เดือนสองเดือนก็เบื่อแล้ว ไม่ยอมเล่นต่อ
แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า แม้ที่บ้านมีเงินไม่มาก แต่ก็สามารถใช้จ่ายได้อย่างสุรุ่ยสุร่าย
แต่ผมไม่รู้ว่า ที่บ้านต้องใช้เวลาสามปีกว่าจะจ่ายหนี้ก้อนนั้นจนหมด
ตอนอายุ 19
ผมกำลังจะสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย
พ่อบอกว่าเป็นทนายความจะช่วยให้ฐานะทางสังคมสูงขึ้น
พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า ผมแค่ทำตามเส้นทางที่พ่อวาดหวังไว้ก็พอ
แต่ผมไม่รู้ว่า นั่นเป็นเพราะพ่ออยากเติมเต็มความฝันให้ตนเอง
เพราะพ่อสอบไม่ติดตอนเป็นหนุ่ม
ตอนอายุ 20
ผมบอกแม่ว่าอยากได้มือถือรุ่นใหม่ล่าสุด
ผมอ้างว่าจะได้โทรกลับบ้านบ่อยๆ
แม่ส่งเงินมาให้ผมสามหมื่นบาททันที
แต่ผมโทรกลับบ้านปีละไม่กี่หน
แทบทุกครั้งจะเป็นการขอเงินเพิ่ม
แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า พ่อแม่เป็นตู้กดเงินชั้นเยี่ยมของผม
แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อแม่ได้แต่เฝ้ารอโทรศัพท์จากผมด้วยความคิดถึง
ตอนอายุ 24
พอเรียนจบ พ่อก็ช่วยฝากงานให้ผมได้ทำงานในบริษัทใหญ่โต
พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า ไม่ต้องตั้งใจเรียนหนังสือให้ดีก็สามารถหางานดีๆทำได้
แต่ผมไม่รู้ว่า พ่อต้องอาศัยเส้นสายขนาดไหนกว่าจะฝากผมเข้าทำงานได้
ตอนอายุ 27
ผมเปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น
พวกสาวๆมักบ่นว่าผมเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ
แม่บอกผมว่าพวกเขาไม่คู่ควรกับผม
แม่ทำให้ผมเข้าใจว่า ผมเป็นผู้ชายที่มีคุณสมบัติเลอเลิศ
แต่ผมไม่รู้ว่า ผมเป็นแค่ผู้ชายเส็งเคร็งที่หาความดีแทบไม่ได้
ตอนอายุ 32
ผมเป็นหนี้พนันบอลเป็นล้าน
พ่อโกรธจนล้มป่วย แต่สุดท้ายก็ช่วยผมเคลียร์หนี้จนหมด
พ่อทำให้ผมเข้าใจว่า ไม่ว่าผมจะทำอะไรผิด พ่อจะคอยช่วยแก้ปัญหาให้ผมได้เสมอ
แต่ผมไม่รู้ว่า นั่นเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่พ่อแม่เตรียมไว้ใช้ในยามแก่
ตอนอายุ 35
พ่อแม่ช่วยอะไรผมไม่ได้อีกแล้ว
ผมกับเพื่อนเข้าไปปล้นร้านค้า แล้วผมไปยิงเจ้าของร้านตายคาที่
ศาลตัดสินประหารชีวิตผม
พ่อแม่ตะโกนด่าว่าช่างไม่ยุติธรรมต่อครอบครัวเราเลย
ท่านลำบากมาทั้งชีวิต แต่ต้องได้รับผลกรรมที่ไร้ความปราณี
ในที่สุดผมเริ่มเข้าใจแล้วว่า
เพราะท่านใช้"ความรัก"
ฉกชิงโอกาสที่ผมจะเติบโตเป็นผู้เป็นคนครั้งแล้วครั้งเล่า
ฉกชิงเอาความสามารถในการอยู่รอดด้วยตัวผมเองครั้งแล้วครั้งเล่า
ฉกชิงเอาความรับผิดชอบในตัวของผมเองครั้งแล้วครั้งเล่า
วิธีการรักลูกแบบผิดๆ
สุดท้ายแลกมาซึ่งความเจ็บปวดของเราทั้งสองรุ่น
ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวอีกแล้วจากการสอนสั่งที่ผิดๆ
มันเป็นมือของพ่อแม่ผมเองที่ส่งผมขึ้นไปยังแท่นประหารอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พ่อครับ แม่ครับ
กรุณาดูแลตัวเองให้ดี
ผมคงต้องขอลาจากท่านแล้วในวันพรุ่งนี้
หวังว่าในภพหน้าของผม ผมจะได้เรียนรู้วิธีการรับผิดชอบในตัวผมเอง
สำหรับชาตินี้ ผมไม่แน่ใจว่าผมควรจะโกรธท่านหรือรักท่านกันแน่
อย่างไรก็ตาม ลูกต้องกราบขออโหสิกรรมที่ได้ก่อกรรมทำเข็ญให้ท่านต้องเสียใจกับลูกคนนี้มาตลอดชีวิต
จากลูกทรพีที่กำลังจะจากท่านไป
**************
“จดหมายจากลูกที่เป็นประธานบริษัท”
คุณพ่อ คุณแม่ครับ
พรุ่งนี้คือวันที่รอคอย ที่จะได้เห็นโรงงานของผมเริ่มต้นสายการผลิตอย่างเป็นทางการเป็นวันแรก ผมสามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ต้องขอขอบพระคุณท่านทั้งสองที่ได้สอนให้ผมรู้จักดูแลรับผิดชอบตัวเองมาตลอด ด้วยใจที่เปี่ยมสุขในขณะนี้ ภาพต่างๆในอดีตได้ค่อยๆปรากฏขึ้นทีละภาพภายในใจของผมอย่างซาบซึ้ง
ตอน 3 ขวบ ผมจำได้รางๆว่าผมวิ่งเล่นอย่างไม่ระมัดระวังจนไปสะดุดก้อนหินหกล้ม ท่านให้ผมลุกขึ้นเอง แล้วยังฟาดก้นผมไปสองที บอกผมว่า "ถ้าไม่ระวัง หกล้มคราวหน้า จะโดนฟาดก้นสี่ที" ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบ "ความระมัดระวัง" ของตนเอง
ตอน 4 ขวบ ผมเอาแต่ดูทีวีไม่ยอมกินข้าว ท่านบอกว่าถ้าไม่กินก็ต้องอดข้าวถึงพรุ่งนี้เช้า ผมนึกว่าท่านขู่เล่น สุดท้ายผมหาของกินทั่วห้องครัว ไม่มีอะไรเหลือให้ผมกินเลยแม้แต่ขนมปังสักชิ้น ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบในความ "เอาแต่ใจ" ของตนเอง
ตอน 6 ขวบ ท่านพาผมไปร้านขายของเล่นเพื่อซื้อของขวัญคริสต์มาส ตกลงกันว่าจะให้ผมแค่หนึ่งชิ้น แต่พอผมได้หุ่นยนต์มนุษย์เหล็กแล้ว ยังจะเอาเครื่องร่อนอีกชิ้น พอไม่ให้ผมก็งอแงนอนดิ้นร้องไห้อยู่กับพื้น ท่านไม่สนใจผม หันหลังแล้วเดินออกจากร้านไปเลย สุดท้ายผมต้องหยุดร้อง แล้วรีบเดินตามกลับบ้าน ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "ความไม่เข้าท่า" ของตนเอง
ตอน 8 ขวบ ผมหัดซักถุงเท้า ท่านสอนวิธีการซักล้างให้สะอาด ผมหัดล้างจาน ท่านสอนผมรู้วิธีการล้างที่ถูกต้อง เพื่อให้สะอาดและจานไม่แตก ผมอยากเทน้ำร้อนด้วยตัวเอง ท่านสอนให้รู้จักวิธีการเทที่ไม่ให้น้ำร้อนลวกมือ ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "การดูแลชีวิต" ของตนเอง
ตอน 10 ขวบ ผมเห็นเพื่อนๆมีโอกาสไปเรียนกิจกรรมนอกหลักสูตร เรียนยูโด เรียนศิลปะ เรียนสาระพัดอย่าง ท่านบอกผมว่า เวลาเรียนหนังสือในโรงเรียนให้ตั้งใจเรียน เวลาเลิกเรียนก็เป็นเวลาเล่นพักผ่อนให้เต็มที่ หากยังมีเวลาว่างก็หาหนังสือมาอ่าน ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "การจัดสรรเวลา" ของตนเอง
ตอนอายุ 13 ผมเตะฟุตบอลไปทำกระจกหน้าต่างข้างบ้านแตก ท่านพาผมไปวัดและไปซื้อกระจกด้วยกัน แล้วพาผมไปช่วยกันเปลี่ยนกระจกหน้าต่างให้ข้างบ้านจนเสร็จเรียบร้อย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดค่อยๆหักจากค่าขนมของผม ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "ความผิดพลาด" ของตนเอง
ตอนอายุ 15 ผมอยากเรียนเปียโนเหมือนเพื่อนๆ ท่านพาผมไปซื้อหีบเพลง ท่านบอกผมว่าเป่าหีบเพลงให้เก่งก่อน แล้วค่อยตัดสินใจไปเรียนเปียโน ผมก็เลยเป่าหีบเพลงจนกระทั่งทุกวันนี้ และไม่เคยคิดจะไปหัดเล่นเปียโนอีกเลย ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "ความยืนหยัด" ของตนเอง
ตอนอายุ 19 กำลังจะสอบเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัย ท่านช่วยให้คำแนะนำและวิเคราะห์เกี่ยวกับคณะต่างๆในมหาวิทยาลัย ให้ผมถามใจตัวเองว่า อยากเรียนอะไรแล้วจงตัดสินใจด้วยตัวผมเอง ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "อนาคต" ของตนเอง
ตอนอายุ 20 ผมอยากเปลี่ยนมือถือ ท่านบอกว่าของเก่ายังไม่เสียอย่าเพิ่งเปลี่ยน ไม่เช่นนั้นก็ไปหางานพิเศษทำเพื่อซื้อเอง ผมไปรับจ้างสอนพิเศษเก็บเงินจนซื้อมือถือเครื่องใหม่ได้ แต่ความสำเร็จครั้งนี้ทำให้ผมภูมิใจยิ่งกว่าที่ได้มือถือเครื่องใหม่ ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "ความอยาก" ของตน
ตอนอายุ 24 ผมเรียนจบและอยากสร้างธุรกิจของตนเอง ท่านบอกผมว่าอย่าใจร้อน หางานพื้นฐานฝึกให้ตนมีประสบการณ์ก่อน สองปีถัดมา ผมตัดสินใจเปิดบริษัทของตนเอง ท่านบอกผมว่าหากสามารถรับได้กับความล้มเหลวก็ไปเปิดได้ ท่านให้ทุนผมมาหนึ่งแสนเหรียญ ให้ผมคืนท่านภายใน 4 ปี ผมรับปากว่าผมจะต้องคืนแน่นอน พร้อมจะแถมบ้านใหม่ให้อีกหนึ่งหลัง ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "ความสำเร็จ" ของตนเอง
ตอนอายุ 27 ผมพาเพื่อนสาวมาแนะนำให้รู้จัก ท่านชมผมเสียเลอเลิศต่อหน้าแฟนผม ท่านบอกผมตอนหลังว่า ต้องแสดงออกถึงคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมของเราเพื่อจะดึงดูดคู่ครองที่มีคุณสมบัติโดดเด่นให้สนใจเรา แล้วท่านยังบอกผมว่า เรื่องความรักหรือคู่ครองให้ผมตัดสินใจเอง ขอให้รักกันจริงก็เดินหน้าต่อไปได้เลย ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "ความสุข" ของตนเอง
ตอนอายุ 32 ผมมอบกุญแจบ้านหลังใหม่ให้ท่าน พอท่านรับกุญแจจากผมแล้วก็หันหลังให้ผม ผมสังเกตเห็นว่าไหล่ท่านกำลังสั่น ผมรู้ว่าท่านกำลังหลั่งน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ ท่านสอนให้ผมรู้จักรับผิดชอบเกี่ยวกับ "คำมั่นสัญญา" ของตนเอง
ตอนอายุ 35 โรงงานของผมพร้อมจะเปิดแล้ว ญาติๆที่เคยกล่าวหาว่าท่านใจร้าย ใจจืดใจดำกับผมมาตลอดต้องปิดปากเงียบกันทุกคน ผมรู้ซึ้งว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ท่านใส่ใจผมทุกขั้นตอน และผมจะใช้วิธีเดียวกันนี้สอนลูกผมให้รู้จักรับผิดชอบ "ตัวเอง" ให้จงได้ ผมแน่ใจว่าลูกๆต้องดีเด่นกว่าผมแน่นอน
ขอบคุณทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ผมไม่มีวันลืมความใส่ใจในทุกสิ่งทุกอย่างจากท่านทั้งสอง ไม่เช่นนั้นผมจะไม่มีวันที่มาถึงจุดนี้ได้แน่นอน ลูกคนนี้จะไม่มีวันทำให้ท่านผิดหวัง
จากลูกที่รักพ่อรักแม่สุดหัวใจ
**********
"ใจอ่อนกับลูกคือการทำร้าย
ใจแข็งกับลูกคือความรัก
หากคิดแต่จะรักลูกแบบไม่ลืมหูลืมตา
พึงระวังต้องตามเยียวยาให้ลูกไม่จบไม่สิ้น"
คติพจน์สอนลูกของชาวยิว
Cr. "ขจรศักดิ์" แปลและเรียบเรียง
37
#สุนทรพจน์ช็อกโลก

“มาดาม หัวชุนยิง” โฆษกประจำกระทรวง
ต่างประเทศของจีน กล่าวสุนทรพจน์ที่แหลมคมและลึกซึ้งต่อชาวโลก  เมื่อเร็ว ๆ นี้  ด้วยถ้อยคำเหล่านี้  :

* ชาวต่างประเทศที่กินข้าวของจีน ห้ามทำจานข้าวของจีนแตก !

*ถ้อยคำเหล่านี้  ถือได้ว่า  มีความหมายลึกซึ้งและกินความมาก .. !

1).  จีนจะไม่ยอมอดทน  ต่อชาวต่างชาติที่มาทำมาหากินอยู่ในจีน  แต่ยังจ้องทำลายล้างจีน
2). จีนจะไม่ยอมให้ชาวต่างชาติ  นำเรื่องการค้า
มาใช้เป็นเรื่องการเมือง
3). ไม่ต้องมาบอกจีนว่าให้ทำอะไร หรือไม่ทำอะไรให้ดูแจ๊คหม่าเป็นตัวอย่าง
4). จีนจะไม่ยอมให้ต่างชาติคนหนึ่งคนใด
บริษัทใด ๆ มหาเศรษฐีคนใด กองทุนที่ทรงอิทธิพล ฯลฯ ใด ๆ มากดดันจีน  ไม่ว่าจะเป็นทางหนึ่ง 
หรือทางใด !

*นี่คือเรื่องที่ขอร้องไปยัง โกลด์แมน แซ็กส์ ซิติแบงก์ เอชเอ็นบีซี แอปเปิล ซัมซุง ร็อธชายด์ ฯลฯ และ  คนที่มีคุณสมบัติ  คล้าย  โซลอส, วอร์เร็น บัฟเฟ่ต์ ฯลฯ ด้วย

*  จีนจะไม่ยอมอ่อนข้ออย่างเด็ดขาดอีกต่อไป 
ที่จะให้ใครก็ตาม  มารุมย่ำยีจีน เหมือนบรรพบุรุษที่แปดเปื้อนด้วยเรื่องฝิ่น และผู้ที่ต้องการให้จีนตกเป็นเมืองขึ้น รวมทั้งผู้ที่ต้องการทำลายล้างชนชาติทั่วไปทุกชนชาติ

*บุคคลหนึ่งบุคคลใด  บริษัทใด ๆ สถาบันการเงิน  หรือสถาบันที่คล้ายคลึงกัน เช่น  เอ็นจีโอ ซึ่งนิ่งเฉยเงียบกริบ ไม่ยอมเข้าใจคำพูดของมาดามหัว   
จะถูกโยนออกจากจีน

*  คนทั้งหลายซึ่งไม่เข้าใจ  วลี สุภาษิต หรือสำนวนของจีน จะต้องเรียนรู้ และเข้าใจภาษาและวัฒนธรรมของจีน

*  เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัทเอชแอนด์เอ็ม บริษัทข้ามชาติของสวีเดนถูกสั่งปิดกิจการ  และห้ามประกอบกิจการในจีน  อีกต่อไป

*  จีนขอบอกแก่สหรัฐและประเทศตะวันตก ว่า
   ...  พวกคุณ  มีระบบการเมืองเป็นของคุณเอง
และเราก็มีระบบ  ที่เป็นของเราเหมือนกัน

- การที่คุณต้องการให้ประเทศของคุณดำเนินไปตามระบบของคุณเอง นั่นเป็นเรื่องที่ถูกต้อง
- ในประเทศจีน เราก็มีกฎระเบียบต่าง ๆ ที่เป็นของเราเอง เรา จึงต้องการให้บรรดาเด็ก ๆ ของเรา  มีสัมมาคารวะ มีความประพฤติดี  และเชื่อฟังคำสั่งสอน

*นี่คือวัฒนธรรมของจีน และเมื่อพวกคุณมาอยู่ที่นี่แล้ว พวกคุณ  ก็จะต้องยึดถือและปฏิบัติตามนี้
ถ้าพวกคุณไม่สามารถปฏิบัติตามได้  พวกเรา
ก็จะโยนพวกคุณ  ออกไปจากจีน !

ชำเลือง ตรีเดชา แปล
แปลจาก Mdm  Hua's Speech
38

ปัจจุบันผมได้พัฒนาระบบ GDMS เป็น Version 2 ซึ่งในระบบปัจจุบันมี 3 ระบบย่อย ดังนี้
1. e-Document --> เป็นระบบหนังสือเวียนที่เราใช้ในการเกษียนหนังสือปัจจุบัน
2. ระบบบันทึกข้อความภายใน -->  เป็นระบบจัดทำบันทึกข้อความเสนอ ผู้อำนวยการ และผู้พิพากษาหัวหน้าศาล
3. ระบบจัดเก็บคำสั่งและประกาศ --> เป็นออกเลขคำสั่งอัตโนมัติ และจัดเก็บประกาศและคำสั่ง
และผมได้ทำ   Batch file ในการสำรองข้อมูลระบบ GDMS ดังนี้
1. BackupDB_GDMS.bat สำรองฐานข้อมูล sql
2. BackupPDF_GDMS.bat สำรองไฟล์ PDF หนังสือในระบบ
และจัดทำคู่มือในการตั้งค่าการสำรองนี้ด้วย

สามารถดาวน์โหลดได้ที่  https://drive.google.com/drive/folders/1X4sLRUFW7FzAznBUWfbUKWv3zXcaSoVR?usp=sharing
39
โปรแกรมศาลใหม่160 / ปรับแต่ง เพิ่มเติมรายงาน
« กระทู้ล่าสุด โดย admin เมื่อ 11/04/24 »
F12

Response

payload

Copy  Volume



https://jsonviewer.stack.hu/
40
49LF550T.ATM
:55LF595.ATD
:55LF595T.ATM
:60LF630T.ATD
:60LF630T.ATM
:60LX341C.ATMD
:60LX540S.ATC
:60LX540S.ATMD
พาร์ทบอร์ด EAY63689101
:EAX66203101(1.8)
หน้า: 1 2 3 [4] 5 6 ... 10